‘เดอะ ไลอ้อน คิง’ แอนิเมชั่นเรื่องดังที่โลกรอคอยกำลังจะกลับมาสร้างความประทับใจอีกครั้งในฉบับ Live Action หลังออกฉายครั้งแรกเมื่อปี 1994 และกวาดรายได้ถล่มบ็อกซ์ออฟฟิศไปกว่า 968.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งที่มีทุนสร้างเพียง 45 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เท่านั้น
หนังเล่าเรื่องราวของ ‘มูฟาซ่า’ สิงโตเจ้าป่าแห่งผาทระนงถูกฆ่าตาย แต่ ‘สการ์’ น้องชายผู้ริษยากลับโยนความผิดให้ ‘ซิมบ้า’ ลูกชายของมูฟาซ่าแทน ทำให้ซิมบ้าต้องหนีอดีตอันแสนเจ็บปวด จนนำไปสู่การผจญภัยครั้งสำคัญที่ทำให้ทุกคนเรียนรู้เรื่องราวของการเติบโต มิตรภาพ และความรัก
สำหรับเดอะ ไลอ้อน คิง เวอร์ชั่น 2019 นี้ถูกนำมาสร้างใหม่ให้สมจริงมากที่สุด นี่คือผลงานเรื่องใหม่ล่าสุดจากวอลต์ดิสนีย์ พิกเจอส์ ที่แฟนๆ ทั่วโลกรอคอย และ 5 เหตุผลต่อไปนี้ คือสิ่งที่การันตีว่าทำไมคุณจึงไม่ควรพลาดชมหนังเรื่องนี้!
1.ผู้กำกับฯ มือหนึ่ง
‘จอน ฟาฟโรว์’ ผู้กำกับฯ และผู้อำนวยการสร้างชาวอเมริกัน เคยอยู่เบื้องหลังหนังดังหลายเรื่อง อีกทั้งยังปรากฏตัวในหนังจักรวาลมาร์เวล ในฐานะนักแสดงสมทบ เขามีผลงานโดดเด่นจากการกำกับฯ หนังเรื่อง The Jungle Book (2016) ที่เคยคว้ารางวัลออสการ์ สาขาเทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม มาครองได้สำเร็จ กลับมาครั้งนี้ฟาฟโรว์พร้อมส่งหนังเรื่องใหม่ ‘The Lion King’ ลงจอฟิล์ม สร้างความประทับใจให้แฟนๆ อีกครั้ง
2. เนื้อหาไฉไลกว่าเดิม
มีการเปิดเผยว่าหนังเวอร์ชั่นนี้ไม่ได้นำฉบับแอนิเมชั่นที่ออกฉายเมื่อปี 1994 มาปรับปรุงใหม่ทั้งหมด แต่มีการปรับเปลี่ยนเนื้อหาบางส่วนให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งต้องรอชมกันว่าจะมีความเปลี่ยนแปลงมาก-น้อยแค่ไหน แต่ทั้งนี้ฉากจำที่เป็นไอคอนิกของ The Lion King จะยังคงรักษาไว้ โดยเน้นเพิ่มฉากความสัมพันธ์ของคู่ซี้ ‘ทีโมน’ และ ‘พูมบ้า’ เพื่อเรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากผู้ชมมากขึ้นด้วย
3. ทีมนักพากย์ระดับตัวท็อป
สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับหนังเรื่องนี้คือทีมนักพากย์ ซึ่งล้วนได้รับเกียรติจากบรรดานักแสดงชื่อดัง ทำหน้าที่เนรมิตให้อาณาจักรสัตว์แห่งนี้มีชีวิตชีวา นำโดย ‘โดนัลด์ โกรเวอร์’ ให้เสียงซิมบ้า และตัวแม่ของวงการเพลงอย่าง ‘บียอนเซ่’ ให้เสียงนาลา พร้อมด้วยทัพนักพากย์อีกคับคั่ง นอกจากนี้เพลงประกอบ ‘Circle of Life’ ยังแต่งโดย Hans Zimmer หัวหอกคนสำคัญที่นำหนังฮอลลีวู้ดไปคว้าออสการ์มาแล้วหลายเรื่อง
4. ใช้เทคนิค CG ระดับเทพ
แน่นอนว่า The Lion King เวอร์ชั่น Live Action นั้นสร้างเสียงฮือฮาอย่างมากกับคลิปหนังตัวอย่างที่มีภาพสวย คมชัด สมจริง จนเกือบทำให้ลืมภาพแอนิเมชั่นแบบเดิมๆ โดยทีมงานนำเทคนิค CG ระดับเทพมาใช้เนรมิตภาพเคลื่อนไหวให้งดงาม ประณีต สร้างสัตว์ทุกตัวให้ออกมาเหมือนจริงมากที่สุด เก็บรายละเอียดทุกเส้นขน แถมยังขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในหนังที่ใช้ทุนสร้างมากที่สุดของดิสนีย์อีกด้วย
5. เต็มอิ่มด้วยความยาว 118 นาที
สำหรับแอนิเมชั่นฉบับเดิมมีความยาวประมาณ 89 นาที แต่สำหรับ The Lion King ฉบับที่เข้าฉายในปีนี้ เสิร์ฟผู้ชมแบบเต็มอิ่มจุใจ ด้วยความยาวหนัง 118 นาที หรือเกือบ 2 ชั่วโมง นั่นแสดงว่ามีการเพิ่มเนื้อหาและใส่รายละเอียดเพิ่มเติมไปอีกมากมาย เพื่อหวังมอบความสุขให้แฟนๆ ได้แฮปปี้ตลอดการชม งานนี้รับรองว่าฟินแบบไม่มีคำบรรยายแน่นอน!
The Lion King มีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 17 กรกฎาคมนี้
ขอบคุณคลิปจาก : Disney Thailand