Burnout ภาวะหมดไฟในการทำงานและหมดแรงจูงใจในการไปทำงานในแต่ละวัน เกิดจากการทำงานหนัก ความเครียดสะสม และเหนื่อยล้าเรื้อรัง นี่คือ 7 สัญญาณ ภาวะหมดไฟในการทำงาน เพื่อป้องกันปัญหาทางร่างกายและจิตใจ
1. อ่อนเพลียอย่างมาก
คุณแทบไม่อยากจะตื่นขึ้นมาในตอนเช้า อีกทั้งยังไม่มีความอยากที่จะไปทำงานเลย เพียงแค่คิดเกี่ยวกับการทำงานก็ทำให้คุณรู้สึกว่าร่างกายกำลังป่วย ไม่พร้อมที่จะไปทำงานเลย
2. ภาระงานหนัก
ภาระหน้าที่การงานที่หนักหรือปริมาณงานมากเกินไปส่งผลทำให้เกิดความเครียดจนมีอาการนอนไม่หลับ กระสับกระส่าย เบื่ออาหาร และความเครียดสะสมเรื้อรัง ซึ่งความอ่อนล้าทางร่างกายจะนำไปสู่ความอ่อนล้าทางจิตใจและอารมณ์
3.เริ่มมีพฤติกรรมทางลบในการทำงาน
การทำงานดูเหมือนจะไม่มีความสำคัญอะไรเลย คุณไม่มีความรู้สึกอยากประสบความสำเร็จอีกต่อไป ขาดความรู้สึกสนุกในการทำงาน ขาดแรงจูงใจในงานที่ทำ สิ่งที่เคยเป็นพลังในการทำงาน ความภาคภูมิใจ การบริการ ความทะเยอทะยาน ความท้าทาย แม้แต่เงิน ก็ดูเหมือนจะไร้ความหมายอีกต่อไป
4. อาการเหนื่อยหน่ายในการทำงาน
ความเหนื่อยหน่ายในการทำงานมักพบในผู้ประกอบอาชีพให้บริการแก่สังคม เช่น นักสังคมสงเคราะห์ หมอ พยาบาล ครู ตำรวจ หากงานของคุณเกี่ยวข้องกับภาวะทางอารมณ์ และหากไม่มีใครมาช่วยจัดการเรื่องต่างๆ ก็จะยิ่งทำให้ความเครียดสะสมจนทำให้เกิดความเหนื่อยล้าทางร่างกายและไม่สามารถจัดการกับความเครียดได้
5. ไม่มีอารมณ์ด้านบวก
นี่คือหนึ่งในสัญญาณของการหมดไฟในการทำงาน คือมีความเครียดเรื้อรังจากการทำงาน ต้องคอยแก้ปัญหาต่างๆมากมาย แม้แต่สิ่งที่คุณเคยสนุกกับการทำงานก็กลับไร้ความหมาย ไม่มีความความรู้สึกสนุกในการทำงานอีกต่อไป
6. ความคิดในระดับรุนแรง
การหมดไฟในการทำงานทำให้เกิดความคิดที่เลวร้ายต่างๆนานา มันทำให้ทุกอย่างมืดลง สูญเสียความตั้งใจและความพยายามที่จะเปลี่ยนสถานการณ์ต่างๆให้ดีขึ้น จนคุณรู้สึกว่า “ฉันไม่สามารถทำงานนี้ได้อีกต่อไป” “ฉันไม่สามารถรับมือกับมันได้” “ ทำไมฉันต้องกังวล?” ซึ่งมันเกิดจากแรงกดดันต่างๆรอบตัวคุณ
7.การลดความเป็นคน
ความเหนื่อยล้าของจิตใจและร่างกายทำให้คุณเกิดความรู้สึกไม่ดีกับผู้อื่น ไม่สนใจลูกค้า ไม่สนใจเพื่อนร่วมงาน หรือแม้แต่คนในครอบครัว ซึ่งแน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน ลูกค้า และมันไม่ดีสำหรับตัวคุณเลย
