โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

7 ข้อควรรู้ในการใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าและทำให้โลกนี้ดีกว่าเดิม

issue247.com

อัพเดต 19 ก.พ. 2562 เวลา 04.29 น. • เผยแพร่ 19 ก.พ. 2562 เวลา 00.00 น.

คุณรู้จัก “ห้วงวินาทีแห่งความจริง” เหล่านั้นไหม? มันคือช่วงที่สิ่งที่คุณได้ยินหรือตระหนักถึงเปลี่ยนแปลงโลกของคุณ หรือเป็นช่วงที่คุณได้ยินบางอย่างในเวลาที่เหมาะสม และนี่คือความเข้าใจ 7 ข้อที่อาจเปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณไปในทางที่ดีขึ้นได้

 

1. รับผิดชอบชีวิตของตัวเอง 100 เปอร์เซ็นต์

ตอนแรกที่ได้ยินฉันรู้สึกอึดอัดนิดหน่อย ฉันต้องรับผิดชอบทุกอย่างเลยเหรอ? แต่เมื่อปัญหาเกิดขึ้นแล้วและถ้าฉันต้องการแก้ปัญหาอย่างน้อยฉันก็ต้องมีปัญหาของตัวเองก่อน แต่ไม่ได้หมายความว่าเรายอมรับสิ่งที่คนอื่นทำกับเรา เราแค่ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นและหาทางรับผิดชอบมัน เราไม่สามารถเปลี่ยนสถานการณ์ในชีวิตเพื่อหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ แม้ว่าคำแก้ตัว เหตุผล และการโทษคนอื่นอาจทำให้เรารู้สึกสบายใจขึ้น แต่สุดท้ายปัญหาก็ไม่ได้หายไปไหน ลองสำรวจหาสิ่งที่คุณรู้สึกไม่พอใจในชีวิต จากนั้นก็จงรับผิดชอบมัน 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วหรือกำลังเกิดขึ้นอยู่ตอนนี้ การรับผิดชอบหมายถึงการนำพลังที่เคยเป็นของคุณกลับมา

 

2. อะไรของคนอื่นที่คุณรู้สึกขัดใจนั่นล่ะคือภาพสะท้อนของคุณ

คุณมักจะหงุดหงิดคนอื่นเรื่องอะไร? ใช่นั่นล่ะคือภาพสะท้อนของคุณ แต่แทนที่จะตัดสินคนอื่นคุณควรใช้โอกาสนี้ในการฝึกความรู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้อื่นดีกว่า เห็นไหมได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย! ลองสังเกตสิ่งที่คนอื่นทำให้คุณรู้สึกรำคาญแล้วหันมาพิจารณาตัวเองคุณจะเติบโตและเรียนรู้จากเรื่องนี้อย่างไร?

 

3. คำชมของคุณคือคุณสมบัติที่คุณต้องการแสดง

คุณชื่นชมใคร? และคุณมองคุณสมบัติใดในตัวของพวกเขา? สิ่งเหล่านี้ก็เป็นภาพสะท้อนที่บ่งบอกว่าคุณปรารถนาที่จะมีคุณสมบัติใด หากคุณชื่นชมโอปราห์ในการผูกสัมพันธ์กับผู้คน จงรู้ไว้ว่าคุณก็มีความสามารถนั้นด้วย หากคุณชื่นชมความกล้าหาญและทัศนคติเชิงบวกในชีวิตของริชาร์ด แบรนสัน จงรู้ไว้ว่าคุณก็มีสิ่งเหล่านั้นด้วย นั่นคืออีกด้านของตัวเองที่คุณต้องการแสดงออกมา

 

