โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

7 เคล็ดลับการใช้ภาษากายเพื่อส่งเสริมความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน

issue247.com

อัพเดต 17 เม.ย. 2562 เวลา 10.37 น. • เผยแพร่ 20 เม.ย. 2562 เวลา 00.00 น.

ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากมักจะประเมินความสำคัญของการสื่อสารแบบอวัจนภาษา (ภาษากาย) ต่ำเกินไป ขณะที่คนส่วนใหญ่ก็วางแผนว่าจะพูดอะไรในห้องประชุมแต่กลับละเลยภาษากายของตัวเองที่มักจะสื่อความหมายออกมาได้ถึงครึ่งหนึ่ง การศึกษาพบว่าการสื่อสารของคนเราร้อยละ 60 เป็นการสื่อสารแบบอวัจนภาษา (ภาษากาย) ลองจินตนาการดูสิว่าการสื่อสารแบบอวัจนภาษาจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประชุมครั้งหน้ากับหัวหน้าของคุณได้มากขนาดไหน นี่คือเคล็ดลับทั้ง 7 ข้อที่จะช่วยให้คุณสามารถใช้ภาษากายได้อย่างถูกต้องรวมถึงได้เปรียบในหน้าที่การงานของคุณด้วย

 

1. อย่าประเมินพลังอำนาจของมือน้อยเกินไป

มือของเราสามารถบอกได้ว่าเราเป็นอย่างไร การวิจัยพบว่าสมองจะสนใจมือมากกว่าอวัยวะส่วนอื่นในร่างกายเนื่องจากมือคือกลไกรักษาความปลอดภัยและป้องกันอันตราย ที่สำคัญสมองจะไม่เชื่อใจคนอื่นหากเรามองไม่เห็นมือของอีกฝ่าย เมื่อไรที่มีการประชุมคุณควรวางมือไว้บนโต๊ะเพื่อเพิ่มความไว้วางใจบวกกับคุณจะสามารถใช้มือในการสื่อสารและถ่ายทอดภาษากายได้อีกด้วย นอกจากนี้การศึกษาโดยมหาวิทยาลัยคอลเกตยังพบอีกว่าการใช้มือจะทำให้อีกฝ่ายตั้งใจฟังคุณมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแค่การโบกมือจะทำให้ประเด็นน่าสนใจได้ การใช้มืออย่างเหมาะสมจะนับตั้งแต่อกไปจนถึงช่วงเอว หากนอกเหนือจากนี้จะกลายเป็นหลุดจากการควบคุมไปแล้ว คุณสามารถเรียนรู้วิธีใช้มือในการสื่อสารข้อความได้จาก TED Talk หรือรายการพูดต่างๆเพื่อนำเสนอผลงานในห้องประชุมได้

 

2. ผงกศีรษะเพื่อแสดงความสนใจ

หนึ่งในการแสดงออกว่าคุณสนใจในสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังพูดคือการผงกศีรษะสามครั้ง การผงกศีรษะเร็วๆและเบาๆสามครั้งเป็นการส่งสัญญาณว่า “บอกข้อมูลเพิ่มอีก” หรือ “ฉันได้ยินที่คุณอธิบายแล้ว”

 

3. เลิกแสดงภาษากายที่ส่อถึงความเครียด

พฤติกรรมที่พบเห็นได้บ่อยมากที่สุดได้แก่

  • การบีบมือ
  • การสัมผัสรอยเว้าเหนือกระดูกสันอก (ไหปลาร้า)
  • การหักข้อนิ้ว
  • การลูบแขน
  • การกัดริมฝีปาก

