โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

กีฬา

5 ข้อโคตรดีหลังดู “ทีมชาติไทย” ชนะ “ยูเออี”

ขอบสนาม

อัพเดต 15 ก.พ. 2561 เวลา 03.21 น. • เผยแพร่ 16 ต.ค. 2562 เวลา 03.53 น. • ขอบสนาม
5 ข้อโคตรดีหลังดู “ทีมชาติไทย” ชนะ “ยูเออี”

ก่อนเกมหลายคนคงอยากเห็นสกอร์บอล ทีมชาติไทยกับ ทีมชาติยูเออี ที่จบลงแบบนี้ แต่เชื่อว่าก็มีอีกไม่น้อยที่คิดว่ามันคงเป็นไปได้ยาก

เพราะทั้งสถิติก่อนเกม ทั้งผลงานในช่วงหลังที่เจอกันเราไม่เคยเอาชนะทีมตัวแทนจากตะวันออกกลางทีมนี้ได้เลย

*แต่สุดท้ายเมื่อวานนี้ ทีมชาติไทย ปิดเกมด้วยการเปิดบ้านชนะ ทีมชาติยูเออี ไปได้ 2 - 1 *

วันนี้ "ทีมงานขอบสนาม" ขอพามาดู 5 ข้อที่โคตรดีของ "ช้างศึก" ที่งัดอาวุธเด็ดออกมาล้มทีมจากชาติอาหรับได้อีกครั้ง …

 

1. ไม่มี "ชนาธิป" แต่ยังเล่นได้ดี
ก่อนเกมนี้ทุกคนต่างรู้ดีว่านัดนี้จะไม่มี "ชนาธิป สรงกระสินธ์" เพราะมีปัญหาอาการบาดเจ็บ ทำให้หลายคนกังวลว่า "เกมรุก" ของเราจะตกลงไปหรือเปล่า แต่สุดท้ายพอได้เห็นฟอร์มกับ ยูเออี ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "ไม่เลย" เพราะเกมเมื่อวานนี้เราได้ 3 ตัวรุกที่เล่นทดแทนค่อนข้างลงตัวทั้ง สุภโชค สารชาติ, เอกนิษฐ์ ปัญญา และ ศศลักษณ์ ไหประโคน ทำให้การขาด "ชนาคุง" แทบไม่ส่งผลอะไรเลย  และเกมนี้เรายังได้ "ธีรศิลป์ แดงดา" เพิ่มเข้ามาช่วยสอดประสานน้องๆ อีกคน ทำให้การขาดเจไม่ได้ขาดใจเหมือนที่กลัวๆ กัน ซึ่งต้องชมการเลือกตัวของ นิชิโนะซัง กุนซือใหญ่ทีมชาติที่เลือกได้อย่างถูกต้องเป็นที่สุด

 

2. ประตูแรกของ "เอกนิษฐ์" กับทีมชาติชุดใหญ่
สำหรับนัดนี้คือการลงสนามนัดที่ 3 ของ เอกนิษฐ์ ปัญญา ให้กับ ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ และประตูที่ยิงให้ทีมขึ้นนำ ยูเออี 2-1 และเป็นประตูชัยในเกมนี้คือลูกแรกในนามทีมชาติชุดใหญ่ของหนุ่มน้อยวัยย่าง 20 ปีผู้นี้ แม้ว่าเกมนี้ต้องเล่นแบบไร้เงา ชนาธิป สรงกระสินธ์ ในแดนกลาง แต่ เอกนิษฐ์ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาดีพอและพอดีกับการเล่นให้กับ ทีมชาติไทย ในเกมสำคัญๆ ที่ไม่มีรุ่นพี่คอยแบกทีมแล้ว และที่น่าสนใจคือนัดนี้ เอกนิษฐ์ เล่นแบบที่ร่างกายยังไม่ฟิต 100% ด้วยซ้ำ ถ้า โค้ชนิชิโนะซัง ไม่บอกก็คงไม่มีใครรู้ เพราะผลงานการลากเลื้อย การปั้นเกมรุกทางฝั่งซ้ายยอดเยี่ยมจริงๆ และจบเกมนี้ "บุ๊ค" คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมด้วยผลงาน ยิง 1 และ จ่าย 1 พร้อมกับ 3 แต้มของทีมชาติไทย 

