โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

8 สัญญาณชี้ว่าอีกฝ่ายกำลังพูดโกหก

issue247.com

อัพเดต 04 ธ.ค. 2562 เวลา 03.42 น. • เผยแพร่ 09 ธ.ค. 2562 เวลา 00.00 น.

วันนี้คุณพูดคุยกับคนอื่นมาแล้วกี่คน? เป็นไปได้ว่าคนเหล่านั้นพูดจาโกหกคุณและมากกว่าหนึ่งครั้งด้วย นี่คือความจริงที่ยากจะยอมรับ แม้แต่เพื่อนสนิทและเพื่อนร่วมงานก็ยังโกหกคุณอยู่เป็นประจำ โรเบิร์ต เฟลด์แมน นักจิตวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยแมสซาชูเซ็ตต์ศึกษาเรื่องการโกหกมามากกว่าหนึ่งทศวรรษแล้ว การวิจัยของเขาได้บทสรุปอันน่าตื่นตะลึง ผู้คนมากกว่าร้อยละ 60 พูดโกหกระหว่างการสนทนาเพียง 10 นาทีและจะโกหกเฉลี่ย 2-3 ครั้งในช่วงเวลาสั้นๆ ที่สำคัญคนส่วนใหญ่ไม่รู้ตัวว่าพูดโกหกจนกระทั่งจบการสนทนาและมาดูวิดีโอย้อนหลัง แม้ว่าผู้ชายกับผู้หญิงจะโกหกบ่อยพอๆกันแต่ก็มีเหตุผลที่ต่างกัน เฟลด์แมนกล่าวว่า “ผู้หญิงมักจะโกหกเพื่อทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดี ขณะที่ผู้ชายจะโกหกเพื่อทำให้ตัวเองดูดีขึ้น” การเรียกคนอื่นว่าจอมโกหกหรือยัยขี้ปดมดเท็จโดยไม่มีเหตุผลเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก อย่างไรก็ตามลองสังเกตสัญญาณต่อไปนี้แล้วคุณจะไม่ถูกคนอื่นโกหกและเอาเปรียบอีกต่อไป

 

1. หาอะไรปิดปาก

คนส่วนใหญ่มักจะปิดปากเวลาที่โกหก นั่นคือภาษากายที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัวเพื่อต้องการยุติการสนทนา นอกจากนี้ก็ยังมีอวัยวะส่วนอื่นๆอีก เช่น ศีรษะ คอ หรือหน้าท้อง เนื่องจากการโกหกจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกอ่อนแอและเหมือนกำลังถูกโจมตี

 

2. พูดซ้ำๆและบอกรายละเอียดมากเกินไป

คนโกหกจะไม่ชอบความเงียบ ดังนั้นพวกเขาจึงพยายามพูดมากจนเกินความจำเป็นและให้ข้อมูลมากกว่าที่ร้องขอ บางครั้งยิ่งคุณเงียบนานเท่าไหร่..อีกฝ่ายก็จะยิ่งหาเรื่องมาพูดเพื่อให้คุณเชื่อมากเท่านั้น พวกเขาจะพูดวลีเดิมๆซ้ำแล้วซ้ำอีกเนื่องจากต้องการยื้อเวลาเพื่อรวบรวมความคิดของตัวเอง

 

3. เตรียมหนี

ผู้ที่กำลังโกหกมักจะหันหน้าไปยังประตูหากพวกเขากำลังนั่งอยู่ แต่ถ้ายืนอยู่ก็อาจจะขยับเข้าไปใกล้ประตูมากขึ้น หรืออาจเปลี่ยนจากท่าสบายๆมาเป็นท่าเตรียมพร้อมที่จะหนี

 

4. คำพูดและท่าทางไม่ตรงกัน

การโกหกด้วยคำพูดเป็นเรื่องง่าย แต่ท่าทางของคนเรานี่แหละที่รู้และจะเผยความจริงออกมา สัญญาณชัดเจนว่าอีกฝ่ายกำลังพูดโกหกคือเมื่อคำพูดเป็นอย่างหนึ่งแต่ท่าทางของพวกเขากลับแสดงออกมาคนละทิศคนละทาง ยกตัวอย่างเช่นเมื่ออีกฝ่ายกำลังเล่าเรื่องเศร้าแต่กลับเผลอยิ้มออกมาและอากัปกิริยาก็มีความรู้สึกตื่นเต้น

 

5. จังหวะการหายใจเปลี่ยน

หลายคนจะเริ่มหายใจแรงขึ้นเมื่อพูดโกหกเนื่องจากการโกหกจะทำให้อัตราการเต้นของหัวใจและระดับการไหลเวียนของเลือดเปลี่ยน บางครั้งคนโกหกจะประสบกับปัญหาในการพูดด้วยเนื่องจากปากจะแห้งซึ่งเป็นการตอบสนองต่อการโกหกของร่างกาย

 

6. การเคลื่อนไหวของสายตาเปลี่ยน

ดวงตาเปรียบเสมือนหน้าต่างของหัวใจซึ่งเป็นความจริงโดยเฉพาะเมื่ออีกฝ่ายกำลังโกหก ตำแหน่งของสายตาไม่ใช่เรื่องสำคัญ..สำคัญตรงการเปลี่ยนทิศทางต่างหาก ยกตัวอย่างเช่นบางคนเงยหน้าไปทางขวาเมื่อพยายามนึกถึงรายละเอียดแต่จะมองลงเมื่อพวกเขาโกหก ขณะที่คนอื่นๆอาจเป็นไปในทางตรงกันข้าม ทว่าคุณต้องรู้ลักษณะการมองปกติของพวกเขาก่อน อย่างไรก็ตามที่แน่ๆคนโกหกมักจะมองไปที่ประตูเพื่อหาทางหนีนั่นเอง

 

7. ก้าวร้าวโดยไม่มีเหตุผล

เช่น การจ้องตาโดยไม่กระพริบซึ่งเป็นความพยายามที่จะทำให้คุณเชื่อว่านี่คือความสัตย์จริง

 

8. อยู่ไม่สุข

อาการกระสับกระส่ายถือเป็นสัญญาณที่บ่งบอกชัดเจนถึงพลังงานความเครียด เช่น เล่นผม สั่นขา เคาะนิ้ว ดึงหู และอื่นๆอีกมากมาย การเดินลากเท้าก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณของพลังงานความเครียดที่เกี่ยวข้องกับการโกหก เนื่องจากคนโกหกจะรู้สึกอ่อนแอและร่างกายก็ต้องการหนีด้วย

 

สรุป

ข้อบ่งชี้ด้านบนเป็นแค่พฤติกรรมโดยทั่วไปของคนปกติเท่านั้น หากเพื่อนร่วมงานของคุณเป็นโรคสมาธิสั้นและมีอาการกระสับกระส่ายบ่อยๆ คุณก็ไม่สามารถมองได้ว่านี่คือสัญญาณของการโกหก..เช่นเดียวกับผู้ป่วยทางจิต ดังนั้นสิ่งที่คุณเห็นก็อาจไม่ใช่สิ่งที่คุณคิด

 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0