โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

5 ทริค "อ่านหนังสือภาษาอังกฤษ" ให้คล่องขึ้น แม้ไม่เก่งภาษาอังกฤษ!

Beauty Hunter

อัพเดต 15 ต.ค. 2562 เวลา 13.12 น. • เผยแพร่ 15 ต.ค. 2562 เวลา 13.12 น.
5 ทริค
5 ทริค “อ่านหนังสือภาษาอังกฤษ” ให้คล่องขึ้น แม้ไม่เก่งภาษาอังกฤษ!

“อ่านหนังสือภาษาอังกฤษ”

สาว ๆ หลายคนอยากฝึกฝนภาษาอังกฤษให้ตัวเองใจจะขาด นอกเหนือจากการดูหนังฟังเพลง สิ่งที่ฝึกง่ายที่สุดแบบไม่เสียเงินก็คือการ “อ่านหนังสือภาษาอังกฤษ” แต่หนังสือภาษาอังกฤษดันเหมือนยาขม เพราะเรากลัวว่ารู้ศัพท์น้อยไปจะอ่านไม่ได้? อ่านไปต้องเปิดพจนานุกรมไปไหม? หนังสือแบบไหนถึงจะเหมาะกับเรา? และนี่คือ5 ทริค“อ่านหนังสือภาษาอังกฤษ”ให้คล่องขึ้น แม้ไม่เก่งภาษาอังกฤษ! รับรองอ่านจบเล่มแบบชิล ๆ

เลือกเล่มที่เหมาะกับความรู้เรา

“อ่านหนังสือภาษาอังกฤษ” ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ไม่ได้แปลว่าเราจะอ่านเล่มไหนก็ได้ เราควรเลือกเล่มที่เหมาะกับระดับคลังคำศัพท์ภาษาอังกฤษในหัวเรา ซึ่งต่อให้เรารู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษไม่มาก แต่ก็ย่อมมีเล่มที่เหมาะกับเราอยู่ดี เช่น วรรณกรรมเยาวชน ที่ภาษาไม่ซับซ้อนเกินไป ในหนึ่งย่อหน้า ถ้าเราลองเปิดมาแล้วพอรู้ศัพท์เกิน10 คำก็ถือว่าใช้ได้ เริ่มลงมืออ่านเล่มนั้นได้ชิล ๆ ในขณะที่บางเล่มปกสวย ชื่อหรูหราถูกใจ แต่ถ้าเปิดไปแล้วศัพท์ส่วนใหญ่เราไม่รู้เลย ก็อาจต้องรอไว้ก่อน สักวันเราจะอ่านมันได้ เมื่อฝึกมากพอ แค่วันนี้ยังไม่ใช่วันของเรา

เล่มบางสร้างกำลังใจได้ดีกว่า

การเริ่มต้น“อ่านหนังสือภาษาอังกฤษ” สิ่งที่สำคัญอีกอย่างคือกำลังใจ เราต้องเชื่อว่าเราทำได้ เมื่อเราอ่านจบหนึ่งเล่ม สองเล่ม สามเล่ม ทำให้เรามีแรงฮึดและเชื่อมั่นในตนเอง ดังนั้นนอกจากเลือก“อ่านหนังสือภาษาอังกฤษ”ที่เหมาะกับระดับคำศัพท์ที่เรามี ซิสควรเริ่มจากเล่มบาง ๆ ไว้ก่อน ไม่ใช่เล่มแรกก็ปาไปห้าร้อยหน้า ใจเราจะท้อ แต่ถ้าเล่มละร้อยกว่าหน้า แต่จบไปสองสามเล่ม เราจะมีแรงฮึดมากขึ้น แถมไม่เบื่อหรือยอมแพ้ง่ายด้วย

