โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

5 หุ้น แข็งแรงตัววิ่งฝ่าโควิด-19

ทันข่าว Today

อัพเดต 17 ก.ค. 2563 เวลา 00.00 น. • เผยแพร่ 17 ก.ค. 2563 เวลา 00.00 น. • ทันข่าว Channel

Highlight

สแกนให้เห็นชัดๆ กับ 5 หุ้นตัวท๊อป ยืนเหนือตลาดในยุคโควิด-19
เช็คผลงานกลุ่มหุ้น SET50  ในช่วงครึ่งปีแรก 2563 ที่เจอมรสุมโควิด-19 กันถ้วนหน้า
หุ้น 5 ตัว ที่ปรับตัวสวนภาวะตลาดหุ้นติดลบ (เทียบข้อมูลราคาหุ้น ณ วันที่ 30 ธ.ค. 62-30 มิ.ย.63)
5 หุ้น ตัวท๊อป คือ

1. CBG
บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG ราคาหุ้นครึ่งแรกปี 2563 ปรับตัวขึ้น 23.81%

จากการขยายตลาดส่งออกในกลุ่ม CLMV, การออกสินค้าใหม่ C+Lock ที่ได้รับการตอบรับดี และการขยายกำลังการบรรจุขวด
▪️แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 107 บ. โดย บล.ทิสโก้
2. CPF

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ราคาหุ้นครึ่งแรกปี 2563 ปรับตัวขึ้น 15.45%

ทาง เครดิต สวิส คาดว่าราคาเนื้อสุกรจะคงในระดับที่ดีตลอดช่วงครึ่งปีหลังนี้ โดยอุปทานที่ตึงตัวในต่างประเทศจากไวรัสโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร โดยเฉพาะเวียดนามที่มีอัตราการบริโภคเนื้อสุกรมากที่สุดในภูมิภาค จะยิ่งส่งผลดีต่อราคาเนื้อสุกรในไทย
▪️ คำแนะนำ “Outperform” ปรับราคาเป้าหมายขึ้นมาที่ระดับ 40 บาท จากเดิม 37.50 บาท โดย บล.เครดิต สวิส
3. GULF

บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ราคาหุ้นครึ่งแรกปี 2563 ปรับตัวขึ้น 13.70%

Catalyst สั้นๆ อยู่ที่การร่วมเข้าประมูลรถไฟฟ้า MRT สายมีส้มตะวันตกกับกลุ่ม BTS
▪️ แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเป้าพื้นฐาน  41 บาท โดยประเมินแนวรับที่ 34.5 บาท / แนวต้าน 37 – 39 บาท (Stop loss 32 บาท) โดย
4. GLOBAL

บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL ราคาหุ้นครึ่งแรกปี 2563 ปรับตัวขึ้น 2.47%

กระแสการลงทุนภาครัฐจะช่วยหนุนผลประกอบของ GLOBAL ใน 2H63
▪️ ปรับเพิ่มคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ซื้อ”ขยับไปใช้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2564 ที่ 19.0 บาท จากเดิมที่ 14.60 บาท โดย บล.เคจีไอ
5. BGRIM

บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ราคาหุ้นครึ่งแรกปี 2563 ปรับตัวขึ้น 1.90%

ด้วยแผนงานโดดเด่นและผลงานสดใสต่อเนื่อง ในปีนี้บริษัทจะรับรู้รายได้จากการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) เข้ามาเต็มปีของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในประเทศเวียดนาม กำลังการผลิต 677 เมกะวัตต์ ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้รายได้และกำไรปีนี้ทำได้ใกล้เคียงกับปีก่อน หรือเติบโตได้เล็กน้อย จากปีก่อนที่มีรายได้ 4.4 หมื่นล้านบาท
พร้อมกันนี้บริษัทฯ ได้วางงบลงทุน 5 ปี (63-67) ไว้ที่ 7-7.5 หมื่นล้านบาท เพื่อรองรับการลงทุนพัฒนาโครงการในมือ และการเข้าซื้อกิจการ (M&A) โดยหลักยังคงมองโอกาสเข้าลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานลม ประเทศเกาหลีใต้ กำลังการผลิตราว 200 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในปีนี้ รวมถึงยังมองโอกาสของโรงไฟฟ้าพลังงานลม ก๊าซธรรมชาติ และก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ในประเทศเวียดนาม
บริษัทก็อยู่ระหว่างการเจรจาเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้า SPP จำนวน 2-3 แห่ง กำลังการผลิตรวม 300 เมกะวัตต์
ภาพการลงทุนนับจากนี้
บล.โนมูระ พัฒนสิน มองภาพการลงทุนในไตรมาส 3  มีความเสี่ยง 3 ด้าน ที่ตลาดจะต้องรอตรวจสอบ คือ

1. ความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดรอบสอง
2. สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน
3. ลักษณะของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและกำไรตลาด

ซึ่งน่าจะทำให้ตลาดอยู่ในช่วงพักตัว 1-3 เดือน ในกรอบแนวรับ 1286/1210 จุด (กรณีแย่ 1100 จุด) และแนวต้าน 1400/1420จุด คงคำแนะนำถือหุ้นน้อยราว 20-25% ของพอร์ตลงทุน หลังแนะนำให้ลดมาช่วงดัชนีแตะ 1420-1450 จุด และถือสินทรัพย์ปลอดภัยราว 80 -75%
การลงทุนในครึ่งหลังของปีนี้ ทาง บล.ทิสโก้ ตั้งข้อสังเกตว่า ประเด็นที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในหุ้น คือ แนวโน้มการลงทุนในวิถีปกติใหม่ (New Normal) ซึ่งหลังจากนี้ผู้ลงทุนอาจจะต้องยอมรับราคาหุ้นที่แพงขึ้น ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น และคาดหวังผลตอบแทนที่ลดลง เพราะคาดว่าธนาคารกลางทั่วโลกน่าจะใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย ผ่านการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้อยู่ในระดับต่ำมาก และอัดฉีดสภาพคล่องผ่านการผ่อนคลายการเงินเชิงปริมาณ (QE) ส่งผลให้สินทรัพย์ลงทุนหลักของโลกแพงขึ้นทั้งตลาดตราสารหนี้ และตลาดหุ้น
0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0