โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

7 เรื่องเล่าจาก ‘อินเดีย’ ครั้งแรกในชีวิต ที่คงจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย

THE STANDARD

อัพเดต 23 ก.ค. 2562 เวลา 04.26 น. • เผยแพร่ 23 ก.ค. 2562 เวลา 04.26 น. • thestandard.co
7 เรื่องเล่าจาก ‘อินเดีย’ ครั้งแรกในชีวิต ที่คงจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย
7 เรื่องเล่าจาก ‘อินเดีย’ ครั้งแรกในชีวิต ที่คงจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย

หลายคนมักมีความทรงจำหรือความเชื่อเกี่ยวกับประเทศอินเดียที่แตกต่างกัน บ้างก็บอกว่าเป็นประเทศสำหรับคนที่ไปแสวงบุญ หลายคนเคยบอกว่าริมถนนจะเต็มไปด้วยขอทาน บ้างก็บอกว่ามีขยะลอยในแม่น้ำ หรืออาหารไม่ถูกปาก ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นความทรงจำที่ผู้คนมีต่ออินเดียที่แตกต่างกันไป

 

หลังจากบินกลับมาจากอินเดียในช่วงที่อากาศร้อนสุดๆ ที่ราว 45-46 องศาเซลเซียส นี่คือสิ่งที่เราได้ไปเห็น ไปรู้ ไปสัมผัสอะไรมา และไอ้ความร้อนซ่านไปทั่วร่างจนเกือบไหม้ รวมถึงการเดินทางที่ทรหดมาก ทำให้เราสนุกและรู้สึกว่านี่เป็นประสบการณ์ชีวิตที่ยากจะลืม และนี่จะไม่ใช่การมาอินเดียครั้งสุดท้ายของเราแน่นอน!

 

Incredible India
Incredible India

 

1. ไจปูร์ไม่ได้ชมพูขนาดนั้น

เราเดินทางไปถึงเมืองไจปูร์ (Jaipur) ชัยปุระ หรือเมืองสีชมพูที่ใครๆ ต่างเลื่องลือว่ามันสวยงามมากๆ สถาปัตยกรรมทั้งเมืองนั้นจะขับสีออกมาในโทนเดียวกัน สร้างความโดดเด่นให้ผู้ชมได้รู้สึกตื่นตา แต่คุณรู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้ว ถ้าให้เราอธิบายสีเดียวกันกับที่ตาเห็นมันเป็นสีอิฐนะคุณ ซึ่งไกด์ของทริปนี้เราเล่าให้ฟังว่า กระบวนการที่ทำให้อาคารบ้านเมืองออกมาเป็นสีแบบนี้คือ การขูดเอาผงอิฐแดงผสมลงไปในปูน ซึ่งในตอนนั้นเป็นการทำเพื่อเฉลิมฉลองแก่การมาเยือนของเจ้าชายเอ็ดเวิร์ดและควีนวิคตอเรียใน ค.ศ. 1876 พระราชาของเมืองไจปูร์ในขณะนั้นอย่างมหาราชาราม ซิงห์ที่ 2 ที่ปกครองเมืองชัยปุระได้มีรับสั่งให้ทาเมืองทั้งเมืองเป็นสีชมพู เพื่อเป็นการต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง ซึ่งสีออกอิฐๆ ส้มๆ อมชมพูนิดๆ ที่คุณเห็นนี้คือ สีที่เป็นตัวแทนของเครื่องนุ่งห่มของนักบวชที่มีความหมายถึงความสงบนั่นเอง

 

ต้องยอมรับจริงๆ ว่ามันสวยมาก!

 

Incredible India
Incredible India
Incredible India
Incredible India

 

2. เพื่อนร่วมถนนจะเป็นใครก็ได้!?

