รู้หรือไม่?…อุตสาหกรรม “กองทุนไทย” ในปี20 ที่ผ่านมา ก็เจอพิษ COVID-19 ทำพิษเช่นกัน ในขณะที่เศรษฐกิจไทยหดตัว -6.1% นั้น กำไรเบ็ดเสร็จรวมสำหรับปีของอุตสาหกรรมกองทุนลดลง -7.84% มากกว่าเศรษฐกิจไทยโดยรวม
มีเพียงกลุ่ม “บลจ.ลูกโบรก” เท่านั้น ที่มีกำไรเพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมา โดยเพิ่มขึ้นถึง 23.44% สวนทางอุตสาหกรรมที่ติดลบ
ในขณะที่กลุ่ม “บลจ.ลูกแบงก์” กำไรลดลง -8.53% และ “บลจ.ต่างชาติ” กำไรลดลง -9.09% !!!
ตลาดนี้โอกาสเปิดกว้าง….แต่ก็ไม่ง่าย สะท้อนผ่านตัวเลขผลประกอบการของบลจ.ในระบบทั้ง 25 แห่งได้เป็นอย่างดี
วันนี้ ทีมงาน ‘Wealthythai’ มีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับผลประกอบการของบลจ.ในปี20 มาฝากกัน
“บลจ.กรุงไทย” แชมป์กำไรโตสุดกลุ่ม ‘บลจ.ลูกแบงก์’ เพิ่มขึ้น 7.03%…ด้าน “บลจ.กสิกรไทย” มีส่วนแบ่งกำไรสูงสุด 26.34%
สำหรับ “บลจ.ลูกแบงก์” มี 8 แห่ง มีกำไร (ขาดทุน) เบ็ดเสร็จรวมสำหรับปี20 รวมกัน 8,542.94 ล้านบาท คิดเป็น 79.26% ของทั้งอุตสาหกรรมเลยทีเดียว แต่ในภาพรวมแล้วกำไรในปี20 นั้นปรับตัวลดลง 8.53% จากสิ้นปี19 ในขณะที่อุตสาหกรรมลดลง 7.84% ถือว่ามีการปรับลงมากกว่าอุตสาหกรรม
โดยมีบลจ.เพียง 3 แห่ง คิดเป็น 37.5% จากทั้งหมด ที่มีกำไรเพิ่มขึ้น ในขณะที่อีก 5 แห่ง คิดเป็น 62.5% ปรับตัวลดลง โดยบลจ.ที่มีกำไรเติบโตมากสุดในกลุ่มนี้ ได้แก่
-“บลจ.กรุงไทย” มีกำไรเบ็ดเสร็จรวมสำหรับปี20 อยู่ที่ 622.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.03%
ด้านส่วนแบ่งกำไรนั้น พบว่า บลจ.ลูกแบงก์ที่มีกำไรสูงสุด 4 อันดับแรก มีกำไรเกินระดับ ‘พันล้านบาท’ ทุกแห่ง มีส่วนแบ่งกำไรรวมกันกว่า 65.71% ของทั้งอุตสาหกรรมเลยทีเดียว โดยบลจ.ที่มีส่วนแบ่งกำไรมากสุด ได้แก่
-“บลจ.กสิกรไทย” มีกำไรเบ็ดเสร็จรวมสำหรับปี20 อยู่ที่ 2,838.84 ล้านบาท มีส่วนแบ่ง 26.34%
“สำหรับ ‘บลจ.เอ็มเอฟซี’ ซึ่งเป็นบลจ.ที่มีภาครัฐถือหุ้นทั้งทางตรงและอ้อมมากสุดนั้น ในปีที่ผ่านมาทำผลงานได้ดีมาก โดยมีกำไรเบ็ดเสร็จรวมสำหรับปีเพิ่มขึ้น 46.05% และมีส่วนแบ่งกำไร 1.13%”
“บลจ.วี” แชมป์กลุ่ม ‘บลจ.ลูกโบรก’ โชว์กำไรโตสุด 195.56%…ในขณะที่ “บลจ.วรรณ” แชมป์ส่วนแบ่งกำไรสูงสุด 1.42%
ในกลุ่มของ “บลจ.ลูกโบรก” ถือเป็นตลาดที่ดูคึกคักและมีสีสันที่สุดกลุ่มหนึ่ง และเป็นกลุ่มเดียวที่มีกำไร (ขาดทุน) เบ็ดเสร็จรวมสำหรับปี20 โตเพิ่มขึ้นถึง 23.44% สวนอุตสาหกรรม โดยทั้งกลุ่มมีกำไรรวมกัน 181.35 ล้านบาท คิดเป็น 1.68% ของอุตสาหกรรมเท่านั้น แต่มีผู้เล่นมากถึง 9 รายด้วยกัน มีผลประกอบการทั้งที่มีกำไรและขาดทุนพอๆ กันในกลุ่มนี้
