ปักหมุดทำเลทอง
บ้านที่เคยเงียบสงบ แวดล้อมไปด้วยป่าธรรมชาติ เวลานี้เริ่มอึกทึกทันที ที่มีห้างยักษ์ รถไฟฟ้าวิ่งผ่าน ส่งผลให้ชุมชนเก่าละแวก“ห้าแยกลาดพร้าว” ลุกเป็นไฟ กลายเป็นป่าคอนกรีต เมืองคอนโดมิเนียมสูงระฟ้า ตั้งตระหง่านขึ้นแทน ขณะการช่วงชิงที่ดินทำเลทองยังมีต่อเนื่องตลอด 2 ฟากฝั่งแนวเส้นทางรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-คูคต
แม้วันนี้ ผู้ดีเก่า ผู้เฒ่าผู้แก่จะบางตาหายหน้าไป มีไลฟ์สไลต์คนรุ่นใหม่แทรกตัวเข้ามาแทนที่ ที่น่าทึ่งหากทอดมองจากสถานีรถไฟฟ้า ก่อนความสูงของตึกอีกแท่ง ต่อยอดความสูงจนบดบัง จะเห็นบ้านโบราณยังปักหลักท้าทายความเจริญที่ประชิดเข้ามากระทั่งตกอยู่กลางวงล้อมของตึกสูงอย่างไม่สะทกสะท้านกับการเปลี่ยนแปลงท่ามกลางการตอกตรึงลงเสาเข็ม อย่างต่อเนื่อง
ความน่าสนใจ ทีมข่าว“ฐานเศรษฐกิจ” ลงพื้นที่ขอพบเจ้าของบ้านน้อยหลังนี้ ได้ความว่าเป็นของอดีตนายทหารลูกทัพฟ้า“บิ๊กจอม” หรือ“พล.อ.ต.ผจญ การเที่ยง” ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการ ด้านคมนาคมทางอากาศ วุฒิสภา(ส.ว.)
จากการเกาะขอบรั้วสอบถาม กลายเป็นแขกรับเชิญให้เข้าเยี่ยมชมบ้าน“บิ๊กจอม” เล่า พร้อมแนะนำตัวบ้านว่า บ้านหลังนี้เป็นเรือนไทยโบราณ 2 ชั้นขนาดย่อม สร้างด้วยไม้ตะเคียนทองทั้งหลัง ปัจจุบันหาได้ยากยิ่ง อาจมีเพียงหลังเดียวในกรุงเทพมหานครก็เป็นได้ ดังนั้น จึงมีมูลค่า โดยเฉพาะทางใจ สร้างความทรงจำที่ดีสำหรับลูกชายทั้ง 2 คนซึ่งเป็นทหารอากาศ
แม้จะมีคอนโดมิเนียมสูง ก่อสร้างโอบล้อมปกคลุมบ้านแทนที่ธรรมชาติกับเพื่อนบ้าน แต่ยังยืนยันจะไม่ขายบ้านหลังนี้เด็ดขาด แม้ที่ดินบางส่วนได้ขายให้กับ บริษัท เอพี(ไทยแลนด์) จำกัด(มหาชน) หรือ AP ในราคาที่สูงกว่า 7 แสนบาทต่อตารางวา แต่หากจะซื้อทั้งหลังบนเนื้อที่เกือบ 1 ไร่คงเป็นเรื่องใหญ่ อายุของบ้านและที่ดินแปลงนี้เกือบ 50 ปี ซื้อที่ดินปลูกบ้านราว ปี 2518-2519 สมัยนั้นราคาตารางวาละ 2,700 บาท เพราะติดถนน ใกล้ห้างสรรพสินค้า เดินทางสะดวก เมื่อวันนี้มีตึกสูงถึง 42 ชั้น ตั้งอยู่รอบบ้าน บิ๊กจอมและภรรยาจึงสร้างตึกสีเหลืองนวลขึ้นอีก 1 หลังภายในรั้วบ้าน เป็นอาคารโมเดิร์นสูง ชั้น ไว้รับรองแขกและเพื่อนๆ
“เขาสร้างสูง 42 ชั้นได้ เราก็สร้างตึกสูง 4 ชั้นได้ ต่อให้นายทุนขอซื้อในราคา 500 ล้านบาท ก็ไม่ขายที่ผ่านมาตั้งราคาสูง เพื่อไม่ให้ใครซื้อ เนื่องจากมีบริษัทอสังหาริมทรัพย์ติดต่อขอซื้อหลายครั้ง”
กระทั่ง ต้องพาเข้าไปดูเหตุผลด้านในบ้านว่า ที่ไม่สามารถขายบ้านหลังนี้ได้เพราะภายในบรรจุอัฐิ ลูกชายนักบินถึง 2 คนที่เสียชีวิตจากเครื่องบินตก บ้านหลังนี้ ตรึงความทรงจำไว้ทุกมุมบ้านว่า บุตรชายทั้ง 2 คน วิ่งเล่นบริเวณไหนบ้าง
บิ๊กจอมยอมรับว่า ทำเลนี้พอมีรถไฟฟ้า มีห้างสรรพสินค้า ยิ่งสะท้อนภาพความเปลี่ยนแปลง ราคาที่ดิน ปรับตัวสูง ที่ดินแปลงนี้ มีทางเข้าออกส่วนตัวไปสุดปากซอย ซึ่งเป็นที่ตั้งโชว์รูมโตโยต้า ติดกับห้างโลตัส ซึ่งปัจจุบันเจ้าของโชว์รูมยังเช่าที่ดิน เดือนละหลักแสนบาท ขณะที่นายทุนหลายเจ้ายังติดต่อขอซื้อเป็นระยะ
ถึงกาลเปลี่ยนแปลง จากบ้านไม้ธรรมดาๆ กลายเป็นแท่งตึกสูงปรี๊ด ดึงคนเข้าไปอยู่รวมกองบนนั้น ถามว่าสะดวกต่อการเดินทางไหม ต้องยอมรับว่า นี่คือไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ชื่นชอบการอยู่อาศัย ช็อปปิ้ง ทำงาน บนเส้นทางรถไฟฟ้า เช่นเดียวกับบิ๊กจอมและภรรยา ท่านก็ต้องการอยู่ที่เดิม ไม่ใช่เพียงเพราะติดถิ่นหวงแหนบ้านอันเป็นที่รัก แต่ภายในรั้วบ้านอันเงียบเหงาหลังนี้ ยังตั้งตารอ 2 ลูกชายนักบินกลับมา แม้จะไม่มีวันหวนคืนก็ตาม
หน้า 18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,552 วันที่ 27-29 กุมภาพันธ์ 2563
