โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

6 ไอเดียสุดแป้กบนสมาร์ทโฟน ที่ไม่ประสบความสำเร็จ

Thaiware

อัพเดต 25 ก.ย 2561 เวลา 03.47 น. • เผยแพร่ 24 ก.ย 2561 เวลา 10.48 น. • moonlightkz
6 ไอเดียสุดแป้กบนสมาร์ทโฟน ที่ไม่ประสบความสำเร็จ
มือืถอทุกวันนี้มีการใส่ไอเดียนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามามากมาย บ้างก็สำเร็จ บ้างก็แป้ก มาดูดีกว่าวันมีอะไรที่แป้กบ้าง

6 ไอเดียสุดแป้กบนสมาร์ทโฟน ที่ไม่ประสบความสำเร็จ

สมาร์ทโฟนนั้น มีการพัฒนามานานกว่า 10 ปี จากอดีตถึงปัจจุบัน ซึ่งฮาร์ดแวร์ทุกวันนี้ได้มาถึงจุดที่เรียกได้ว่าอยู่ในช่วงทางตัน ไม่มีอะไรใหม่นอกจากซีพียูที่เร็วกว่าเดิม, กล้องดีกว่าเดิม หรือแบตเตอรี่ที่อึดขึ้น ซึ่งช่วงปลายปีนี้อาจจะมีของเล่นใหม่อย่างจอพับได้ออกมาให้ยลโฉมกัน พักเรื่องอนาคตมามองย้อนกลับไปกันบ้างดีกว่า ว่ามีไอเดียไหนบ้างที่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนพยายามนำมาใช้ แต่ว่าล้มเหลวไม่ประสบความสำเร็จ

จอ 3 มิติ (3D Screens)

มีช่วงหนึ่งในปี 2011 ที่มือถือจอ 3 มิติ ได้พยายามสร้างกระแสในตลาด อย่าง HTC EVO 3D และ LG Optimus 3D ที่ออกตามมาในเวลาไร่เรี่ยกัน ทั้งคู่ใช้เทคโนโลยีหน้าจอแบบ Parallax Barrier 3D ในการสร้างภาพ 3 มิติ หากใครนึกไม่ออก มันทำงานเหมือนกับในเครื่องเกมส์พกพาสุดฮิตอย่าง 3DS นั่นแหละ

ตอนเปิดตัวมา มันเป็นอะไรที่ว้าวมาก แต่ก็มาไวเคลมไว ไม่มีใครสนใจมันมากนัก อาจจะเป็นเพราะไม่มีเนื้อหามารองรับด้วยล่ะมั้ง ทำให้มันเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว และไม่มีใครคิดถึงมันอีก

มีโปรเจคเตอร์ในตัว

ในงาน MWC 2012 Samsung ได้นำ Galaxy Beam มาโชว์ มันเป็นสมาร์ทโฟนที่มีโปรเจคเตอร์ในตัว สามารถฉายภาพบนจอได้อย่างง่ายดาย อันที่จริงมันเป็นไอเดียที่ฟังดูเข้าท่ามากๆ แต่กระแสตอบรับกลับไม่ดีอย่างที่คิด รวมถึงทาง Samsung ก็ดูไม่ค่อยจะโปรโมทเจ้าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้สักเท่าไหร่ด้วย

ปัญหาใหญ่ของมันคือ โปรเจคเตอร์ในตัวทำให้ตัวเครื่องมีขนาดหนามาก ไหนจะปัญหาด้านความร้อนสูง และการที่มันซดพลังงานแบตเตอรี่อย่างมหาศาล ทำให้มีน้อยคนที่จะเลือกซื้อมันมาใช้ ค่าย Moto ก็พยายามทำบ้างเหมือนกัน ด้วยการออกเป็นอุปกรณ์เสริม Moto Mod แต่ก็นั่นแหละ ขายไม่ดีสักเท่าไหร่อยู่ดี

จอคู่ Dual screens

ตามหลักการแล้ว สมาร์ทโฟนนั้นมีแค่จอเดียวก็พอ แต่ก็มีความพยายามในการทำจอคู่ออกมา ในที่นี้เราไม่ไได้หมายถึงพวกจอเสริมเล็กๆ ด้านหลังอะไรแบบนั้นนะครับ แต่หมายถึงจอคู่แบบเต็มๆ เลย โดยจุดประสงค์หลัก ก็คือการเพิ่มพื้นที่แสดงผลให้สามารถใช้งานได้เหมือนแท็บเล็ต มองย้อนไปเริ่มมาตั้งแต่ Kyocera Echo จนกระทั่งล่าสุดอย่าง Axon M กับ Nubia Z18S แต่กระแสก็ไม่ประสบความสำเร็จนัก เนื่องจากประสบการณ์ด้านการใช้งานที่ไม่สมบูรณ์สักเท่าไหร่ รุ่นที่พอจะพูดได้ว่าเกือบจะประสบความสำเร็จ เราว่ามีแค่ YotaPhone 2 เท่านั้น ที่ทำจอหลังเครื่องเป็นจอ E-Ink ใช้อ่าน E-Book ได้แบบสบายตา แต่ก็มีการวางจำหน่ายอยู่แค่ในวงแคบเท่านั้น

