อันดับที่ 1 ตกเป็นของ “เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค” กองหลังชาวเนเธอร์แลนด์ ซึ่งคล็อปป์ตัดสินใจซื้อตัวมาจาก เซาธ์แฮมป์ตัน เมื่อปลายปี 2017 ด้วยราคา 75 ล้านปอนด์ (ราว 3.2 พันล้านบาท) นับว่าเป็นราคาที่แพงที่สุดที่คล็อปป์จ่ายในการซื้อตัวผู้เล่น แต่ก็นับว่าคุ้มค่า เพราะฝีเท้าของ ฟาน ไดจ์ค นั้นน่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง ด้วยร่างสมรรถภาพทางกายที่แข็งแรงและการเล่นแบบใจเย็น ทำให้กองหลังคนนี้เป็นตัวหลักที่คล็อปป์คาดหวังว่าจะมาเสริมในแนวรับของทัพหงส์แดงให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก
ส่วนอันดับที่ 2 ก็คือ “อลิสซอน เบ็คเกอร์” ผู้รักษาประตูสัญชาติบราซิล ที่ย้ายมาจาก โรมา ด้วยค่าตัว 65 ล้านปอนด์ (72.5 ล้านยูโร) ผู้ที่ทำผลงานล่าสุดในศึกฟุตบอลโลก 2018 ในฐานะผู้รักษาประตูทีมชาติบราซิล จนไปเข้าตาคล็อปป์ในที่สุด และได้โอกาสมาเฝ้าเสาให้กับหงส์แดง เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นที่ถูกคล็อปป์นำตัวมาเพื่อเสริมในเกมรับ ต้องมาลุ้นกันต่อไปว่า ผลงานของอลิสสันจะคุ้มค่ากับเงินที่คล็อปป์จ่ายไปหรือไม่
สำหรับผู้ที่ตกมาอยู่อันดับที่ 3 ก็คือ “นาบี เกอิต้า” กองกลางขาโหดจากทีมชาติกินี ที่ถูกดึงตัวมาเติมเกมให้กับลิเวอร์พูล โดยซื้อตัวมาจาก อาร์บี ไลป์ซิก เป้นเงิน 52.75 ล้านปอนด์ (ราว 2.3 พันล้านบาท) ขึ้นชื่อเรื่องการเป็นผู้เล่นที่มีพลังเหลือล้นและทักษะการครองบอลที่ยอดเยี่ยม อย่างที่แฟนฟุตบอลหลายคนยังบอกเลยว่าเป็นสิ่งที่กองกลางยุคนี้หลายคนขาดไป เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่แฟนหงส์หลายคนน่าจะไม่ต้องเป็นห่วงเลยว่าจะสามารถเสริมทัพให้กับลิเวอร์พูลได้ดีหรือไม่
ในอันดับที่ 4 คือ “ฟาบินโญ่” กองกลางสัญชาติบราซิลที่ย้ายมาจาก โมนาโก พร้อมค่าเหนื่อย 39.3 ล้านปอนด์ (ราว 1.7 พันล้านบาท) แม้จะเป็นกองกลาง แต่คล็อปป์ยืนยันว่าฟาบินโญ่มีความสามารถมากพอที่จะคุมได้ทั้งแบ็กขวาและเซนเตอร์แบ็ก ด้วยประสบการณ์ตอนอยู่กับโมนาโก โดยเฉพาะช่วงปี 2016-17 ที่โมนาโกได้แชมป์ เขาลงในเกมลีกไป 37 นัด และไม่ใช่แค่ลงเล่นเยอะเท่านั้น แต่เขายังยิงประตูเยอะไปมากทั้งที่เล่นมิดฟิลด์ตัวรับ สถิติ 5 ปี ในลีกเอิง เขายิงไป 23 ลูก เฉลี่ยปีละเกือบ 5 ลูก เรียกได้ว่าคล็อปป์ซื้อโล่และหอกไปเสริมทัพลิเวอร์พูลแบบ 2 in 1 เลยทีเดียว
และในอันดับที่ 5 คือซุป’ตาร์ขาโหดจากทีมชาติอียิปต์อย่าง “โมฮัมเหม็ด ซาลาห์” กองหน้าที่ถูกซื้อตัวมาจาก โรมา ด้วยราคา 36.9 ล้านปอนด์ (ราว 1.6 พันล้านบาท) เป็นอีกหนึ่งกองหน้าที่นายใหญ่หงส์แดงากความคาดหวังไว้สูงลิบ ผลงานในศึกพรีเมียร์ลีกครั้งล่าสุดของซาลาห์เอง ก็ลงไป 49 นัด ยิงไปถึง 34 ประตู และแอสซิสต์อีก 13 ครั้ง เรียกได้ว่าเป็นตัวกองหน้าครบเครื่องที่คล็อปป์ดึงตัวมาเพื่อเสริมแนวรุกของหงส์แดงให้แกร่งยิ่งขึ้นไปอีก
ต้องมารอติดตามในพรีเมียร์ลีกครั้งต่อไปว่าบรรดานักเตะที่ซื้อมาใหม่รวมกับตัวท็อปที่เคยซื้อมานั้นจะสามารถนำพาคล็อปป์และทีมไปสู่ตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกได้หรือไม่ หลังจากเมื่อครั้งที่ผ่านมาได้ไปเพียงตำแหน่งรองแชมป์เท่านั้น หากคว้าถ้วยมาได้ก็จะสมกับที่ซื้อผู้เล่น Top 5 เหล่านี้มาด้วยราคากว่า 270 ล้านปอนด์ (1.1 หมื่นล้านบาท) แต่หากไม่ คล็อปป์คงต้องคิดหนักแล้วว่าจะเทขายใครและซื้อใครมาแทนดี