โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

กีฬา

7 แข้งดังที่คุณ (อาจ) ไม่เคยรู้ว่าทำอาชีพนี้มาก่อน

ขอบสนาม

อัพเดต 15 ก.พ. 2561 เวลา 03.21 น. • เผยแพร่ 05 เม.ย. 2563 เวลา 09.57 น.
7 แข้งดังที่คุณ (อาจ) ไม่เคยรู้ว่าทำอาชีพนี้มาก่อน

บอลไม่มีเตะเหงาๆ เปล่าเปลี่ยวเดียวดายแบบนี้ "ขอบสนาม" ก็เลยว่างๆ ขอพาท่านมาทำความรู้จักอีกด้านนึงของเหล่าแข้งดังกันหน่อย เพราะบางคนก่อนจะเติบโตโด่งดังเป็นนักเตะอาชีพที่มีชื่อเสียง เขาเคยทำงานแบบนี้มาก่อนด้วยหรอ? หรือบางคนก็แขวนสตั๊ดไปแล้วค่อยผันตัวไปทำอย่างอื่น ส่วนจะมีใครและอาชีพอะไรบ้างไปดูกัน

ทิม วีเซ่ : นักมวยปล้ำ

อดีตนายด่านทีมชาติเยอรมัน ที่โด่งดังสุด สมัยเฝ้าเสาให้ แวร์เดอร์ เบรเมน ระหว่างปี 2005-2012 ตัดสินใจแขวนถุงมือเมื่อปี 2014ตอนอายุแค่ 32 ปี ซึ่งถือว่าน้อยมากสำหรับตำแหน่งผู้รักษาประตู

แต่ด้วยความที่งานอดิเรกของพี่แกคือเข้ายิมเล่นกล้ามจึงทำให้ ร่างกายบึกบึนเกินไป กว่าจะเหินฟ้าบินทะยานไปปัดบอล ทำให้ตัดสินใจเลิกเล่นขอไปทำตามความฝันอีกอย่างนั่นคือเป็นนักมวยปล้ำ กีฬาที่เขาชื่นชอบและติดตามมาตั้งแต่เด็ก

หลังแขวนสตั๊ด วีเซ่ ได้ส่งวีดีโอและภาพถ่ายของตัวเองไปให้ WWE พร้อมบอกว่าต้องการจะขึ้นเวทีมวยปล้ำ ซึ่ง WWE ก็สนใจและได้ติดต่อให้เขามาปรากฏในฐานะแขกรับเชิญใน WWE Event ที่แฟรงต์เฟิร์ต เยอรมัน ด้วยการเผชิญหน้ากับ สตาร์ดัสและโกลด์ดัส และกระแสก็ดีมากๆ 

จนกระทั่ง 3 พฤศจิกายน 2016 วีเซ่ ได้ขึ้นปล้ำอย่างเป็นทางการครั้งแรก ด้วยการจับคู่กับ เชมัส และ เซซาโร่ เอาชนะ เดอะ ไชนิ่ง สตาร์ และ โบ ดัลลาส ไปได้ ปัจจุบัน แม้ วีเซ่ จะไม่ได้เป็นนักมวยปล้ำอาชีพของ WWE แล้ว แต่ก็ถือว่าพี่แกทำตามความฝันในวัยเด็กได้สำเร็จ

ปาปิส ซิสเซ่ : พนักงานขับรถพยาบาลฉุกเฉิน

ไม่ทราบเหมือนกันนะครับว่าทำไม อดีตหัวหอกนิวคาสเซิ่ล ถึงไปทำงานเป็นคนขับรถพยาบาลฉุกเฉินได้ตั้งแต่อายุ 15 ปี แถมทำแบบเต็มตัว ถึงขนาดทิ้งการเรียนเลยด้วย และนี่คือบทสัมภาษณ์ของ ซิสเซ่ ที่เคยเปิดเผยถึงเรื่องนี้เอาไว้ว่า.. .

"ผมเคยเห็นคนตายต่อหน้าต่อตามามากมาย เพราะตอนผมอายุ 15 ผมเป็นคนขับรถพยาบาลฉุกเฉิน ใช่ผมเพิ่งอายุ 15 และเด็กมากๆ แต่นั่นก็ทำให้ผมตัดสินใจหยุดเรียนเพื่อทำงานนี้แบบเต็มตัว"

"ผมต้องการหาเงิน เพราะช่วงชีวิตตอนนั้นผมลำบากมาก แต่งานนี้มันก็ยากนะเพราะผมยังเด็ก ครั้งแรกเลยที่เริ่มทำ ผมเห็นคนตายต่อหน้า ผมถึงขั้นร้องไห้เลย แต่หลังจากนั้นผมก็แข็งแกร่งขึ้น"