บางครั้งก็เป็นเรื่องยากที่จะบอกว่าสัญญาณบ่งบอกความเครียดของตัวเองคืออะไรเนื่องจากคนส่วนใหญ่มักจะทำโดยที่ไม่รู้ตัว ลองขอให้เพื่อนหรือเพื่อนร่วมงานบอกคุณหากพวกเขาสังเกตเห็นพฤติกรรมที่กล่าวไว้ข้างต้นซึ่งเมื่อคุณรู้ตัวก็จะสามารถหยุดพฤติกรรมเหล่านั้นได้ ดังนั้นเมื่อเกิดสถานการณ์ตึงเครียด คุณควรพยายามเก็บมือของตัวเองไว้ในที่ที่ปลอดภัย เช่น เอามือแนบลำตัวไว้ขณะยืนหรือซ้อนทับกันไว้บนโต๊ะทำงานขณะที่กำลังนั่งอยู่

 

4. เลียนแบบคนอื่น

การศึกษาพบว่าผู้ที่เลียนแบบการพูดและภาษากายของคนอื่นจะมีปฏิสัมพันธ์ในแง่บวกและประสบความสำเร็จโดยรวมมากกว่าผู้ที่ไม่ได้เลียนแบบ มีหลายวิธีที่คุณสามารถเลียนแบบผู้อื่นได้

  • เลียนแบบจังหวะของอีกฝ่าย หากคุณเป็นคนพูดเร็วก็ควรลดจังหวะการพูดให้ช้าลงเท่ากับคนที่คุณกำลังพูดด้วย
  • เลียนแบบท่าทางของอีกฝ่าย
  • หากคู่สนทนาของคุณพูดคุยกันอย่างเป็นทางการ คุณก็ต้องประพฤติตนให้เท่าเทียมกับเขา มิเช่นนั้นเขาจะคิดว่าคุณไม่จริงจัง

แน่นอนว่าคุณควรเลียนแบบเฉพาะในด้านบวกเนื่องจากการเลียนแบบในด้านลบมีแต่จะทำให้บรรยากาศตึงเครียดมากขึ้น

 

5. ลดระดับความเครียดของตัวเอง

เมื่อคุณเริ่มรู้สึกเครียดระดับคอร์ติซอลก็จะสูบฉีดและทำให้ความวิตกกังวลรุนแรงขึ้นตามไปด้วย และนี่คือการใช้ภาษากายเพื่อผ่อนคลายความเครียด

  • หมุนหัวไหล่ไปด้านหลังไปทางกระดูกสันหลังของคุณ
  • ยืดหน้าอกและเชิดหน้าผากขึ้น
  • ยืนแยกขาออกจากกันเว้นช่วงให้กว้างประมาณไหล่
  • ผ่อนคลายกล้ามเนื้อแขน

 

ยิ่งทำมาก กล้ามเนื้อก็ยิ่งผ่อนคลาย การผลิตคอร์ติซอลก็จะยิ่งลดลงซึ่งจะทำให้คุณเครียดน้อยลงด้วย

 

6. ยิ้ม (ในเวลาที่เหมาะสม)

การศึกษาชี้ว่าผู้ที่มีตำแหน่งงานสูงจะไม่ค่อยยิ้มแต่จะยิ้มในเวลาที่เหมาะสมแทน คุณจำเป็นต้องยิ้มเมื่อทำความรู้จักกับอีกฝ่ายและจับมือทักทาย รวมถึงเวลาที่พูดถึงเรื่องที่คุณชอบและทุกครั้งที่กล่าวลา แต่การยิ้มมากเกินไปเนื่องจากคุณกำลังเครียดหรือพยายามผูกมิตรกับอีกฝ่ายกลับจะให้ผลลัพธ์ในทางตรงกันข้าม คุณจะดูฉลาดน้อยลงและไม่เป็นมิตรไปมากกว่านี้แล้ว

 

7. นั่งเยื้องๆกันหน่อย

การนั่งมีอิทธิพลมากกว่าที่คุณคิด การศึกษาพบว่าเมื่อคุณยืนประจัญหน้ากับอีกฝ่ายสมองจะสั่งการให้คุณเข้าใจว่าเขาคือศัตรูของคุณ ดังนั้นเมื่อคุณต้องพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้าก็ควรนั่งหรือยืนให้เยื้องๆกันหน่อยเพื่อลดแรงปะทะรวมถึงลดอัตราการเต้นของหัวใจของทั้งคู่ลงด้วย

 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0