อินเดียจ่อแซงหน้าจีนขึ้นเป็นประเทศที่มีประชากรมากสุดของโลก ภายในเวลาไม่ถึงทศวรรษ
เมื่อเร็วๆ นี้ สหประชาชาติ (ยูเอ็น) เปิดเผยรายงานฉบับใหม่ “World Population Prospects” ประจำปี 2562 ที่ระบุว่า ปัจจุบัน อินเดีย และจีน มีประชากรรวมกันแล้วอยู่ที่ราว 7,700 ล้านคน หรือคิดเป็นสัดส่วน 37% ของประชากรโดยรวมของโลก โดยที่จีนมีประชากรอยู่ราว 1,400 ล้านคน และอินเดียที่ 1,300 ล้านคน
แต่ภายในปี 2570 อินเดียจะมีประชากรมากกว่าจีน และเมื่อถึงปี 2593 คาดว่า ช่วงห่างระหว่างประชากรของ 2 ประเทศจะขยายตัวออกมากขึ้น
“ระหว่างปี 2562 – 2593 คาดว่า 55 ประเทศหรือดินแดนจะมีจำนวนประชากรลดลงอย่างหน้อย 1%” รายงานระบุ โดยชี้ว่า สาเหตุหลักมาจากอัตราการเดิกลดลง และในบางกรณีเป็นผลมาจากการย้ายถิ่น
เหตุผลดังกล่าวเป็นสาเหตุให้รายงานประเมินตัวเลขประชากรจีนว่าจะอยู่ที่ 1,100 ล้านคน น้อยกว่าอินเดียที่ 1,500 ล้านคน พร้อมคาดการณ์ว่า ภายในปี 2593 ทั้งโลกจะมีประชากรอยู่ที่ 9,700 ล้านคน
นอกจากอินเดีย จะมีจำนวนประชากรแซงหน้าจีนแล้ว รายงานของยูเอ็นยังประเมินว่า ไนจีเรียจะก้าวขึ้นมาเป็นประเทศที่มีประชากรมากสุดเป็นอันดับ 3 ของโลก ภายในปี 2593 ที่ราว 733 ล้านคน เบียดสหรัฐร่วงลงไปอยู่ในอันดับ 4 ที่ 434 ล้านคน ส่วนปากีสถานจะยังอยู่ในอันดับ 5
“ประเทศที่มีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่วนใหญ่เป็นประเทศที่มีฐานะยากจนที่สุด และการเพิ่มขึ้นของประชากรก็จะทำให้เกิดปัญหาเพิ่มขึ้นเช่นกัน” หลิว เฉินหมิน รองเลขาธิการฝ่ายกิจการเศรษฐกิจ และสังคม ของยูเอ็น ระบุ
ทั้งนี้ มากกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนประชากรโลกที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นภายในปี 2593 จะไปกระจุกตัวอยู่ใน 9 ประเทศ รวมถึง อินเดีย ไนจีเรีย ปากีสถาน คองโก เอธิโอเปีย แทนซาเนีย อินโดนีเซีย อียิปต์ และสหรัฐ