กราฟิเต้ : เซลล์ขายถังขยะ

อดีตกองหน้าของ โวล์ฟสบวร์ก ผู้ซัดไป 28 ประตู จากการลงเล่น 25 ในฤดูกาล 2008/09 ช่วยให้ "หมาป่าเมืองเบียร์" หักปากกาเซียนเข้าป้ายคว้าถามแชมป์ บุนเดสลีกา มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่

แต่ใครจะรู้ว่าครั้งนึง ก่อนที่จะมาเป็นนักฟุตบอลที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก เขาเคยผ่านการเป็นเซลล์แมนขายถังขยะมาก่อน ซึ่ง กราฟิเต้ เองก็ไม่ได้อับอายที่จะพูดถึงเรื่องนี้ มิหนำซ้ำยังยืดอกพูดอย่างภูมิใจถึงอดีตที่ลำบากจนทำให้มีทุกวันนี้ด้วยว่า "ผมว่ามันก็เป็นอาชีพปกติอาชีพนึงนะ เพราะทุกบ้านยังไงซะก็ต้องใช้ถังขยะ ถูกมั้ยหละ? แล้วผมก็ทำเงินได้จากการขายมันด้วย มันเป็นงานที่สุจริต ผมไม่เคยลืมช่วงเวลานั้นเลย และผมได้เรียนรู้อะไรมากมายจากการทำอาชีพนี้"

ไนเจล เดอ ยอง : ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์

เป็นที่ทราบกันดีว่านักบอลชื่อดังส่วนใหญ่มักจะมีของสะสมเป็นรถยนต์คันงามสุดหรู แต่หากคุณอยากลองขับ หรือมีเก็บไว้ที่โชว์รูมทุกยี่ห้อ ทุกรุ่น มันก็คงจะเวอร์วังเกินไป เดอ ยอง ที่รักรถเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเลยจัดการลงทุนทำอาชีพเสริม เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์สุดหรูไปเลย

ว่ากันว่าโชว์รูมรถของ อดีตกองกลางจอมโหดทีมชาติฮอลแลนด์ เต็มไปด้วยรถยี่ห้อหรูนับสิบๆ คัน ไม่ว่าจะเป็น แลมโบกรินี่, มาเซราติ และ เฟอร์รารี่ เป็นต้น

เอริค คันโตน่า และ วินนี่ โจนส์ : นักแสดง

คันโตน่า คือแข้งระดับตำนานของ แมนฯ ยูไนเต็ด ประสบความสำเร็จมามากมายในโลกลูกหนัง ส่วน วินนี่ โจนส์ แม้จะไม่ได้ประสบความสำเร็จอะไรมากมายในอาชีพค้าแข้ง แต่พี่แกก็มีคาแร็กเตอร์ที่เด่นชัด คล้ายๆ กับ "ก็องโต้" นั่นคือความโหด

และคาร์แร็คเตอร์ที่เด่นชัดนี้เอง ก็ส่งผลให้ทั้งคู่ ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงอย่างเต็มตัว คันโตน่า แสดงหนังไป 30 กว่าเรื่อง ดังๆ เลยก็ Elizabeth , Looking for Eric , The Mad Kings และ The Salvation เป็นต้น ขณะที่ โจนส์ ล่อไป 50 เรื่องมีทั้งจอแก้วและจอเงิน ผลงานเด่นๆ ก็ได้แก่ X-Men: The Last Stand , Staying Alive , Mean Machine , Snatch และ Lock Stock and Two Smoking Barrels

ชาร์ลี ออสติน : ช่างก่ออิฐ

หัวหอกวัย 30 ปีของ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ก็เป็นอีกคนที่เคยใช้แรงงานแลกเงินมาก่อน โดยเขาเคยได้ให้สัมภาษณ์กับ "เดอะ การ์เดี้ยน" เอาไว้ว่า "ตอนผมอายุ 17 ผมทำงานเป็นช่างอิฐอยู่ที่ โอเวอร์ตัน พวกเราทำงานกันหนักมาก แต่ค่าแรงมันไม่ได้คุ้มค่าเหนื่อยเลย มันไม่มากพอ แต่เราก็ไม่มีทางเลือก ฉะนั้นทุกวันนี้ถ้าผมรู้สึกเบื่อหน่ายกับการเล่นฟุตบอลเมื่อไหร่ ผมจะคิดย้อนกลับไปถึงความลำบากในวันนั้น มันจะเตือนสติผมว่า ตอนนี้ผมมีชีวิตที่โคตรดีเลย"

 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0