สมัยนี้พอปีใหม่ทั้งทีเราก็มักจะได้เห็น ‘เป้าหมายชีวิต’ ของคนรอบตัวอยู่เนือง ๆ น้องคนนี้อยากแต่งงาน พี่คนนู้นอยากถอยรถใหม่ หรืออาจจะเป็นเราเองที่ได้ร่วมตั้งเป้าเขากับด้วย เป็นเรื่องที่ดีค่ะที่เราจะได้ใช้โอกาสเหล่านี้ในการวางแผนบางอย่างให้ตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นแผนระยะสั้นหรือระยะยาวก็นับเป็นจุดเริ่มต้นที่วิเศษเลย แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะหากใครที่ยังมองไม่เห็นเป้าหมายของตัวเองชัดเท่าไหร่ ห้องแนะแนวมีคำแนะนำในการช่วยเซ็ต 5 เป้าหมายชีวิตเล็ก ๆ เพราะเราเชื่อว่าทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้แน่นอนค่ะ
รักษาสุขภาพ
ถ้ากายพัง ทุกอย่างจะพินาศตามไปด้วย หลาย ๆ คนหักโหมทำงานจนเจ็บป่วย ไม่มีเวลาว่างดูแลตัวเองเลยสักนิด ร่างกายก็ยิ่งทรุดโทรม จึงเป็นโอกาสดีที่จะได้หันมารักษาสุขภาพบ้าง ลองตั้งเป้าหมายเรื่องสุขภาพไม่ว่าจะเป็นออกกำลังกาย, เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์, ลดกาแฟ-ของหวานลง หรืออาจจะให้โควตาเป็นรางวัลตัวเอง เช่น อนุญาตให้ดื่มชาไข่มุกได้สัปดาห์ละ 1 แก้ว, ปล่อยให้ตัวเองได้กินของอร่อย ๆ ตามใจปากสัปดาห์ละครั้ง นับเป็นเป้าหมายเล็ก ๆ ที่น่าลงมือทำ และหากเราสามารถทำได้จริงก็จะยิ่งมีผลดีในระยะยาว นอกจากสุขภาพกายจะดีขึ้นแล้วยังมีความสุขที่ได้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ด้วยจริงไหมคะ
บริหารจิตใจ
ดูแลสุขภาพกายแล้วอย่าลืมดูแลสุขภาพใจ หมั่นเติมความสุขให้ตัวเองบ่อย ๆ รู้จักยินดีกับเรื่องเล็กน้อยรอบตัว ลองจดบันทึกเรื่องราวดี ๆ ประจำวันที่ได้ทำหรือได้เจอมา เช่น วันนี้เลิกงานเร็ว ได้รดน้ำต้นไม้ข้างบ้าน ได้ทำอาหารให้แม่กิน หรือไปกินข้าวกับเพื่อน ถึงจะเป็นเหตุการณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ แต่หากรู้จักมองมุมบวกบ้างในแต่ละวันก็จะช่วยให้เกิดความสุขได้ไม่น้อยนะคะ ยิ่งเวลาผ่านไปได้ย้อนกลับมาอ่านบันทึกเรื่องน่ารัก ๆ ก็ช่วยสร้างกำลังใจให้ตัวเองได้เช่นกัน เผลอ ๆ จะช่วยเปลี่ยนมุมมองในการใช้ชีวิตได้ในระยะยาว เพราะเราจะโฟกัสแต่เรื่องดี ๆ รู้จักปล่อยวางเรื่องที่ทำให้ใจขุ่นหมองไปได้ค่ะ
เป้าหมายทางการเงิน
ไม่กล้าเถียงเลยนะคะว่าเงินเป็นส่วนสำคัญของการใช้ชีวิตของเราทุกคน การวางแผนเรื่องเงินทองจึงเป็นเรื่องที่ต้องเอาใจใส่อย่างยิ่ง โดยเฉพาะในสภาพเศรษฐกิจที่เอาแน่เอานอนไม่ได้แล้วล่ะก็ หากสามารถตั้งเป้าหมายเรื่องการเงินไว้แต่เนิ่น ๆ ได้ก็ยิ่งเป็นประโยชน์
เป้าหมายการเก็บเงินเป็นเรื่องค่อนข้างส่วนตัวมาก เพราะแต่ละคนมีภาระหน้าที่การใช้จ่ายไม่เหมือนกัน บางครั้งเราอาจจะน้อยเนื้อต่ำใจว่าทำไมเราเก็บได้ไม่เยอะเท่าเพื่อนคนนั้น ดูสิคนนี้ทำงานไม่กี่ปีก็มีเงินล้านแล้ว ไม่เป็นไรค่ะ ขอให้หยุดคิดและทบทวนตัวเองตอนนี้ก่อนว่าเรามีภาระหนี้สินอะไรแค่ไหน แล้วโฟกัสการเก็บเงินเท่าที่ตัวเองไหว เก็บแล้วสบายใจไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องหักโหม ไม่ต้องเร่งรีบ อาจจะกระจายไปตามช่องทางการออมต่าง ๆ เช่น ฝากประจำเดือนละ 2-3 พัน, ลงทุนในกองทุนต่าง ๆ, ซื้อประกันชีวิต ฯลฯ ตามแต่ที่เราสะดวกใจดีกว่า อย่ากดดันตัวเองมากเกินไป ไม่งั้นเป้าหมายนี้อาจจะล่มเอาง่าย ๆ ได้ค่ะ