สิ่งหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นมากคือ การจราจรบนท้องถนนของที่นี่ ที่ต้องยอมรับจริงๆ ว่า ‘วุ่นวายมาก’ นอกเหนือจากส่วนของตัวเมืองนิวเดลีที่เป็นเมืองใหม่ มีการสัญจรเป็นระบบระเบียบแล้วไซร้ หากคุณเดินทางออกมาจากเมืองเล็กน้อย คุณจะพบกับเพื่อนร่วมทางที่หลากหลายมาก มีตั้งแต่อูฐ จักรยาน ม้า วัว หรือแม้แต่ช้าง ต้องยอมรับว่าถึงแม้ความวุ่นวายบนท้องถนนจะพลุกพล่าน แต่เรากลับเห็นความหลากหลายทางชนชั้นที่เกิดขึ้นบนท้องถนนอย่างเห็นได้ชัด แต่แน่นอนว่าพวกเขาใช้ถนนร่วมกันได้อย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย นับว่าแค่มองวิวข้างหน้าต่างก็เพลินเหลือใจแล้ว!

 

Incredible India
Incredible India
Incredible India
Incredible India

 

3. กลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลเมื่อเห็น ‘ทัชมาฮาล’

แต่เด็กจนโตเราต่างเคยรู้จัก ‘ทัชมาฮาล’ ในฐานะ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่เราต้องรอคอยกว่า 20 ปี ในการจะได้มาดูมันด้วยตาของตัวเองจริงๆ และแน่นอนว่า “มันสวยจริงๆ ว่ะ” เราพึมพำกับตัวเองในใจ และพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล เพราะความเปล่งประกาย โอ่อ่า และเฉิดฉายของอาคารหินอ่อนแห่งนี้ ช่างยิ่งใหญ่สมชื่อ และการงัวเงียตื่นนอนตั้งแต่ตีสี่ครึ่ง เพื่อมาเข้าคิวต่อแถวรอชมพระอาทิตย์ขึ้น เป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่ามากเมื่อพระอาทิตย์ค่อยๆ เปล่งแสงออกมา และความขาวสะอาดของหินอ่อนทั้งหลังก็ค่อยๆ จับต้องแสงอาทิตย์อย่างบางเบา สวยแบบไม่มีวันลืม! อีกทั้งยังขอชื่นชมทางการที่ดูแลและจัดการระบบการเข้าชมได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่วุ่นวาย และเป็นระบบระเบียบดี

 

Incredible India
Incredible India
Incredible India
Incredible India

 

4. คนอินเดียกับปัญหาน้ำแล้ง

คุณรู้ไหมว่า คนอินเดียในเมืองอย่างชัยปุระหรืออักรานั้นไม่ได้มีน้ำให้คุณใช้ตลอดวันนะ ไกด์ท้องถิ่นเล่าให้เราฟังว่า ที่ประเทศอินเดียนี้ปัญหาภัยแล้งยังคงเป็นปัญหาใหญ่เสมอมา และที่เมืองชัยปุระนี่ฝนไม่ได้ตกมาเกือบครึ่งปีแล้ว! น้ำในเขื่อนก็ไม่มากพอที่จะให้ผู้คนได้ใช้กันอย่างทั่วถึง (คุ้นๆ ไหมนะ) ดังนั้นในเมืองใหญ่ๆ อย่างชัยปุระหรืออักราจะมีการเปิดน้ำให้ใช้เพียงแค่วันละเพียงหนึ่งชั่วโมงในตอนเช้าเท่านั้น!

 

อ้าว แล้วนักท่องเที่ยวอย่างเราๆ ล่ะ? นั่นคือความสงสัยแคลงใจของเราเอง เพราะการที่เราเข้าพักในโรงแรมสวยๆ งามๆ ในเมือง ซึ่งก็มีทั้งสระว่ายน้ำหรืออ่างอาบน้ำให้เราได้แช่ตัว เขาเอาน้ำมาจากไหนกัน? คำตอบที่ได้คือ ส่วนใหญ่แล้วหากเป็นกลุ่มธุรกิจใหญ่ พวกเขามักจะขุดบ่อบาดาลเอาน้ำจากใต้ดินขึ้นมาใช้และกลั่นเอง… ความไม่เท่าเทียมของสังคมที่เห็นได้ชัด

 

Incredible India
Incredible India

 

