หลังจากกรมสรรพากรได้ออกประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบบัที่ 344) เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2562 เกี่ยวกับการจัดเก็บภาษี หัก ณ ที่จ่าย จากรายได้ดอกเบี้ยในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ในส่วนที่ไม่เกิน 20,000 บาท โดยกำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ผู้รับฝากเงินต้องนำส่งข้อมูลการรับดอกเบี้ยของผู้ฝากเงินให้กับกรมสรรพากรตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2562 จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมนั้น
“ฐานเศรษฐกิจ”รวบรวมข้อมูลบัญชีออมทรัพย์จากข้อมูล ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2562 พบว่า มีจำนวนเงินรับฝาก 99 ล้านบัญชี คิดเป็นเงิน 13.77 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้เป็นบัญชีออมทรัพย์ 88 ล้านบัญชี คิดเป็นเงิน 7,969.67 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น เงินรับฝากไม่เกิน 5 หมื่นบาท 77 ล้านบัญชี เป็นเงิน 367,107 ล้านบาท เงินรับฝากเกิน 5 หมื่นบาท แต่ไม่เกิน 1 แสนบาท 3.48 ล้านบัญชี เป็นเงิน 244,427 ล้านบาท เงินรับฝากเกินกว่า 1 แสนบาท แต่ไม่เกิน 2 แสนบาท 2.68 ล้านบัญชี เป็นเงิน 371,160 ล้านบาท เงินรับฝากเกิน 2 แสนบาท แต่ไม่เกิน 5 ล้านบาท 2.27 ล้านบัญชี เป็นเงิน 708,205 ล้านบาท เงินรับฝาก 5 แสนบาท แต่ไม่เกิน 1 ล้านบาท 980,650 บัญชี เป็นเงิน 681,062 ล้านบาท และวงเงินที่เกินกว่า 1 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 10 ล้านบาท 906,275 บัญชี เป็นเงิน 2,098,147 ล้านบาท
นายนริศ สถาผลเดชา เจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี ธนาคารทหารไทย หรือ TMB Analyticsระบุว่า ผลกระทบต่อผู้ฝากเงินรายย่อยจะมีค่อนข้างสูง เนื่องจากมีบัญชีออมทรัพย์มากกว่า 80 ล้านบัญชี วงเงินเกือบ 8 พันล้านบาท ซึ่งประเด็นหลักอยู่ที่ผู้ฝากเงินรายย่อย ที่ส่วนใหญ่อยู่ในต่างจังหวัดและผู้สูงอายุ กรณีไม่สามารถให้ความยินยอมได้ทันตามประกาศของกรมสรรพากร จะถูกหักภาษีทันทีจากรอบบัญชีที่มีรายได้ดอกเบี้ย แม้กรมสรรพากรจะเปิดช่องให้สามารถขอคืนเงินภาษีในภายหลังได้ แต่ก็ยังเป็นอุปสรรคในการขอเงินคืนสำหรับประชาชนรายย่อยและผู้สูงอายุ ซึ่งในทางปฏิบัติ กรมสรรพากรน่าจะพิจารณาขยายเวลาในการบังคับใช้ เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสไปให้ความยินยอมตามกำหนดเวลาก่อน
ส่วนของธนาคาร ส่วนใหญ่ทุกธนาคารอยู่ระหว่างการจัดทำหนังสือให้ความยินยอมเพื่อให้เป็นไปตามประกาศของกรมสรรพากรและเตรียมระบบงานรองรับ เมื่อมีการดำเนินการและหาข้อสรุปได้ระหว่างกรมสรรพากรกับสมาคมธนาคารไทยแล้ว จึงจะทำประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผู้มีบัญชีเงินฝากติดต่อธนาคารเพื่อให้ความยินยอมก่อน
