การเดินทางไม่ว่าจะไปเที่ยว หรือไปทำงานโดยเฉพาะที่ไกลๆ ต้องนั่งเครื่องบินเนี่ย ถ้าไม่ใช่คนบินบ่อยมากๆ จนเคยชินแล้วเนี่ยะ การจะไปแต่ละทีก็ตื่นเต้น ทำอะไรไม่ค่อยจะถูกเหมือนกันนะ บางทีอาจจะเผลอหลงลืมทำอะไรผิดพลาดเอาได้อีกต่างหาก ดังนั้นแล้วเรามาเช็คความพร้อมก่อนออกบินกันดีกว่า จะได้เดินทางแบบไม่หลง ไม่เก้อ ไม่ต้องเจอกับปัญหาและอุปสรรคใดๆ ก่อนไปเที่ยวกันเถอะ
#1. ดูวันเวลาให้ชัวร์
อย่ามัวเอาแต่ตื่นเต้นกับการที่จะได้ไปเที่ยวเสียจนไม่ได้ดูวันและเวลาที่จะต้องเดินทางเสียล่ะ โดยเฉพาะถ้าพลาดดูเวลาผิดแม้แต่นิดเดียว ก็ทำให้อดขึ้นเครื่องได้เลยนะ จะเสียเที่ยวเสียเวลาเป็นที่สุดแถมหมดอารมณ์แทนที่จะได้สนุกกับการไปเที่ยว กลับต้องตกเครื่องและเซ็งสุดๆ แทน เพราะฉะนั้นมีแอพไหนก็บันทึกไว้แจ้งเตือนย้ำไว้เยอะๆ เลย จะได้ไม่ต้องพลาด ชัวร์เรื่องวันและเวลาได้แล้วล่ะ
#2. เส้นทางตอนไปสนามบิน
ดูและอ่านรีวิวสถานที่ท่องเที่ยว จุดแวะ แลนด์มาร์คสำคัญๆ เยอะแยะมาหมดเลย แต่อาจจะพลาดครั้งใหญ่ได้ หากไม่ดูเส้นทางการไปสนามบินให้ดี เหมือนจะเป็นเรื่องตลกนะ แต่บางคนก็พลาดไปขึ้นเครื่องผิดสนามบินก็มี ดังนั้นก็เช็คให้ชัวร์ด้วยว่าต้องไปขึ้นเครื่องที่ดอนเมือง หรือสุวรรณภูมินะ เพราะถ้ามาถึงสนามบินแล้วเพิ่งรู้ว่ามาผิดสนามบินนี่งานเข้าเลยนะ และถ้าไม่อยากร้อนใจลุ้นตัวโก่งว่าจะไปขึ้นเครื่องทันหรือเปล่า ก็เผื่อเวลาไปเถอะถึงสนามบินก่อน 2-3 ชั่วโมงดีที่สุด อาจจะเบื่อที่ต้องรอนานหน่อย แต่สบายใจกว่ากันเยอะว่าจะไม่ตกเครื่องแน่ๆ ถ้าไม่เผลอนั่งหลับรอจนเกินเวลาขึ้นเครื่องนะ ตั้งเวลาปลุกเตือนไว้บ้างอะไรบ้าง
#3. น้ำหนักกระเป๋า
หลายๆ คนกลัวมากเพราะไม่เคยเดินทางไปที่นั่นที่นี่ เลยขนของไปเผื่อซะเยอะและมากจนเกินไป อะไรๆ ก็ดูจะจำเป็นและขาดไม่ได้ โดยเฉพาะสายถ่ายรูปเนี่ยจะยอมให้ชุดซ้ำกันไม่ได้เลยจริงๆ ทางที่ดีจัดของไปเท่าที่จำเป็น และลองชั่งน้ำกระเป๋าดูก่อนก็ได้ว่าจะไม่เกิน 7 กิโลกรัม และขนาดไม่ใหญ่มากจนเกินไป ไม่งั้นจะต้องเสียเงินโดยไม่จำเป็นซะเปล่าๆ แต่ถ้าหากว่าต้องแบกไปเยอะจริงๆ อย่างเลี่ยงไม่ได้ ก็ซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มจากเว็บไซต์ของการบินเผื่อไปได้เลย จะได้ราคาถูกกว่าการมาจ่ายที่หน้าเคาน์เตอร์ด้วยนะ
#4. ของเหลวที่นำขึ้นเครื่องได้