แต่ในเร็วๆ นี้เราอาจจะได้เห็นของคล้ายๆ กันออกมา แล้วประสบความสำเร็จก็ได้นะ นั่นก็คือสมาร์ทโฟนจอพับได้ ที่จะไม่มีรอยต่อเป็นจอเดียวที่พับแบ่งจอแสดงผลเพื่อกางออกมาเป็นแท็บเล็ตได้

สมาร์ทโฟนแบบ Modular ประกอบชิ้นส่วนได้ตามต้องการ

ยังจำความ Hype ที่เกิดขึ้นในตอนที่เห็น Project Ara และ Phonebloks ได้ไหม มันเป็นสมาร์ทโฟนที่เราสามารถปรับแต่งฮาร์ดแวร์ตามความต้องการใช้งานได้อย่างง่ายดาย แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็ไม่สามารถผลิตออกมาขายได้ตามความฝันที่วาดไว้ เราได้เห็นแค่การพยายามทำตลาดของสมาร์ทโฟนที่ปรับแต่งได้เล็กน้อยอย่าง LG Friends กับ Moto Mod เท่านั้น และแน่นอนว่าทั้งคู่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร แถม Mod ที่มีให้เลือกก็จำกัดมาก แถมไม่ใช่การปรับแต่งความสามารถ แต่ออกแนวเพิ่มความสามารถเสียมากกว่า

ตัดช่องหูฟัง 3.5 มม. ออก

นับตั้งแต่ Apple ตัดรูหูฟังออกไปใน iPhone 7 ฟาก Android ก็ตัดมันออกตามไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมือถือรุ่นเรือธงก็ตัดตาม iPhone ไปด้วย แม้ว่า iPhone 7 จะไม่ใช่รุ่นแรกที่ตัดช่องนี้ทิ้งไป แต่ก็ต้องยอมรับว่าเพราะ Apple เลยที่ทำให้ผู้ผลิตรายอื่นหันมาตัดออกตาม

ว่ากันในทางทฤษฏี การตัดช่องนี้ออกจะทำให้เครื่องออกแบบได้บางขึ้น กันน้ำได้ดีขึ้น แต่ในความเป็นจริงที่เราเห็น คือ รุ่นที่มีหรือไม่มีก็บางพอๆ กัน แถมกันน้ำก็กันได้เหมือนกันอีกต่างหาก ก็เลยเป็นความคับข้องใจของผู้บริโภคต่อไปว่าทำไมถึงต้องตัดมันทิ้งกันนะ

อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวผู้เขียนไม่ได้รับผลกระทบอะไรมาก เนื่องจากชอบใช้หูฟังไร้สายอยู่แล้ว แม้เสียงจะแย่กว่าหูฟังแบบมีสาย แต่มันก็คล่องตัวกว่าเยอะเลย

6 ไอเดียสุดแป้กบนสมาร์ทโฟน ที่ไม่ประสบความสำเร็จ
6 ไอเดียสุดแป้กบนสมาร์ทโฟน ที่ไม่ประสบความสำเร็จ

ปุ่ม Assistant ของ Samsung

อันนี้เป็นการติไปยังทาง Samsung โดยตรง ในขณะที่เราปรบมือให้กับการที่ Samsung แทบจะเป็นค่ายเดียวในตลาดที่ไม่ทำมือถือจอแหว่ง แถมยังอนุรักษ์ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. เอาไว้ให้ในเรือธงด้วย แต่ทำไมต้องให้ปุ่มเรียก Bixby มาด้วยนะ

ผู้ใช้สมาร์ทโฟนของ Samsung รุ่นที่มีปุ่ม Bixby จำนวนมาก แสดงความเห็นในทางลบต่อเจ้าปุ่มนี้ สาเหตุก็มาจาก ไม่มีใครต้องการใช้ Bixby แทน Google Assistant เราคงคุ้นเคยกับการใช้คำสั่ง OK Google หรือ Hey Siri แต่ Samsung คงมองว่าไม่จำเป็นต้องพูดประโยคแบบนั้นหรอก นี่เลยแค่กดปุ่ม ก็เรียก Bixby ได้แล้ว

แต่ปัญหา คือ ไม่มีใครอยากใช้มัน แถมยังชอบเผลอไปกดโดนเจ้าปุ่ม Bixby โดยไม่ตั้งใจอีกต่างหาก ล่าสุดทาง Samsung ได้ออกแพทช์ให้ ตั้งค่าปุ่ม Bixby ทำงานต่อเมื่อกด 2 ทีติดเท่านั้น หรือจะปิดไปเลยก็ได้ จริงๆ Samsung น่าจะให้ใช้ตั้งเป็นกดเรียกแอพฯ ชอทคัทที่ต้องการได้เลยนะ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0