Highlight
สแกนให้เห็นชัดๆ กับ 5 หุ้นตัวท๊อป ยืนเหนือตลาดในยุคโควิด-19
เช็คผลงานกลุ่มหุ้น SET50 ในช่วงครึ่งปีแรก 2563 ที่เจอมรสุมโควิด-19 กันถ้วนหน้า
หุ้น 5 ตัว ที่ปรับตัวสวนภาวะตลาดหุ้นติดลบ (เทียบข้อมูลราคาหุ้น ณ วันที่ 30 ธ.ค. 62-30 มิ.ย.63)
5 หุ้น ตัวท๊อป คือ
1. CBG
บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG ราคาหุ้นครึ่งแรกปี 2563 ปรับตัวขึ้น 23.81%
จากการขยายตลาดส่งออกในกลุ่ม CLMV, การออกสินค้าใหม่ C+Lock ที่ได้รับการตอบรับดี และการขยายกำลังการบรรจุขวด
▪️แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 107 บ. โดย บล.ทิสโก้
2. CPF
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ราคาหุ้นครึ่งแรกปี 2563 ปรับตัวขึ้น 15.45%
ทาง เครดิต สวิส คาดว่าราคาเนื้อสุกรจะคงในระดับที่ดีตลอดช่วงครึ่งปีหลังนี้ โดยอุปทานที่ตึงตัวในต่างประเทศจากไวรัสโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร โดยเฉพาะเวียดนามที่มีอัตราการบริโภคเนื้อสุกรมากที่สุดในภูมิภาค จะยิ่งส่งผลดีต่อราคาเนื้อสุกรในไทย
▪️ คำแนะนำ “Outperform” ปรับราคาเป้าหมายขึ้นมาที่ระดับ 40 บาท จากเดิม 37.50 บาท โดย บล.เครดิต สวิส
3. GULF
บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ราคาหุ้นครึ่งแรกปี 2563 ปรับตัวขึ้น 13.70%
Catalyst สั้นๆ อยู่ที่การร่วมเข้าประมูลรถไฟฟ้า MRT สายมีส้มตะวันตกกับกลุ่ม BTS
▪️ แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเป้าพื้นฐาน 41 บาท โดยประเมินแนวรับที่ 34.5 บาท / แนวต้าน 37 – 39 บาท (Stop loss 32 บาท) โดย
4. GLOBAL
บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL ราคาหุ้นครึ่งแรกปี 2563 ปรับตัวขึ้น 2.47%
กระแสการลงทุนภาครัฐจะช่วยหนุนผลประกอบของ GLOBAL ใน 2H63
▪️ ปรับเพิ่มคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ซื้อ”ขยับไปใช้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2564 ที่ 19.0 บาท จากเดิมที่ 14.60 บาท โดย บล.เคจีไอ
5. BGRIM
บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ราคาหุ้นครึ่งแรกปี 2563 ปรับตัวขึ้น 1.90%
ด้วยแผนงานโดดเด่นและผลงานสดใสต่อเนื่อง ในปีนี้บริษัทจะรับรู้รายได้จากการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) เข้ามาเต็มปีของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในประเทศเวียดนาม กำลังการผลิต 677 เมกะวัตต์ ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้รายได้และกำไรปีนี้ทำได้ใกล้เคียงกับปีก่อน หรือเติบโตได้เล็กน้อย จากปีก่อนที่มีรายได้ 4.4 หมื่นล้านบาท
พร้อมกันนี้บริษัทฯ ได้วางงบลงทุน 5 ปี (63-67) ไว้ที่ 7-7.5 หมื่นล้านบาท เพื่อรองรับการลงทุนพัฒนาโครงการในมือ และการเข้าซื้อกิจการ (M&A) โดยหลักยังคงมองโอกาสเข้าลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานลม ประเทศเกาหลีใต้ กำลังการผลิตราว 200 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในปีนี้ รวมถึงยังมองโอกาสของโรงไฟฟ้าพลังงานลม ก๊าซธรรมชาติ และก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ในประเทศเวียดนาม
บริษัทก็อยู่ระหว่างการเจรจาเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้า SPP จำนวน 2-3 แห่ง กำลังการผลิตรวม 300 เมกะวัตต์
ภาพการลงทุนนับจากนี้
บล.โนมูระ พัฒนสิน มองภาพการลงทุนในไตรมาส 3 มีความเสี่ยง 3 ด้าน ที่ตลาดจะต้องรอตรวจสอบ คือ
1. ความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดรอบสอง
2. สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน
3. ลักษณะของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและกำไรตลาด