โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

กีฬา

74ยังแจ๋ว! เปิดใจ ‘คุณหญิงชดช้อย’ นักกีฬาไทยอายุเยอะสุดลงชิงชัย 'บริดจ์' ในเอเชี่ยนเกมส์ 2018

MATICHON ONLINE

อัพเดต 21 ส.ค. 2561 เวลา 12.21 น. • เผยแพร่ 21 ส.ค. 2561 เวลา 08.17 น.
DSC_1334

‘คุณหญิงชดช้อย’ เปิดใจรู้สึกเป็นเกียติได้กลับมารับใช้ทีมชาติไทยในกีฬาบริดจ์ เอเชี่ยนเกมส์ 2018 นักกีฬาอายุเยอะสุดทัพไทย และเป็นอันดับ 5 ของนักกีฬาทั้งหมด พร้อมวางโครงการ ‘มินิบริดจ์’ วางรากฐานพัฒนาตั้งแต่ระดับเยาวชน

คุณหญิงชดช้อย โสภณพนิช นายกสมาพันธ์บริดจ์ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก และนายกกิติมศักดิ์สมาคมกีฬาบริดจ์แห่งประเทศไทย ลงแข่งขันในนามนักกีฬาบริดจ์ทีมชาติไทย และเป็นนักกีฬาทีมชาติไทยที่อายุเยอะที่สุดในวัย 74 ปี ที่ลงแข่งขันในกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่กรุงจากาตาร์ ประเทศอินโดนีเซีย ในกีฬาบริดจ์ ประเภททีมผสม เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม

คุณหญิงชดช้อย โสภณพนิช  ลงแข่งขันในประเภททีมผสม ร่วมกับสมชัย ใบสมุทร, ธฤตชลธร ชดช้อย, กนกพร เจนบรรจง, ธีรศักดิ์ จิตต์งามกุศล, กฤษดายุทธ์ เปล่งทรัพย์ ลงสนามรอบแรก แบบพบกันหมด ที่จาการ์ตา อินเตอร์เนชั่นแล เอ็กซ์โปร ย่านเคมาโยราน

โดยจะแข่งขันทั้งหมด 14 รอบ ประกอบด้วย วันที่ 21 สิงหาคม 3 รอบ, วันที่ 22 สิงหาคม 3 รอบ, วันที่ 23 สิงหาคม 3 รอบ, วันที่ 24 สิงหาคม 3 รอบ, วันที่ 25 สิงหาคม 2 รอบ และนำคะแนนมาคัดเอา 4 ทีมผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ แข่งขันวันที่ 26 สิงหาคม และรอบชิงชนะเลิศ วันที่ 27 สิงหาคม

คุณหญิงชดช้อย เปิดเผยว่า เล่นกีฬาบริดจ์มาตั้งแต่เมื่อ 42 ปีที่แล้ว จากนั้นปีต่อมาก็ติดทีมชาติไทย และลงเล่นเรื่อยมา โดยในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 26 เมื่อปี 2011 ที่ประเทศอินโดนีเซีย สามารถคว้าเหรียญทองประเภททีมผสมมาครองได้ครั้งแรก และในครั้งนี้ถือเป็นเรื่องดีที่กีฬาบริดจ์ถูกบรรจุชิงชัยในกีฬาเอเชี่ยนเกมส์เป็นครั้งแรก

คุณหญิงชดช้อย กล่าวอีกว่า ถือเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้กลับมาแข่งขันให้กับทีมชาติไทยอีกครั้ง และก็ดีมากที่ส่วนตัวเป็นผู้ผลักดัน และทำงานควบคู่กับอินโดนีเซียในการบรรจุกีฬาบริจด์เข้าชิงชัยในเอเชี่ยนเกมส์ครั้งนี้ ซึ่งเป็นการทำให้สายตาชาวโลกได้เห็นการพัฒนากีฬาในเอเชียอีกด้วย ส่วนความคาดหวังก็อยากจะทำผลงานให้ดีที่สุด เพื่อผ่านเข้าถึงรอบชิง

“ดิฉันคิดว่าในเอเชี่ยนเกมส์ครั้งนี้ทีมไทยเราหวังคว้าเหรียญประเภทคู่ เพราะมีทีมคู่ที่เก่ง ส่วนตัวดิฉันเองก็หวังว่าจะผ่านเข้าถึงรอบชิง ส่วนการใช้ชีวิตในการเป็นนักกีฬาทีมชาติไทยในเอเชี่ยนเกมส์ครั้งนี้ต้องบอกว่า อาหารการกินเขาดีมากเลย และก็มีการสนับสนุนให้นักกีฬาไทยได้ทานอาหารไทยด้วย ทำให้นักกีฬาค่อนข้างมีความพร้อม” คุณหญิงชดช้อยกล่าว