4. อย่าขับไล่ความมืดด้วยความมืด

ในโลกปัจจุบันเรามักจะเผชิญหน้ากับการจู่โจม การโจมตี และโศกนาฏกรรมอื่นๆเสมอทั้งในหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ และสื่อสังคมต่างๆ เราปฏิเสธไม่ได้แต่เลือกวิธีที่จะจัดการกับมันได้ สิ่งที่เราเรียนรู้จากประวัติศาสตร์คือ..สงครามคือการล้างแค้นไม่มีวันสิ้นสุด ความโกรธจะยิ่งเติมเชื้อไฟให้รุนแรงขึ้น ความกลัวจะยิ่งสร้างความกลัว เราไม่อาจขับไล่ความมืดได้ด้วยความมืด มีเพียงแสงสว่างเท่านั้นที่ทำได้ ความเกลียดชัง ความโกรธแค้น และความไม่พอใจล้วนแต่สร้างความบาดหมาง โลกไม่ได้ดีขึ้นแต่ยิ่งทำให้เราทุกคนรู้สึกเจ็บปวด ทางที่ดีเราควรมอบความรักให้แก่กัน

 

5. คนเรามักจะทำทุกอย่างสุดความสามารถ

ตอนนี้คุณอาจไม่เห็นด้วยแต่ได้โปรดฟังฉันก่อน จะเกิดอะไรขึ้นถ้าทุกคนบนโลกนี้ (รวมถึงคนที่โลภมากและขี้โมโห) ทำทุกอย่างสุดความสามารถ? เราไม่รู้หรอกว่าคำพูดนี้จริงหรือไม่? บางทีพนักงานเสิร์ฟคนนั้นอาจมีปัญหาการนอนหลับ บางทีผู้ชายคนนั้นที่เบี้ยวส่งงานอาจมีปัญหาครอบครัว เราไม่เคยรู้ว่าคนอื่นเผชิญปัญหาอะไรมาบ้าง เราไม่เคยรู้ความคิด ประสบการณ์ หรือเหตุผลที่ทำให้พวกเขาต้องทำแบบนั้น แต่ถ้าอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นเราก็อาจจะทำแบบเดียวกับพวกเขา เราควรสังเกตก่อนที่จะตัดสินคนอื่น ทุกอย่างอาจเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงหากมองจากอีกมุมหนึ่ง

 

6. ต้องยอมรับสิ่งที่คุณไม่ชอบเพื่อก้าวไปข้างหน้า

บางอย่างก็ยอมรับได้ยากไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ ความเชื่อ หรือพฤติกรรมของคนอื่นหรือของตัวเอง นานมาแล้วที่ฉันมองข้ามความจริงที่ว่าฉันไม่ชอบงานของตัวเอง ฉันกลบเกลื่อนความรู้สึกโดยทำเป็นสนใจแต่ปาร์ตี้ในช่วงวันหยุด แอลกอฮอล์ และเพื่อนๆ ในที่สุดฉันก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการยอมรับมัน และเมื่อยอมรับได้ฉันก็สามารถก้าวไปข้างหน้าได้

 

7. คุณมีความสำคัญอย่างมาก

ใช่และการยอมรับตัวเองจะทำให้คุณกลายเป็นคนที่ดีขึ้น คุณมีความสำคัญกับคนรอบข้าง กับสังคมที่คุณอยู่ และกับโลกใบนี้ ไม่มีใครที่มีความสนใจ ความสามารถ และประสบการณ์แบบเดียวกับคุณ ทั้งพรสวรรค์ ความใฝ่รู้ และคุณสมบัติต่างๆไม่ใช่สิ่งที่ถูกจับฉลากมา ทุกอย่างย่อมมีเหตุและผล จงนำสิ่งเหล่านี้ไปใช้ประโยชน์ ให้โลกเห็นความสามารถของคุณ ให้ผู้อื่นมีส่วนร่วม และเมื่อคุณประสบความสำเร็จ คนอื่นๆก็จะทำตามและประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับคุณ จงกระทำ จงพูด และจงเชื่อว่าคุณมีความสำคัญอย่างมาก..เนื่องจากทุกอย่างคือเรื่องจริง

 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0