วันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับ Hammond Creation Lab ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยพัฒนาพันธุกรรมไดโนเสาร์ คิดค้น ฟูมฟักจนออกมาเป็น Jurassic World แลปแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของสวนไดโนเสาร์ที่ตั้งอยู่บนเกาะ Isla Nublar (เกาะเดียวกับ Jurassic Park ภาค1) ก่อตั้งโดย จอห์น แฮมม่อนด์ มหาเศรษฐีผู้หลงใหลในไดโนเสาร์และเป็นเจ้าของอำพรรณที่ภายในบรรจุยุงที่ดูดเลือดไดโนเสาร์ไว้จนทำให้เขาทุ่มเงินสร้างโปรเจ็กต์แลปและ Jurassic Park ก่อนที่มันจะถูกทำลายลงและฟื้นฟูขึ้นมาใหม่เป็น Jurassic World
1.สกัดและคัดเลือกฟอสซิล
ในส่วนแรกจะพาชมจุดกำเนิดของการฟื้นคืนชีพอีกครั้งของไดโนเสาร์ ซึ่งมาจากฟอสซิลอำพรรณ ที่ภายในมียุงที่สูบเลือดของไดโนเสาร์ไว้เต็มตัว ทีมวิจัยจะทำการคัดเลือกฟอสสิลและใช้เข็มเจาะลงไปยังกึ่งกลางของอำพรรณอย่างทะนุถนอมที่สุดก่อนที่จะใช้เครื่องมือดึงเลือดที่อยู่ภายในตัวของยุงออกมาสกัดแยก DNA
2.การลำดับDNA วิเคราะห์ตัวอย่างพันธุกรรม
นักวิจัยจะนำเลือดที่ได้มาลำดับ DNA ซึ่งมีความสลับซับซ้อนเป็นอย่างมาก วิเคราะห์ตัวอย่างพันธุกรรมเพื่อให้ได้รูปแบบของจีโนม ออกมาจัดเรียงให้เป็นรหัสพันธุกรรมนับล้านรวมถึงศึกษาโครโมโซมของไดโนเสาร์ด้วย ซึ่งกระบวนการทั้งหมดจะผ่านกรรมวิธีและเครื่องมือที่ทันสมัยระดับโลก
3.ประมวลผล DNA
นักวิจัยจะทำการประมวลผลของ DNA และด้วยความเก่าแก่ของของ DNA ที่ได้มามีอายุเป็นล้านปีทำให้เกิดช่องว่างของรหัสพันธุกรรมที่ขาดหายไปบ้าง จึงจำเป็นที่จะต้องมาดูว่า DNA ดังกล่าวมีส่วนไหนขาดหายไปแล้วนำ DNA ของนกหรือจระเข้ ซึ่งเป็นสัตว์สายพันธุ์ใกล้เคียงกันมาเติมเต็ม
4.กระบวนการฟักไข่
DNA ที่ถูกพัฒนาจนสมบูรณ์จะถูกแทรกลงไปในไข่ไดโนเสาร์ที่เตรียมไว้ แล้วนำเข้าสู่เครื่องฟักไข่ที่จะทำให้มันโตเร็วกว่ากำหนด มีการตรวจสอบความสมบูรณ์และระยะการฟักตัวอยู่สม่ำเสมอ โดยเครื่องฟักไข่นี้จำลองมาจากรังของแม่ไดโนเสาร์ ซึ่งภายในศูนย์วิจัยจัดให้เหมือนเป็นสถานอนุบาลสัตว์
5.เนอสเซอรี่
ลูกไดโนเสาร์ที่ออกมาจากเปลือกไข่จะถูกย้ายไปยังสถานอนุบาลหรือเนอสเซอรี่ ซึ่งไม่ซ้ำกัน แบ่งไปตามสายพันธุ์ หลังจากนั้นจะมีการปล่อยให้มันอยู่ไดโนเสาร์ที่เป็นแม่เพื่อให้เรียนรู้พฤติกรรมธรรมชาติอย่างแท้จริงของไดโนเสาร์ ก่อนที่จะนำไปจัดแสดงในสวน Jurassic World เปิดให้คนภายนอกได้เข้ามาตื่นตาตื่นใจกับมัน
