โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

7 วิธีเพิ่มพลังงานที่มีประสิทธิภาพยิ่งกว่ากาแฟ

issue247.com

อัพเดต 16 ม.ค. 2562 เวลา 04.45 น. • เผยแพร่ 17 ม.ค. 2562 เวลา 00.00 น.

จากการสำรวจล่าสุดของสมาคมจิตวิทยาแห่งอเมริกาพบว่าชาวอเมริกันราวร้อยละ 75 มีอาการเครียดทางกายภาพและสูญเสียพลังงานด้วย ขณะที่พฤติกรรมหลายอย่างก็ทำให้คุณกลายเป็นคนเอื่อยเฉื่อยได้อย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยเหตุนี้คุณจึงควรทำบางอย่างเพื่อรักษาสมดุลของพลังงานซึ่งจะช่วยให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากขึ้นในวันถัดไป

 

1. เคี้ยวมากขึ้นเป็นสองเท่า

การเคี้ยวคือปัจจัยที่สำคัญมากของระบบย่อยอาหาร ร่างกายจะย่อยสารอาหารและเปลี่ยนเป็นพลังงานจากนั้นก็กักเก็บพลังงานเหล่านั้นไว้ แม้ว่าจำนวนการเคี้ยวที่เหมาะสมต่อหนึ่งคำจะยังไม่ชัดเจนแต่คุณอาจต้องเคี้ยวอาหาร 25-40 ครั้งเพื่อควบคุมความอยากอาหาร

 

2. ดื่มกาแฟน้อยกว่าหนึ่งถ้วย

ใช่คุณอ่านถูกแล้ว คาเฟอีนในกาแฟจะขัดขวางการทำงานของตัวรับอะดีโนซีนซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย อย่างไรก็ตามร่างกายของคุณจะไม่หยุดผลิตมัน ดังนั้นเมื่อคาเฟอีนหมดฤทธิ์อะดีโนซีนที่สะสมจะทำให้คุณเหนื่อยล้า (และต้องการคาเฟอีนเพิ่มขึ้น) สุดท้ายวัฏจักรก็จะวนเวียนอยู่อย่างนี้ ทางที่ดีคุณควรลดปริมาณการดื่มกาแฟลงเพื่อให้ระดับพลังงานของคุณมีความเสถียรมากขึ้นในระยะยาว

 

3. เดินมากกว่าปกติอีก 250 ก้าว

ยิ่งเคลื่อนไหวร่างกายก็ยิ่งทำให้เลือดไหลเวียนมากขึ้นซึ่งจะช่วยลดภาระการทำงานของร่างกาย เพียงเดินเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 250 ก้าวก็สามารถบริหารกล้ามเนื้อรวมทั้งพัฒนาระบบพลังงานและจิตใจได้แล้วไม่ว่าจะเป็นการเดินระหว่างคุยโทรศัพท์ เดินเล่นรอบๆออฟฟิศ หรือเดินขึ้นลงบันได

 

4. สูดอากาศหายใจลึกๆบ้าง

เซลล์ของคุณต้องการออกซิเจนในการสร้างพลังงาน ดังนั้นเมื่อคุณหายใจเอื่อยๆร่างกายก็จะปฏิบัติตามนั้นไปด้วย ขณะเดียวกันการหายใจตื้นก็เป็นผลข้างเคียงอย่างหนึ่งที่เกิดจากความเครียด ร่างกายจะส่งสัญญาณไปยังระบบประสาทและทำให้อาการวิตกกังวลของคุณหนักขึ้น ดังนั้นคุณควรเปลี่ยนพฤติกรรมการหายใจให้นานขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อยและพยายามหายใจช้าๆตลอดทั้งวันเพื่อลดการตอบสนองต่อความตึงเครียดขณะที่กระตุ้นการทำงานของเซลล์ ลองฝึกหายใจด้วยกล้ามเนื้อกระบังลม เริ่มจากหายใจเข้าผ่านจมูกและนับ 1-3 จากนั้นก็หายใจออกทางปากและนับ 1-3 ทำซ้ำตามที่ต้องการ

 

5. เพิ่มปริมาณอาหารที่มีกากใย

คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนซึ่งพบได้ในอาหารอย่างธัญพืชเต็มเมล็ด ผัก พืชตระกูลถั่ว และเมล็ดพันธุ์ต่างๆจะมีส่วนประกอบของกลูโคสอันเป็นแหล่งพลังงานหลักสำหรับสมองกับร่างกายและเนื่องจากพวกมันมีส่วนประกอบของกากใยอาหารด้วยก็เลยย่อยช้า นอกจากนี้กากใยอาหารยังช่วยในเรื่องการนอนหลับซึ่งเป็นผลดีต่อการสร้างพลังงานและทำให้คุณรู้สึกสดชื่นในเช้าวันรุ่งขึ้น

 

6. สังเกตสีของปัสสาวะ

เมื่อคุณขาดน้ำความดันโลหิตก็จะลดลง อัตราการเต้นของหัวใจก็จะเพิ่มขึ้น และการไหลเวียนโลหิตไปยังสมองก็จะช้าลงซึ่งทั้งหมดนี้จะทำให้คุณเหนื่อย ทางที่ดีคุณควรสังเกตสีของปัสสาวะซึ่งควรจะเป็นสีเหลืองอ่อนแต่ถ้าสีเข้มกว่านั้นก็ให้ดื่มน้ำเยอะๆ จิบเรื่อยๆตลอดทั้งวัน

 

7. จดบันทึกสิ่งดีๆสามอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้

สมองของคนเรามักจะจดจำแต่สิ่งแย่ๆและหลงลืมสิ่งดีๆไป เมื่อคุณกังวลว่าอาจจะมีสิ่งที่ไม่ดีเกิดขึ้นร่างกายก็จะหลั่งฮอร์โมนความเครียดออกมา ดังนั้นคุณควรหาเวลาจดบันทึกสิ่งดีๆสามอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้หรือเหตุการณ์ใดๆก็ตามที่ทำให้คุณรู้สึกซาบซึ้งใจเพื่อระงับการหลั่งฮอร์โมนความเครียดเพื่อปกป้องแหล่งพลังงานของคุณ

 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0