หลายๆ คนเผลอแพคกระเป๋าเหมือนยามนั่งรถไปเที่ยวต่างจังหวัด มีครีมอาบน้ำ ครีมทาผิว เครื่องสำอางแบบไหนที่ใช้อยู่ก็เอาทั้งอย่างนั้น จะมีปัญหาตอนขึ้นเครื่องเอาได้ค่ะ ของเหลวที่เอาขึ้นเครื่องบินได้ต้องไม่เกิน 100 มิลลิลิตร และรวมกันทั้งหมดต้องไม่เกิน 1,000 มิลลิลิตรค่ะ ดังนั้นหากว่าจะพกพาจริงๆ หาเซ็ตแบ่งใช้เอาไว้ให้เรียบร้อยก็ได้ เพราะถ้าหากว่าเกินจากนี้ควรใส่ในกระเป๋าที่จะโหลดแทนเอาดีกว่าค่ะ ส่วนขวดน้ำสามารถพกขวดเปล่าแล้วไปขอเติมน้ำเอาบนเครื่องได้นะคะ
#5. แบตเตอรี่สำรอง
สำหรับยุคสมัยนี้คงจะขาดการเล่นโซเชี่ยลไม่ได้หรอก พาวเวอร์แบงค์หรือแบตสำรองจึงสำคัญมาก เพราะเราไม่รู้จะหาที่ชาร์จอีกได้เมื่อไหร่ ถ้าแบตหมดก่อนถึงโรงแรมคงจะเซ็งมากแน่ๆ สามารถเอาไปได้ แต่ห้ามโหลดใส่กระเป๋าต้องนำติดตัวขึ้นเครื่องไปด้วย และสามารถพกแบบที่จำนวนความจุที่ไม่เกิน 20,000 mAh สามารถพกได้ไม่จำกัดจำนวน แต่ถ้าแบบไม่เกิน 32,000 mAh ให้พกขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 2 ก้อน ส่วนถ้าขนาดเกินกว่า 32,000 mAh เอาขึ้นเครื่องไม่ได้เลยจ้า ถ้ายังไงอย่าลืมเช็คระเบียบข้อนี้เผื่อไว้ด้วยนะคะ
#6. เช็คอินให้ชัวร์
พอถึงสนามบินปุ้บ ควรตรงไปที่ส่วนผู้โดยสารขาออก ตรวจดูให้ดีว่าต้องเช็คอินที่เคาน์เตอร์ไหน นอกจากการเช็คอินตามปกติแล้ว เดี๋ยวนี้เราสามารถเช็คอินแบบออนไลน์ได้ด้วยแล้วนะ ซึ่งสะดวกและประหยัดเวลามาก พิมพ์บอร์ดดิ้งพาสเตรียมไว้เลย พอถึงสนามบินก็ไม่ต้องไปเข้าคิวต่อแถวยาวๆ ให้เมื่อยและน่าเบื่อด้วย ยิ่งถ้าไม่ต้องโหลดกระเป๋าอีกก็ใช้เวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมงเลยด้วยนะ แบบนี้ต้องลองใช้ดูแล้วจริงๆ
#7. เตรียมร่างกายให้พร้อม
อย่ากินอะไรที่เสี่ยงต่อการไม่สบายตัวอย่างอาหารรสจัด การกินอิ่มเกินไป หรือกินอะไรที่มีความเสี่ยงว่าจะท้องเสียเอาได้ เพราะถึงแม้ว่าบนเครื่องบินจะมีห้องน้ำ แต่ถ้าท้องเสียมันก็จะลำบากซะเปล่าๆ เอานะ และถ้ารู้ตัวว่าปรับตัวกับบนเครื่องบินไม่ค่อยได้ก็ควรเตรียมยาแก้เมารถไปด้วย จะช่วยได้เยอะกว่าที่จะต้องมาทนทรมานเอาด้วยนะ ส่วนเสื้อผ้าควรเลือกใส่แบบที่นั่งนอนสบายๆ ก็จะดีกว่ากันมากเลยล่ะ นั่งอยู่บนเครื่องนานๆ จะได้ไม่อึดอัดเนาะ
การเดินทางด้วยเครื่องบินอาจจะต้องเตรียมตัวมากกว่าการเดินทางอื่นๆ อยู่สักหน่อยแต่ก็ไม่ยากจนเกินไป เพียงเตรียมตัวตามที่บอกเท่านี้ ก็พร้อมจะไปลุยเที่ยวได้อย่างสนุกสนานกันแล้วล่ะ ถ้าการเดินทางราบรื่นไม่ขรุขระ ไปเที่ยวไหนก็จะสบายใจหายห่วง กลายเป็นทริปที่น่าประทับใจและจดจำไว้ไปอีกนานอย่างแน่นอนเลยจ้า
