โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

7 วิธีรับมือกับความเครียดที่ดีที่สุด

issue247.com

อัพเดต 22 เม.ย. 2562 เวลา 05.06 น. • เผยแพร่ 21 เม.ย. 2562 เวลา 00.00 น.

ไม่ว่าคุณจะเป็นหนึ่งในประชากรผู้ใหญ่ชาวอเมริกันจากจำนวนทั้งหมด 40 ล้านคนที่กำลังป่วยเป็นโรคเครียดหรือแค่รู้สึกเครียดเฉพาะตอนที่มีการเปลี่ยนแปลงในชีวิต เช่น ย้ายบ้าน เปลี่ยนงาน และอกหัก แต่จงรู้ไว้ว่ามนุษย์เราทุกคนล้วนต้องเรียนรู้วิธีจัดการกับความเครียดไปตลอดทั้งชีวิต อันที่จริงความกังวลและความเครียดนั้นก็มีประโยชน์กับพวกเราเนื่องจากความกลัวจะทำให้เราปลอดภัยและสร้างแรงจูงใจในการบรรลุเป้าหมายต่างๆ จากประสบการณ์ส่วนตัวของฉันทำให้รู้ว่าถ้าคนเราเผชิญหน้ากับความเครียดบ่อยๆก็เป็นไปได้ว่าสมองจะสั่งการให้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น บางครั้งเราจะรู้สึกเครียดโดยไม่มีเหตุผล ดังนั้นหากคุณรู้สึกเครียดก็ควรปฏิบัติตามคำแนะนำทั้ง 7 ข้อดังต่อไปนี้

 

1. ไม่เป็นไรถ้าคุณจะปล่อยให้ตัวเองรู้สึกเครียดบ้าง

ความเครียดไม่ใช่สิ่งที่น่ายินดีแต่ถ้าคุณปฏิเสธที่จะยอมรับความรู้สึกนี้จงรู้ไว้เลยว่าทุกอย่างจะแย่ลงและน่ากลัวมากกว่าเดิม ที่สำคัญคุณจะจัดการกับความรู้สึกเครียดของตัวเองยากขึ้นกว่าเดิม

 

2. ไม่นานความรู้สึกเครียดก็จะผ่านเลยไป

โดยปกติความรู้สึกเครียดจะมาเพียงประเดี๋ยวประด๋าวเท่านั้นและที่สำคัญมันไม่สามารถทำให้คุณบาดเจ็บทางกายได้ ดังนั้นทางที่ดีที่สุดคุณควรรอให้มันผ่านไปเองซึ่งอาจต้องใช้เวลานานสักหน่อย แต่เชื่อเถอะว่าเมื่อความเครียดเคยผ่านไปแล้ว มันก็จะผ่านไปได้อีกครั้ง

 

3. หากคุณเคยจัดการกับความเครียดของตัวเองมาแล้ว ทุกวันนี้ก็ไม่มีปัญหา

หากคุณเคยจัดการกับความรู้สึกเครียดมาตลอดทั้งชีวิตแล้ว เชื่อว่าทุกวันนี้คุณคงมีวิธีจัดการกับความเครียดแล้วอย่างแน่นอน พยายามจดบันทึกและจดจำไว้ว่าวิธีไหนสามารถต่อสู้กับความเครียดได้สำเร็จ คราวหน้าถ้าคุณรู้สึกเครียดก็จงพิจารณาวิธีที่จะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น แต่ถ้าวิธีปกติที่เคยใช้ไม่ได้ผลก็ลองหาหนทางดูใหม่

 

4. การเคลื่อนไหวร่างกายสามารถช่วยได้

ฉันเชื่อว่าคุณคงรู้แล้วว่าการออกกำลังกายนั้นสามารถลดความวิตกกังวลกับความเครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องออกไปวิ่งทุกครั้งที่รู้สึกเครียด การเดินอย่างผ่อนคลายจะทำให้ร่างกายของคุณได้เคลื่อนไหว จิตใจปลอดโปร่ง และสูดอากาศสดชื่นไปพร้อมๆกัน แต่ถ้าคุณไม่ชอบอยู่กลางแจ้งเราขอแนะนำให้ทำความสะอาดห้อง เต้นไปรอบๆห้องนอน เล่นกับสัตว์เลี้ยง ฝึกโยคะ เป็นต้น

 

5. การทำงานก็สามารถช่วยได้เช่นกัน

ว่ากันว่าการไม่ทำอะไรเลยจะยิ่งทำให้อาการเครียดทวีความรุนแรงมากขึ้น ขณะที่การตัดรายการสิ่งที่ต้องทำออกบางข้อจะช่วยทำให้คุณรู้สึกประสบความสำเร็จและสามารถควบคุมชีวิตกับอารมณ์ของตัวเองได้ดีกว่าเดิม ที่สำคัญการบังคับตัวเองให้มีความมุ่งมั่นกับการทำงานจะทำให้สมองกับร่างกายได้ผ่อนคลายจากความตึงเครียดด้วย

 

6. การกำหนดลมหายใจคือเพื่อนของคุณ

การกำหนดลมหายใจเข้าออกเป็นสิ่งสำคัญที่ควรปฏิบัติเมื่อคุณรู้สึกเครียด การหายใจเข้าลึกๆจะช่วยทำให้ร่างกายได้ผ่อนคลายและฟื้นฟูสภาพหลังจากที่อะดรีนาลีนพุ่งปรี๊ดจากการที่ความกลัวและความกังวลถูกกระตุ้นขึ้นมา ดังนั้นคราวหน้าหากคุณรู้สึกวิตกกังวลก็อย่าลืมกำหนดลมหายใจเข้าออกเพราะการกลั้นหายใจไว้ระหว่างที่รู้สึกกังวลสุดขีดมีแต่จะทำให้แย่ลง

 

7. ความเครียดพยายามบอกอะไรบางอย่างให้คุณรู้

บางครั้งดูเหมือนว่าความเครียดจะเกิดขึ้นมาโดยไร้เหตุผลและถ้าคุณเป็นโรควิตกกังวลอยู่แล้วก็คงรู้ดีว่าความรู้สึกกังวลไม่ได้เกิดขึ้นตามสถานการณ์ แต่ถ้าคุณไม่ได้เป็นโรควิตกกังวลก็เป็นไปได้ว่าความรู้สึกดังกล่าวพยายามที่จะบอกให้คุณเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตของตัวเองซะ หากความสัมพันธ์ในด้านต่างๆ รวมถึงหน้าที่การงาน พฤติกรรมการใช้จ่าย พฤติกรรมการนอนหลับ หรือองค์ประกอบอื่นๆในชีวิตของคุณมีความผิดปกติเกิดขึ้น นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณกำลังรู้สึกเครียดเกินไป ดังนั้นจงสังเกตว่าอะไรคือตัวกระตุ้นความรู้สึกเครียดของคุณ หากคุณรับฟังสิ่งที่ความเครียดพยายามจะบอกคุณล่ะก็ เชื่อว่าคุณสามารถสร้างชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเดิมได้อย่างแน่นอน

 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0