 

3. ยูเออี ในวันที่ไม่เหมือนเดิม
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่หลายคนน่าจะมองคล้ายๆ กันคือ ทีมชาติยูเออี ไม่แกร่งทั่วแผ่นเหมือนเดิม เพราะด้วยสภาพทีมที่ไม่สมบูรณ์นัก โดยเฉพาะ โอมาร์ อับดุลราห์มาน มิดฟิลด์จอมทัพที่เมื่อวานนี้โชว์ฟอร์มไม่ออกเลยจริงๆ แถมยังโดนกองกลางของเราตัดออกจากการปั้นเกมไปเลย จนในที่สุดโดนเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่นาทีที่ 70 ทำให้เมื่อมองภาพรวมแล้วนอกจากเราจะทำผลงานได้ดีมากๆ ในเกมนี้ การที่ ยูเออี เล่นไม่ดีเหมือนเดิม คืออีกหนึ่งเหตุผลใหญ่ที่ทำให้เราชนะพวกเขาได้

 

4. นิชิโนะไม่ปรับทีมเพื่อนักเตะคนเดียว
ข้อนี้เป็นอีกหนึ่งจุดที่ชัดมากๆ ของ ทีมชาติไทย ที่ทำให้เรามีผลงานที่ดีในเกมเมื่อวานนี้ เพราะตั้งแต่ที่รู้ว่าไม่มี ชนาธิป สรงกระสินธ์ รวมไปถึงอาจจะไม่มี พรรษา เหมวิบูลย์ ด้วย หลายคนมองว่า นิชิโนะ อาจจะเลือกเปลี่ยนแผนการเล่นเพื่อเพลย์เซฟเกมนี้มากที่สุด เพราะเป็นเกมที่ยากที่สุด และเป็นนัดที่ควรจะมีแต้มมากกที่สุด แต่สุดท้ายกุนซือชาวญี่ปุ่นผู้นี้จัดการใช้แผนการเล่นแบบเดิมคือระบบ 4-2-3-1 ซึ่งหมายความว่าเขาไม่ได้มองว่า "ชนาธิป" หรือ "พรรษา" สำคัญแต่เพียงผู้เดียว แต่เขามองว่าเชฟของทีมสำคัญที่สุด และสุดท้ายมันก็ได้ผลเมื่อจบลงด้วยการที่เราใช้แผนเดิมเอาชนะ ยูเออี ไปได้ 2-1

 

5. ทีมชาติไทย เล่นได้อย่างไร้ที่ติ
ถ้าจะให้สรุปชัยชนะเหนือ ยูเออี เมื่อวานนี้คงต้องมาว่ากันที่ข้อสุดท้าย ที่ขอยกความดีความชอบให้กับนักเตะทีมชาติไทยทุกๆ คน เพราะเกมนี้เป็นเกมที่เล่นกันได้อย่างยอดเยี่ยม ช่วยกันวิ่ง ช่วยกันไล่ ตั้งแต่เริ่มเกม จนไปถึงช่วยกันสกัดสุดชีวิตในช่วงท้ายเกม ประกอบกับการที่ทุกคนเล่นแบบไม่มีข้อผิดพลาด ทำให้เราแทบไม่มีข้อเสียเลย เว้นเพียงแค่ประตูที่เสียให้กับ ยูเออี เท่านั้นแต่ด้วยความกระหายของนักเตะไทยที่แฟนบอลทุกคนน่าจะสัมผัสได้ว่ามันมากมายจริงๆ ทำให้เมื่อวานนี้เป็น 90 นาทีที่โคตรเพอร์เฟล็กซ์มากๆ ของ ทีมชาติไทย ในยุคของ อากิระ นิชิโนะ

 

 

บทความโดย : บอลกูรู (เจษดาพร ศรีสรง)

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0