อ่านหนังสือภาษาอังกฤษ
อ่านหนังสือภาษาอังกฤษ

หัวใจสำคัญคือต้องอ่านสนุก

ทริค“อ่านหนังสือภาษาอังกฤษ” ข้อต่อไปคือนอกจากเล่มบางและคำศัพท์เหมาะกับความรู้เราคือเราต้องอ่านสนุก! เราเปิดอ่านมา ต้องไม่ทำให้เรารู้สึกว่าเป็นหน้าที่อันฝืนใจและน่าเบื่อ ให้เลือกหนังสือที่เรามั่นใจว่าเราอยากเปิดอ่านหน้าต่อไป อยากรู้ ไม่จำกัดประเภทเพราะแต่ละคนมีรสนิยมต่างกันไป แค่เลือกแบบที่ตัวเราสนใจและสนุกที่จะอ่านมันต่อไปก็พอ

ไม่ต้องเข้าใจทุกคำ แต่ต้องเข้าใจเนื้อเรื่อง

ปัญหาสำคัญของการ“อ่านหนังสือภาษาอังกฤษ” คือคนส่วนใหญ่คิดว่าเราต้องรู้ศัพท์ทุกคำ เข้าใจเนียนกริบทุกประโยค แต่จริง ๆ เราไม่จำเป็นต้องเข้าใจทุกคำเหมือนที่เราอ่านภาษาไทยที่เป็นภาษาพ่อภาษาแม่ ในการเริ่มต้น เราอ่านให้เข้าใจประโยครวม ๆ หรือย่อหน้ารวม ๆ ไม่ตกหล่นก็เพียงพอแล้ว การอ่านบ่อย ๆ หรือเจอศัพท์บางคำที่ไม่รู้ซ้ำ ๆ จะฝึกฝนให้เราเก่งขึ้นและเข้าใจละเอียดขึ้นไปเอง แต่อย่าเริ่มกังวลว่าต้องเข้าใจทุกคำตั้งแต่ขั้นเริ่มต้น

เปิดพจนานุกรมเฉพาะคำที่เจอบ่อยหรือทำให้อ่านต่อไม่ได้

อีกปัญหาของ“อ่านหนังสือภาษาอังกฤษ” คือสาว ๆ มักถามว่าเราควรเปิดพจนานุกรมทุกคำที่เราไม่รู้เลยมั้ย? ควรจดหรือเปล่า? อยากจะบอกว่าโนค่ะ เราควรอ่านให้ต่อเนื่อง เพราะถ้าเรามัวเปิดหาทุกคำที่เราไม่รู้ เนื้อเรื่องจะไม่ต่อเนื่อง เราจะอ่านไม่สนุก จากการ“อ่านหนังสือภาษาอังกฤษ” จะกลายเป็นการท่องศัพท์ไป

ดังนั้นคำไหนที่ไม่รู้ แต่ไม่ได้ทำให้เราติดขัด เรายังเข้าใจเนื้อหาโดยรวม เราอ่านผ่านไปเลยค่ะซิส แต่ถ้าเจอคำนี้รอบที่สี่ที่ห้า และเราเองก็เดาได้แล้วว่าคำนี้น่าจะหมายถึงอะไร เราแค่เปิดหาเพื่อย้ำความมั่นใจ วิธีนี้จะทำให้เราจำศัพท์นี้ได้แม่นขึ้น หรือเปิดหาคำศัพท์นี้ก็ต่อเมื่อซิสไปต่อไม่ได้ ถ้าไม่เปิดจะอ่านต่อไม่ได้เท่านั้น

“อ่านหนังสือภาษาอังกฤษ”ไม่ได้ยากเกินไป ไม่ว่าคุณจะเก่งหรือไม่เก่งภาษาอังกฤษก็อ่านได้ ฝึกฝนได้ และยิ่งอ่านบ่อย ๆ เราจะเก่งขึ้น ชินกับภาษาขึ้นโดยอัตโนมัติ ดังนั้นอย่ารอให้อ่านรู้เรื่องแล้วลงมืออ่าน แต่คิดซะว่าการ“อ่านหนังสือภาษาอังกฤษ” คือบันไดหนึ่งที่ทำให้เราเก่งขึ้นต่างหากค่ะคุณขา

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0