ถ้าจะพูดถึงเรื่องการคุมกำเนิด เเละการป้องกันโรคติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์นั้น การใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกวิธีถือได้ว่าเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพวิธีการหนึ่ง เเต่หลายคนคิดว่ารู้จักถุงยางอนามัยเป็นอย่างดี เเละคิดว่าไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจ เพราะอาจจะเคยใช้บ่อยเป็นประจำ เเละมันก็ใช้ง่ายๆ ไม่มีอะไรซับซ้อน แต่รู้หรือไม่ว่า หลายคนยังมีความเชื่อที่ผิดๆ ในการใช้ถุงยางอนามัยอยู่ ซึ่งความเชื่อผิดๆ เหล่านั้นมีอะไรบ้าง และความจริงเป็นเช่นไร เรามีคำตอบมาให้คุณแล้ว มาดูกันเลย
1. ใช้ถุงยางอนามัยสามารถป้องกันโรคได้ 100% คงไม่มีอะไรเเน่นอนครับ เพราะโรคติดต่อไม่ได้ติดต่อกันผ่านการมีเพศสัมพันธ์เพียงอย่างเดียว ระหว่างที่มีกิจกรรมร่วมรักกัน เราอาจติดโรคติดต่อผ่านช่องทางอื่น เช่น การจูบ การสัมผัสผิวหนัง เป็นต้น ดังนั้นทางที่ดีไม่ควรสำส่อน ควรมีอะไรกับเฉพาะคู่รักของคุณ ที่คุณมั่นใจจะเป็นการดีที่สุด เเล้วก็อย่าลืมหมั่นพากันไปตรวจโรคด้วยนะครับ
2. ใช้ถุงยางอนามัยนั้นทำให้เซ็กส์ไม่ถึงใจ ความเชื่อเช่นนี้ ถือเป็นความเชื่อที่ล้าสมัยมาก เพราะด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีปัจจุบัน ทำให้สามารถผลิตถุงยางได้อย่างบางเฉียบอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ความบางเพียง 0.01 มิลลิเมตรยังมีเลย ซึ่งความบางขนาดนี้ทำให้รู้สึกเหมือนไม่ได้ใส่ เวลาสอดใส่ ฟิลลิ่งจึงมาเต็ม อีกทั้งปัจจุบันถุงยางยังมีให้เลือกผิวสัมผัสเเบบต่างๆ ตามใจผู้ใช้ ให้คุณได้เสียวถึงใจอย่างเเน่นอน นอกจากนี้ยังมีการใส่กลิ่น เเละสารให้คุณสามารถมีเซ็กส์ที่ อึด ถึก ทน อีกด้วย
3. ถ้าอยากปลอดภัยยิ่งขึ้น ต้องใส่ถุงยางหลายๆ ชั้น ความเชื่อนี้ถือเป็นความเชื่อที่ผิดมหันต์เลยทีเดียว เพราะการใส่ถุงยางหลายๆ ชั้นนั้น นอกจากจะใส่ยากเเล้ว เวลาใช้งาน ถุงยางจะเกิดการเสียดสีกันเอง เเละเพิ่มโอกาสที่มันจะฉีกขาดได้ง่ายมากขึ้นด้วย
4. ประตูหลัง ถุงยางเอาอยู่ ถุงยางอนามัยถูกออกเเบบมาให้สำหรับการมีเพศสัมพันธ์ผ่านช่องทางปกติ คือเข้าทางด้านหน้าตามปกติ ดังนั้นการมีเพศสัมพันธ์เเบบพลิกเเพลง เช่น ผ่านทวารหนักนั้น เป็นเรื่องที่เสี่ยงมาก เเละถุงยางอนามัยอาจจะเอาไม่อยู่ได้ เพราะช่องหลังนั้นทั้งเเคบ ทั้งเสียดสี ดังนั้นใครเล่นผาดโผนเช่นนี้ก็ควรใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ
5. เก็บถุงยางไว้ในกระเป๋าตังค์สิ สะดวกดี นี่ก็เป็นอีกหนึ่งความเชื่อที่ผิด เเละเป็นไอเดียที่มักง่ายมากๆ การเก็บถุงยางที่ถูกต้องนั้นควรหลีกเลี่ยงการเก็บไว้ในที่ที่ร้อนเเละมีความชื้นสูง ในกระเป๋าตังค์นั้นทั้งร้อนเเละมีความชื้นสูง เเละเสี่ยงต่อการถูกบีบ อัด ทับ เสียดสีจนฉีกขาด จึงไม่ใช่ที่ที่เหมาะสมในการเก็บถุงยางเเม้ว่ามันจะสะดวกในการหยิบมาใช้ก็ตาม
6. ใช้ถุงยางซ้ำได้ ไม่เห็นเป็นไร คุณไม่จำเป็นต้องประหยัดกับเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้หรอก เพราะถุงยางที่ใช้เเล้วจะมีประสิทธิภาพต่ำลงอย่างมาก มีการยืด เเละเสี่ยงต่อการฉีกขาด ดังนั้นไม่ควรประหยัดในเรื่องนี้ เพื่อความปลอดภัย เเละสบายใจ
7. รอจนเกือบเสร็จก็ได้ ค่อยใส่ถุง นับเป็นความประมาทอีกอย่างหนึ่งถ้าคิดจะทำเเบบนี้ เพราะถุงยางอนามัยไม่ได้มีไว้ป้องกันการท้องเท่านั้น เเต่เอาไว้ป้องกันโรคติดต่อด้วย เเล้วคุณมั่นใจกับคนที่คุณจะมีอะไรด้วยเเค่ไหนว่าเธอหรือเค้านั้นปลอดภัยจากโรคติดต่อ การที่เราไม่ใส่ถุงยางนั้น ความเสี่ยงมันเริ่มขึ้นตั้งเเต่เริ่มสอดใส่กันเเล้ว อีกทั้งอสุจิอาจเล็ดลอดปะปนออกมากับน้ำหล่อลื่นของเพศชายได้ทุกเมื่อ ทำให้เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ด้วย
8. ถุงยางสามารถป้องกันการท้องได้ 100% ความเชื่อนี้เป็นความเข้าใจที่เกือบจะถูกต้องทั้งหมด เพราะในบรรดาวิธีป้องกันการตั้งท้อง การใส่ถุงยางอนามัยนับเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แต่อย่างไรก็ตาม การใช้ถุงยางอนามัยก็ยังไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% อยู่ดี คู่รักที่มีการใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธีก็มีโอกาสพลาดตั้งครรภ์ได้สูงถึง 2% และหากใช้ไม่ถูกวิธีจะมีโอกาสพลาดตั้งครรภ์มากขึ้น ดังนั้น เพื่อให้เกิดความสบายใจและมั่นใจในการใช้ถุงยาง ให้สามารถป้องกันโรคและลดโอกาสการตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อมขึ้น ผู้ใช้ควรศึกษาวิธีการใช้ที่ถูกต้องเสียก่อน