5. LGBT กับอินเดีย

ในฐานะที่เราเองก็เป็น LGBT คนหนึ่งที่ทราบข่าวมาตลอดว่า ประเทศอินเดียนั้นยังไม่เปิดรับและเข้าใจในความหลากหลายทางเพศเท่าที่ควรนัก รวมไปถึงเรื่องของการมีเพศสัมพันธ์ที่พวกเขาค่อนข้างเคร่งครัดภายใต้ข้อบังคับของศาสนา ที่ว่าไม่ควรมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน ซึ่งคุณรู้หรือไม่ว่าช่องโหว่นี้แหละที่ทำให้ประเทศอินเดียเป็นประเทศที่มีความลื่นไหลทางเพศที่สูงมาก เนื่องจากว่าถ้าผู้ชายไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงทั้งๆ ที่ยังไม่ได้แต่งงานกัน และทางออกของความต้องการทางเพศของพวกเขาก็คงเป็นผู้ชายด้วยกัน หรือเพศอื่นๆ ที่จะไม่ผิดต่อข้อบังคับ แต่นี่เป็นส่วนเล็กน้อยที่เราได้พูดคุยกับพวกเขาผ่านแอปพลิเคชัน รวมไปถึงเพื่อนๆ ที่เคยมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ ซึ่งล้วนเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับสังคมของพวกเขาจริงๆ ฉะนั้นอย่าแปลกใจถ้าเกย์ในอินเดียจะเป็นเรื่อง In The Closet ที่สามารถแง้มบานประตูได้นิดหน่อย

 

Incredible India
Incredible India
Incredible India
Incredible India
Incredible India
Incredible India

 

6. ถ้าคุณรักสถาปัตยกรรม…มาเถอะ!

ในคลาสเรียนวิชา Survey of Art History in Neighborhood Country สมัยยังเรียนอยู่ที่คณะโบราณคดี แน่นอนว่าศิลปะอินเดียคือหนึ่งในเรื่องที่เราต้องเรียน และเมื่อ 8 ปีให้หลัง เราก็ทิ้งความรู้นั้นไปเกือบหมด การได้มาเยือนอินเดียครั้งนี้เหมือนได้กลับไปทบทวนวิชาประวัติศาสตร์ศิลปะอีกครั้ง โดยเฉพาะการได้ไปเยี่ยมเยือนโบราณสถานมากมายในประเทศนี้ที่ล้วนแต่เป็นศิลปะแบบอินโด-อิสลามิก เน้นเส้นโค้ง หรือมีโดมขนาดใหญ่ ซึ่งสถานที่สำคัญๆ ที่เราได้ไปเยี่ยมชมอย่างหอคอยกุตุบ-มีนาร์ ที่เรียกว่าเป็นหอคอยสูง ได้แสดงให้เห็นถึงรากเหง้าของรูปแบบศิลปะอย่างน่าสนใจ หรือป้อมแอมเบอร์ ที่พูดตรงๆ ว่า โคตรสวย! และใหญ่มาก จนกินเวลาในการเดินชมไปเกือบครึ่งวัน! 

 

Incredible India
Incredible India
Incredible India
Incredible India

 

7. อินเดียครั้งแรก…แต่คงจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย

ถึงแม้ว่าวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนอินเดียจะแตกต่างจากบ้านเราโดยสิ้นเชิง จนบางทีเราเองยังรู้สึกถึงสิ่งที่เรียกว่า Culture Shock ที่เราเองอาจทำตัวไม่ค่อยถูก หรือวางตัวไม่ถูกในบางทีว่าเราควรต้องทำอย่างไร? หรือรับมือกับสถานการณ์บางอย่างได้อย่างไร อาทิ การโดนขอทานเดินเข้ามาประชิดตัว หรือการขายของแบบฮาร์ดเซลในสถานที่ท่องเที่ยวที่พวกเขาพร้อมจะรุ่มร่ามกับร่างกายของคุณจนเกินพอดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราก็ยังรู้สึกประทับใจในความแตกต่างเหล่านี้แหละ ที่อยากให้ทุกคนได้ลองไปสัมผัสสักครั้งในชีวิต

 

และแน่นอนว่า เราเดินทางสะดวกขึ้นด้วยเส้นทางการบินใหม่ของสายการบิน NokScoot บินตรงจากกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) สู่เดลี 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ นอกจากจะบินด้วยเครื่องบินลำใหญ่ Boeing 777-200 แล้ว เขายังมีที่นั่งสบายๆ แบบ ScootBiz ให้ตลอดระยะเวลา 5 ชั่วโมงในการบิน เป็นเรื่องสบายใจ ราคาสบายกระเป๋า สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.nokscoot.com 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0