วันนี้ (25 พ.ค.) เมื่อเวลา 12.40 น. 7 พรรคการเมืองที่เรียกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตย ประกอบด้วยพรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ พรรคเพื่อชาติ พรรคเสรีรวมไทย พรรคเศรษฐกิจใหม่ พรรคประชาชาติ และพรรคพลังปวงชนไทย ร่วมกันแถลงกรณีการโหวตประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยยืนยันให้โหวตเลือกประธานสภาฯ ในช่วงบ่ายนี้ให้จบ เพราะเป็นวาระที่สำคัญ เพื่อจะได้ทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติต่อไป
สุทิน คลังแสง ส.ส. มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวเพิ่มเติมถึงสาเหตุที่พรรคพลังประชารัฐขอเลื่อนการลงมติเลือกประธานสภาฯ ว่าเหตุไม่มีอะไรมาก เพราะพรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย เจรจาผลประโยชน์กันไม่ลงตัว เจรจากันทั้งคืนจนถึงเช้า วันนี้คิดว่าจะจบแต่ไม่จบ ซึ่งพรรคขั้วประชาธิปไตยทราบข่าว จึงพยายามหยุดยั้งการล้มเลิกการประชุม
“ไม่มีอะไรมาก ต้นเหตุของความไม่พร้อมคือเจรจาผลประโยชน์ยังไม่ลงตัว บ่ายวันนี้เราให้เวลาเขาเต็มที่ ไม่แน่ใจว่าเขาเจรจากันจบหรือยัง แต่จะจบหรือไม่จบ เรา 7 พรรคต้องผลักดันให้มีการประชุมวันนี้ให้ได้ เราจะแพ้หรือชนะ ประธานจะเป็นฝ่ายเราหรือไม่นั้นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นวันนี้คือต้องมีประธานสภาฯ และสภาฯ ต้องเดินต่อไปได้ ฝากไปถึงคนจะตั้งรัฐบาล แค่วันนี้ก็เดินลำบาก เพราะฉะนั้นคิดจะตั้งรัฐบาลโดยเสียงปริ่มๆ อะไรจะเกิดขึ้น” สุทินกล่าว
แหล่งข่าวซึ่งเป็น ส.ส. ในกลุ่ม 7 พรรคเปิดเผยกับ THE STANDARD ว่าสาเหตุที่การประชุมล่าช้า และพรรคพลังประชารัฐขอเลื่อนการลงมติ เนื่องจากการตกลงกันเองไม่ได้ภายในพรรคพลังประชารัฐ โดย ส.ส. บางกลุ่มในพรรคพลังประชารัฐไม่เห็นด้วยที่จะผลักดัน ชวน หลีกภัย จากพรรคประชาธิปัตย์เป็นประธานสภาฯ แต่อยากจะเสนอชื่อ สันติ พร้อมพัฒน์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ขึ้นชิงตำแหน่งประธานสภาฯ แทน ซึ่งเป็นเหตุให้การประชุมยืดเยื้อจนต้องพักการประชุมเพื่อให้พรรคพลังประชารัฐไปเจรจาตกลงกัน ก่อนจะกลับมาประชุมต่อในช่วงบ่าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อการประชุมสภาฯ ในช่วงบ่ายได้เริ่มขึ้นในเวลา 13.00 น. ที่ประชุมก็ยังไม่สามารถเริ่มประชุมได้ เนื่องจาก ส.ส. จากพรรคพลังประชารัฐยังไม่ได้เข้าห้องประชุม โดย ชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ ชั่วคราว กล่าวว่าขอให้สมาชิกรอ ส.ส. จากพรรคพลังประชารัฐซึ่งกำลังประชุมกันอยู่
