ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
มีคนบอกว่า “การหาเงินล้านแรก” ยาก แต่ถ้าทำได้แล้ว ล้านต่อๆ ไปยากน้อยกว่าแน่ๆ แต่หลายคนไปไม่ถึงล้านแรก เพราะอะไร?
พึ่งบัตรเครดิตมากเกินไป
บัตรเครดิตมีประโยชน์สำหรับคนที่ใช้เป็น เพราะแสดงถึงเครดิตของคนและช่วยเป็นแหล่งเงินสำหรับการลงทุนก็ได้ แต่ถ้าใครรูดปรื๊ดบ่อยๆ กับสิ่งที่ไม่จำเป็นกับชีวิต จนติดหนี้บ่วงใหญ่ ต้องเสียดอกเบี้ยแพงๆ เงินที่หามาได้ก็แทบจะหมดไปกับการจ่ายหนี้ แล้วแบบนี้ คงต้องร้องเพลงรอแล้วรออีก กว่าจะได้เป็นเจ้าของเงินล้านแบบนานๆ
หาได้เท่าไหร่ใช้หมด
มีน้อยควรใช้น้อย แต่ถ้ามีมากก็ไม่จำเป็นต้องใช้มากหรือใช้หมดก็ได้ บางคนมีรายได้เยอะก็มีรายจ่ายเยอะเป็นเงาตามตัว ถ้าใช้เงินแบบนี้ มีเท่าไหร่ก็ไม่เหลือ ต่อให้ทำเงินล้านแรกได้ ก็ใช้หมดลงในเวลาอันรวดเร็ว อยากมีเงินล้านต้องหัดใช้ชีวิตแบบมหาเศรษฐีดู เช่น Warren Buffett นักลงทุนชื่อดัง ที่อยู่ในบ้านหลังเก่ามาหลายสิบปี และขับรถธรรมดาๆ เท่านั้น
ทำตามคนอื่นแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง
การมีเงินล้านแรกเป็นไปได้ แต่จะใช้เวลานานแค่ไหนขึ้นอยู่กับวิธีการและความสามารถเฉพาะบุคคล บางคนเลือกทำตามวิถีที่ทำให้คนอื่นรวยมาแล้ว แต่กลับเจ๊งไม่เป็นท่า ก็เพราะว่าปัจจัยแวดล้อมต่างกันและอาจไม่เหมาะกับธุรกิจที่ตัวเองจะทำก็ได้ เช่น ทำธุรกิจซักอบรีดแบบสมัครสมาชิก แต่เลียนแบบวิธี Steve Jobs สร้าง Apple ดังนั้น ถ้าอยากมีล้านแรกจากธุรกิจของตัวเอง ก็ควรเข้าใจเนื้องานและธุรกิจของตัวเองให้ถ่องแท้ หาทางรวยในแบบฉบับตัวเอง ดีกว่าไปลอกวิธีรวยจากคนอื่นมาเป๊ะๆ
ยึดติดกับความสมบูรณ์แบบ
อีกสิ่งที่ขัดขวางหลายคนไม่ให้ไปถึงฝันล้านแรกของคนทำธุรกิจคือ ยึดติดกับความสมบูรณ์แบบมากเกินไป เช่น คนทำธุรกิจที่ทุ่มเทเวลาทำให้สินค้าหรือบริการของตัวเองเพอร์เฟ็กต์ ก่อนปล่อยออกสู่ตลาด ซึ่งระหว่างนั้นคู่แข่งก็ตัดหน้าแย่งลูกค้าไปเสียแล้ว ดังนั้น อย่ารอให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ควรส่งสินค้าและบริการที่ดีระดับหนึ่งแล้วออกสู่ตลาดไปก่อน เพื่อทดลองตลาด และฟังฟีดแบกลูกค้า เพื่อนำมาปรับปรุงสำหรับรุ่นต่อๆ ไป
ผิดที่ผิดเวลา
ไม่ว่าหวังจะรวยจากการลงทุนหรือทำธุรกิจ คำว่า “ที่ไหน” และ “เมื่อไหร่” สำคัญจริงๆ เช่น อยากลงทุนในหุ้น แต่เลือกจังหวะผิด แทนที่จะกำไรกลับติดดอยเอาง่ายๆ แต่ถ้าอยู่ถูกที่ถูกเวลาก็เฮงได้เหมือนกัน เช่น Ryan Graves ที่ทวีตข้อความ “hire me” ไปหา Travis Kalanick เมื่อปี 2010 ก็กลายเป็นลูกจ้างคนแรกของ Uber รับตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการตลาดโลก ดังนั้น แทนที่จะนั่งฝันกลางวันก็ต้องพร้อมคว้าโอกาสที่เข้ามาเสมอ
มีเงิน “ล้านแรก” แล้วก็อย่าหลงดีใจ ควรหาวิธีต่อยอดต่อไปเรื่อยๆ แต่ก็ต้องไม่ลืมใช้ชีวิตให้มีความสุขด้วยนะ