อีกเรื่องหนึ่งทางการเงินที่ต้องตั้งเป้าก็คือ จัดการภาระหนี้ อาจจะเป็นการกำหนดเส้นตายว่าหนี้บัตรเครดิตก้อนนี้ต้องทยอยจ่ายให้หมดภายใน 6 เดือน หรือจะไม่รูดบัตรฟุ่มเฟือยในสิ่งที่ไม่จำเป็น ฯลฯ เป็นการสร้างวินัยทางการเงินให้ตัวเองเสียใหม่ค่ะ แล้วเราจะกลายเป็นคนมีแบบแผนการใช้เงินในอนาคตแน่นอน
เพิ่มศักยภาพใหม่
ชีวิจคือการเรียนรู้ไม่สิ้นสุดใช่ไหมคะ ลองวางเป้าหมายที่จะทำอะไรที่ไม่เคยทำดูบ้าง เช่น เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อาจจะเป็นความตั้งใจว่าภายในปีนี้จะเรียนขับรถยนต์ให้ได้, ตั้งใจอยากเรียนภาษาอังกฤษให้ดีขึ้น, เสริมสร้างทักษะภาษาที่สามเพื่อเป็นประโยชน์ในอนาคต หรือลองทำกิจกรรมใหม่ ๆ ในเวลาว่าง เช่น ไปเป็นจิตอาสาช่วยเหลือคนยากไร้, ลงเวิร์คช็อปทำกิจกรรมที่สนใจร่วมกับคนอื่น สิ่งเหล่านี้จะช่วยเพิ่มทักษะใหม่ ๆ ให้เราเอง แถมยังสร้างความรู้สึกมีคุณค่า ซึ่งนั่นเป็นการสร้างกำลังใจทางอ้อมให้ตัวเองอีกด้วยค่ะ
ให้อดีตสร้างอนาคต
เป้าหมายชีวิตในวินาทีข้างหน้าอาจเกิดจากบทเรียนในวินาทีที่แล้วก็ได้นะคะ ที่ผ่านมาหากชีวิตผิดพลาดไป ไม่ว่าจะทำงานพลาด เลือกทางเดินผิด ใช้ชีวิตไม่ถูกต้อง ไม่เป็นไรค่ะ หลังจากนี้ต้องหยิบมาเป็นบทเรียน ไม่ให้ล้มเหมือนที่เคยเป็น นำจุดนี้มาพัฒนาตัวเองให้ดีมากขึ้น เพื่อเป็น ‘เราในเวอร์ชันที่ดีกว่า’ แบบที่ใครเขาพูดกันนั่นแหละ หรือบางคนอาจจะเคยตั้งเป้าหมายไว้ก่อนหน้านี้แล้ว แต่ยังทำไม่สำเร็จ ลองทบทวนแล้วปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับช่วงชีวิตปัจจุบันแล้วลองทำใหม่อีกสักตั้งก็ได้นะคะ รับรองว่าเวิร์ค
ทั้งนี้ทั้งนั้นการจะตั้งเป้าหมายไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ควรทำบนพื้นฐาน 3 ข้อเหล่านี้ เพื่อเราจะได้ไปถึงจุดหมายอย่างไม่เจ็บตัวมากนักค่ะ
1.กำหนดระยะเวลาให้แน่นอน
หากตั้งเป้าหมายแต่ไม่มีขอบเขตของเวลา ก็จะไม่มีแรงกระตุ้นให้เราตั้งใจลงมือทำ หากเดดไลน์ทำให้เราตั้งใจทำงาน อายุของเป้าหมายก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน ควรกำหนดเวลาให้เหมาะสม ไม่เร่งรัดหรืออะลุ้มอล่วยจนเกินไป แล้วค่อย ๆ ทำไปทีละขั้นตอนภายในกรอบเวลาที่วางไว้จนกว่าจะสำเร็จ
2.อยู่บนความจริง
อย่าเวอร์เกินไป! เป้าหมายที่ตั้งต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงที่เราสามารถไปถึงได้โดยไม่ลำบากนัก ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายเรื่องอะไรก็ตาม บางคนดั้นด้นอยากเก็บเงินล้านให้ได้ในเวลาอันน้อยนิด กลายเป็นว่าเหนื่อย ท้อ เพราะวางเป้าหมายไกลตัวไปหน่อย หยุดดีกว่าค่ะ พยายามปรับแผนให้เข้ากับไลฟ์สไตล์และวิถีชีวิตของเราในปัจจุบันดีกว่า ไม่ต้องไปแข่งกับใคร เดินไปสู่เป้าหมายให้สบาย ๆ ในแบบของเราเองค่ะ
3.ควรเป็นแรงบันดาลใจ
เป้าหมายที่ดีต้องเสริมสร้างความรู้สึกอยากลงมือทำอยู่เสมอ ไม่ใช่ว่าทำได้วันเดียวก็ท้อแล้ว แบบนั้นคงมองไม่เห็นความสำเร็จค่ะ หากมีความท้าทาย ดึงดูดให้ลงมือทำอยู่เรื่อย ๆ ก็จะยิ่งเป็นผลดีกว่า พยายามนึกถึงปลายทางความสำเร็จที่วางไว้จะได้เป็นแรงใจ หากไปถึงวันนั้นเมื่อไหร่คงสุขใจมากมายทีเดียว เพราะผลลัพธ์ที่ได้มันสมความตั้งใจ!
และที่สำคัญคือ ต้องไม่เปรียบเทียบเป้าหมายของเรากับเป้าหมายของคนอื่นอย่างเด็ดขาด เพราะชีวิตของแต่ละคนมีปัจจัยที่แตกต่างกันไป แต่จงจำไว้ว่า 'ความสำเร็จเล็ก ๆ มักนำไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เสมอ' เพราะฉะนั้นเริ่มต้นตั้งเป้าหมายซะตั้งแต่วันนี้เลยดีกว่า แล้วค่อยเป็นค่อยไปทีละขั้น รับรองว่าการรอคอยช่างคุ้มค่าอย่างแน่นอนค่ะ
.