ปีที่ผ่านมามี 6 บลจ. คิดเป็น 66.67% ที่กำไรเพิ่มขึ้น ในขณะที่อีก 3 บลจ. คิดเป็น 33.33% มีกำไรลดลง โดยบลจ.ที่มีกำไรเติบโตมากสุด ได้แก่
-“บลจ.วี” มีกำไรเบ็ดเสร็จรวมในปี20 พลิกกลับมาโชว์กำไร 7.97% จากที่ขาดทุนในปีก่อน หรือเพิ่มขึ้น 195.56%
หันมามองด้านส่วนแบ่งกำไรกันบ้าง พบว่าบลจ.ที่มีกำไรมีอยู่ 5 แห่ง คิดเป็น 55.56% จากทั้งหมด โดยบลจ.ที่มีส่วนแบ่งกำไรมากสุด ได้แก่
-“บลจ.วรรณ” มีกำไรเบ็ดเสร็จรวมสำหรับปี20 อยู่ที่ 152.63 ล้านบาท มีส่วนแบ่ง 1.42%
“บลจ.เอไอเอ” แชมป์กำไรโตสุดกลุ่ม ‘บลจ.ต่างชาติ’ เพิ่มขึ้น 7,926.04%…ส่วน “บลจ.ทหารไทย” แชมป์ส่วนแบ่งกำไรสูงสุด 5.08%
กลุ่ม “บลจ.ต่างชาติ” ซึ่งเป็นบลจ.ลูกประกันและบลจ.ลูกบลจ.นั้น เป็นกลุ่มที่ในปี20 มีกำไรในภาพรวมปรับตัวลดลงเยอะที่สุดลดลง 9.09% มีกำไรเบ็ดเสร็จสำหรับปีอยู่ที่ 1,932.86 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 17.93% ของทั้งอุตสาหกรรม ปัจจุบันบลจ.ในกลุ่มนี้มีด้วยกัน 7 แห่ง มี 3 บลจ.คิดเป็น 42.86% ที่มีกำไรเพิ่มขึ้น ในขณะที่อีก 4 บลจ. คิดเป็น 57.14% นั้น มีกำไรลดลง
โดยบลจ.ต่างชาติที่มีกำไรเติบโตสูงสุดในปี20 ที่ผ่านมา ได้แก่
-“บลจ.เอไอเอ (ประเทศไทย)” มีกำไรเบ็ดเสร็จรวมสำหรับปี 393.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากที่ขาดทุนในปี19 หรือเพิ่มขึ้น 7,926.04% (กำไรปี19 คิดตั้งแต่วันที่จัดตั้งบริษัท 15 พ.ค.-31 ธ.ค. 19)
ส่วนบลจ.ที่มีส่วนแบ่งกำไรสูงสุดในกลุ่มนี้ได้แก่
-“บลจ.ทหารไทย” มีกำไรเบ็ดเสร็จรวมสำหรับปี20 ที่ 547.89 ล้านบาท มีส่วนแบ่ง 5.08%
“แต่ถ้านับรวมส่วนของ ‘บลจ.ธนชาต’เข้าไปด้วย บลจ.ของกลุ่ม ‘พรูเด็นเชียล’ นี้จะมีกำไรเบ็ดเสร็จรวมกัน 895.47 ล้านบาท มีส่วนแบ่งเพิ่มเป็น 8.31% ขึ้นเป็นอันดับ5 บลจ.ที่มีกำไรมากที่สุดในอุตสาหกรรมในทำเนียบ Top5 ไปทันที”
แม้ภาพรวมผลประกอบการของ “บลจ.” ในปี2020 ที่ผ่านมา อาจจะดูไม่สดใสเท่าไรนัก แต่ภาพรวมของกองทุนรวมภายใต้การบริหารก็ถือว่าทำได้ค่อนข้างดี อย่าลืมว่า “กองทุน” กับ “บลจ.” นั้นแยกออกจากกันชัดเจน แต่การบริหารกองทุนให้ได้ดีก็ต้องมีการลงทุนซึ่งคงหนีเรื่องของเงินลงทุนไปไม่ได้เช่นเดียวกัน หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจอยู่บ้างไม่มากก็น้อย
