โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

50/50 Theory ทฤษฎีมีสุข

FWD

อัพเดต 26 ก.ค. 2562 เวลา 06.27 น. • เผยแพร่ 26 ก.ค. 2562 เวลา 06.24 น. • FWD Thailand

ใน 1 วันคุณสามารถจัดการกับเรื่องอะไรได้บ้าง แล้ว 24 ชั่วโมง ของแต่ละคนนั้นมีค่ามากขนาดไหน มนุษย์ทุกคนต่างมีสมดุลในชีวิตที่แตกต่างกันออกไป ทั้งการกิน ไลฟ์สไตล์ การบริหารเงิน แต่การที่จะจัดสรรทุกสิ่งอย่างให้สมดุลอยู่กึ่งกลางได้ เคล็ดไม่ลับง่ายนิดเดียว แค่รู้ทฤษฎี 50/50 ชีวิตก็สุขกว่าที่เคย

50/50 Work Life ให้บาลานซ์  

งาน 50 ไปใช้ชีวิต 50 อยากบอกมนุษย์เงินเดือนทั้งหลายว่า ทำงานเต็มที่นั้นเป็นเรื่องดี แต่เมื่อไหร่ที่มันมากไป เกินกำลังจนมีผลกระทบกับสุขภาพนั้นคือการมาผิดทาง รู้ไว้เถอะว่าคุณไม่อยู่ บริษัทก็หาคนมาทำงานแทนคุณได้ แต่ชีวิตคุณ สุขภาพคุณ และความสัมพันธ์ระหว่างคนรอบข้างของคุณ อะไรก็มาทดแทนไม่ได้

เคล็ดลับการเพิ่มความสุขให้กับชีวิตในการทำงาน คือ รู้จักพอให้เป็น และแบ่งเวลาให้ชัดเจน 50 / 50 งานคืองาน ทำอย่างเต็มที่แบบ 300% ไปเลยก็ได้ (ถ้าทำได้) แต่ต้องอยู่ในเวลางาน หลังจากนั้น ก็ออกไปพักสมอง พักร่างกาย ตาม Passion ที่เราชอบ ดีไม่ดีอาจจะมีมีไอเดียในหัวยุกยิกขึ้นมา ก็แอบเอาปากกา หรือ โน้ตเก็บไว้ในโทรศัพท์เอาไว้กันลืม เวลางานเมื่อไหร่ จะได้หยิบขึ้นมาต่อยอดได้อย่างรวดเร็ว เห็นไหมว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกตั้งหลายตัว

50/50 แบ่งส่วนใช้ แบ่งส่วนออม

เรื่องการเงินเป็นเรื่องสำคัญ ใครบอกว่าเรื่องเงินทองเป็นของนอกกายนี่ขอเถียงใจขาด เงินที่แหละกำหนดทุกอย่าง ชีวิตเราจะดีหรือแย่ เงินคือตัวชี้วัดอันดับต้นๆ และความสุขก็มีค่าแปรผันไปตามสตางค์ในกระเป๋าด้วยเหมือนกันดังนั้นเราควรมีการบริหารการเงินอย่างชาญฉลาดและถูกวิธี ทั้งนี้ต้องไม่ฟุ่มเฟือยจนเกินเรื่อง หรือประหยัดจนเกินไป อยู่ตรงกลางระหว่างการใช้จ่ายเพื่อความสุขของตัวเอง ให้รางวัลตัวเอง ชดเชยความเหนื่อย กับการเก็บออมเพื่ออนาคตข้างหน้า หรือเวลาที่เกิดเหตุฉุกเฉิน เงินนั้นแหละสามารถช่วยคุณได้โดยไม่ต้องบากหน้าไปยืมใคร ยืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง

แน่นอนว่ารายรับรายจ่ายของแต่ละคนไม่เท่ากัน แต่วินัยการเก็บออมนั้นเป็นเรื่องที่สร้างได้ สิ่งที่ควรทำมากที่สุดหลังได้เงินเดือนไม่ใช่เอาเงินไปช้อปปิ้ง แต่คือการเคลียร์หนี้สิน รายจ่ายทั้งหลาย เหลือเท่าไหร่แบ่งเก็บครึ่งหนึ่ง และอีกครึ่งหนึ่งคุณก็เก็บไว้ไปใช้จ่าย และเหลือจากการใช้จ่ายก็เอามาสำรองเก็บอีกทอดหนึ่ง

อย่าลืมว่าเงินเฟ้อเป็นศัตรูสำคัญของการออม และเราไม่สามารถเลี่ยงได้ เราควรหาวิธีบริหารการเงินวิธีอื่น เช่นการลงทุนในกองทุน ซื้อ LTF ซื้อประกัน ซื้ออสังหาฯ เล่นหุ้น ฯลฯ ก็ช่วยให้เงินคุณงอกเงยได้แบบไม่น่าเชื่อ

50/50 สุขภาพครึ่งนึง ความสุขครึ่งนึง

เรื่องสุขภาพก็เป็นอีกส่วนที่จะช่วยรักษาสมดุลของร่างกายได้เช่นกัน คงไม่ดีถ้าเอาแต่ขยันทำงานหนัก แต่พอถึงวันพักผ่อน ดันออกไปปาร์ตี้ยันเช้า ท่องไว้! สิ่งที่สำคัญกว่าเงินทอง คือ สุขภาพร่างกายที่แข็งแรง มีเงินแต่ไปเที่ยวไม่ได้ เพราะต้องนอนป่วย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลก็คงไม่ดีเท่าไหร่ เริ่มต้นรักตัวเองให้มากขึ้น เลือกกินแต่ของมีประโยชน์ต่อร่างกาย บาลานซ์อาหารแต่ละมื้อ ไม่บังคับตัวเองจนเกินไป อย่าอด หรืองดอะไรสุดโต่งจนไม่มีความสุขกับการกิน เพราะความสุขอย่างหนึ่งของชีวิตคือการได้กินของอร่อย สูตรไหนๆ ก็ไม่สำคัญ เท่าปริมาณในการทานที่เหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย เพราะไม่ว่าคุณจะ IF, Low Carb, Keto ถ้าคุณไม่มีวินัยมันก็ไม่มีทางสำเร็จได้หรอก นี่คือเรื่องจริง ลองไม่เครียดกับมัน และจัดสมดุลให้กับการกินกันดูแล้วจะเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ไม่นานเกินรอ อย่าลืมพักผ่อนให้เพียงพอ เลิกดราม่ากับเรื่องไม่เป็นเรื่อง คิดบวก ออกไปหาแรงบันดาลใจนอกบ้านบ้าง แค่นี้ ชีวิตก็มีความสุขขึ้นเป็นกอง

สุดท้ายแล้ว ทฤษฎี 50/50 อาจจะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ตอบโจทย์ และเข้าถึงคนทุกๆ วัยได้ แต่อยากให้รู้ไว้ว่า 50/50 อาจจะไม่ใช่สำหรับคุณเสมอไป สูตรการใช้ชีวิตที่สมดุลและเหมาะกับคุณอาจจะเป็น 60/40 หรือ 70/30 ก็ได้ อยากให้ลองอ่านเรื่องนี้แล้วลองปรับใช้ให้เข้ากับตัวคุณมากที่สุดกันดูก่อน แล้วค่อยเริ่ม สร้างความสุขฉบับของคุณเอง ลองเปลี่ยนมุมมองปรับทัศนคติ จัดแบบแผน การใช้ชีวิตให้ดี ตรงไหนควรพอ ส่วนไหนควรไปต่อ รับรองว่าชีวิตของคุณจะแฮปปี้ขึ้นแน่นอน 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0