คุณหญิงชดช้อยกล่าว กล่าวอีกว่า ส่วนตัวเองก็เข้าพักที่หมู่บ้านนักกีฬาด้วย ซึ่งบรรยากาศภายในหมู่บ้านนักกีฬาก็มีความสามัคคีกันดีมาก ส่วนการจัดการแข่งขันบริดจ์ในเอเชี่ยนเกมส์ครั้งนี้ คิดว่าเขาจัดได้ดีมาก และเราก็ได้สถานที่แข่งขันที่ดี โดยนักกีฬาบริดจ์ชุดนี้ขึ้นมาจากเยาวชนที่ทางสมาคมพยายามพัฒนาขึ้นมาอีกด้วย

“กีฬาบริดจ์ที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะเป็นผู้อาวุโสที่เล่น แต่สมาคมเราพยายามผลักดันให้มีโครงการมินิบริดจ์หลายปีแล้ว เพื่อวางรากฐานในการพัฒนานักกีฬาเยาวชนขึ้นมา เราพยายามที่จะไปเผยแพร่กีฬาบริดจ์ในต่างจังหวัด ซึ่งเป็นวิธีที่จะทำให้คนหันมาสนใจกีฬาบริดจ์มากยิ่งขึ้น ก็อยากจะให้คนไทยช่วยเชียร์กีฬาบริดจ์กันในการแข่งขันครั้งนี้”

คุณหญิงชดช้อยกล่าว กล่าวเพิ่มเติมว่า กีฬาบริดจ์เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัย และถือเป็นการฝึกสมอง พัฒนาความคิด วางแผน มีสมาธิ และมีการเข้าสังคม ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่เยาวชนไทยควรจะต้องมีเพื่อก้าวไปสู่อนาคตที่ดี อีกทั้งยังเป็นกีฬาที่มีผลวิจัยออกมาว่าช่วยรักษาโรคอัลไซเมอร์ได้อีกด้วย ทำให้เราไม่แก่ จึงอยากชวนเยาวชนทุกคนหันมาลองเล่นกีฬาบริดจ์กันดู

ทังนี้ คุณหญิงชดช้อย โสภณพนิช เป็นนักกีฬาทีมชาติไทยที่อายุเยอะที่สุดในวัย 74 ปี และเป็นนักกีฬาที่อายุเยอะที่สุดเป็นอันดับ 5 ในการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่ประเทศอินโดนีเซีย โดยนักกีฬาอายุเยอะที่สุดอันดับ 1 คอง เต ยาง นักกีฬาบริดจ์ฟิลิปปินส์ วัย 85 ปี, อันดับ 2 ไล ชุน อึ้ง นักกีฬาบริดจ์สิงคโปร์ วัย 82 ปี, อันดับ 3 ฮุง ฟง ลี นักกีฬาบริดจ์มาเลเซีย วัย 81 ปี และอันดับ 4 บัมบัง ฮาร์โตโน่ นักกีฬาบริดจ์เจ้าภาพอินโดนีเซีย วัย 78 ปี

ด้าน “โค้ชแม็กซ์” นายปริชญ์ พงศ์มรกต โค้ชบริดจ์ทีมชาติไทย เปิดเผยว่า ในเอเชี่ยนเกมส์ครั้งนี้ทีมบริดจ์ไทยในประเภทคู่มีโอกาสลุ้นคว้าเหรียญในการแข่งขัน เนื่องจากเมื่อปีก่อนทำผลงานคว้าเหรียญทองแดงในรายการโร้ด ทูเอเชี่ยน และเอเชีย คัพ ทำให้ถือเป็นความหวังของทีมบริดจ์ไทย

โค้ชแม็กซ์กล่าวอีกว่า ในระดับเอเชียทีมบริดจ์ไทยถือว่าติดอยู่ในอันดับท็อป 5 โดยชาติที่เล่นกีฬาบริดจ์กันอย่างมากก็คือ เจ้าภาพอินโดนีเซีย และจีน ที่เขาเล่นกันเป็นอาชีพ ส่วนในระดับโลกก็มีชาติเก่งๆ ทั้ง สหรัฐอเมริกา, สวีเดน, ฝรั่งเศส ซึ่งตอนนี้สมาคมกีฬาบริดจ์แห่งประเทศไทย กำลังพัฒนานักกีฬาในระดับเยาวชน เพื่อวางรากฐานไปสู่ในอนาคตต่อไป

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0