โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

4 หัวใจการเงิน...หนี้สินชำระคืน 10 ปีนี่สายไป (3)

Rabbit Today

อัพเดต 23 ม.ค. 2562 เวลา 14.37 น. • เผยแพร่ 23 ม.ค. 2562 เวลา 14.37 น. • ดร.ธนาวัฒน์ สิริวัฒน์ธนกุล
asset-3-biz-buzz-Rabbit-Today-banner

4 หัวใจการเงิน 2 ตอนที่ผ่านมามุ่งเน้นไปที่ทรัพย์สินหรือสินทรัพย์ที่หลายๆ คนมักใช้เป็นตัวบ่งชี้สถานะทางการเงินที่ดี เรามักคิดว่าคนที่มีเงินในบัญชีจำนวนมาก มีเงินลงทุนในสินทรัพย์มากมาย มีเครื่องประดับ รถยนต์ บ้านหลังใหญ่ หรือคอนโดมิเนียมหรูใจกลางเมือง ต้องเป็นคนรวยที่มีสถานะทางการเงินดีแน่ๆ เลย

แต่ความเป็นจริงอาจไม่แน่นอนเสมอไปนะครับ เพราะถ้าหากเงินที่นำมาใช้ในการจัดหาสินทรัพย์ต่างๆ ดังกล่าวมาจากการกู้ยืม ความรวยที่เห็นอยู่เปลือกนอก อาจเต็มไปด้วยหนี้สิน ที่อาจตามมาด้วยความยากจนถึงขั้นล้มละลายในอนาคตก็ได้

หลังจากนั้นที่เราทำการรวบรวมข้อมูลสินทรัพย์ต่างๆ ที่มีอยู่ ณ วันนี้ เราจึงต้องการทำการบันทึกเพื่อแจกแจงหนี้สินทั้งหมดที่มีอยู่ด้วยเช่นกัน เพื่อจะได้รู้ว่าในอนาคตมีภาระที่จะต้องชำระคืนหนี้สินที่กู้ยืมมาเมื่อไร และเป็นจำนวนเงินเท่าใดบ้าง 

หนี้สินที่กู้ยืมกันทั่วไปอาจแบ่งได้ดังนี้

1. หนี้สินหมุนเวียน เป็นหนี้สินที่ต้องชำระคืนภายในเวลาไม่เกิน 1 ปี เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ยอดคงค้างบัตรเครดิต และเงินกู้ระยะสั้นที่ต้องคืนภายในเวลาไม่เกิน 1 ปี

2. หนี้สินระยะยาว ซึ่งมีกำหนดการชำระคืนเกิน 1 ปีขึ้นไป เช่น เงินกู้ซื้อบ้าน เงินกู้ซื้อรถยนต์ เป็นต้น

4 หัวใจการเงิน…หนี้สินชำระคืน 10 ปีนี่สายไป (3),ธุรกิจและการเงิน,Rabbit Today
4 หัวใจการเงิน…หนี้สินชำระคืน 10 ปีนี่สายไป (3),ธุรกิจและการเงิน,Rabbit Today

หัวใจที่สำคัญของการเป็นคนรวยที่มีสถานะทางการเงินที่ดี จึงต้องระมัดระวังไม่ให้หัวใจการเงินเกิดรูรั่วจากการก่อหนี้ แล้วทำให้เงินทองในอนาคตต้องสูญเสียกับการชำระคืนเจ้าหนี้ต่างๆ ในอนาคต

นิยายกำลังภายในอาจบอกว่าแค้นนี้อีก 10 ปี ค่อยชำระคืนยังไม่สาย แต่ผมอยากบอกว่าถ้าเป็นหนี้ แล้วค่อยใช้เวลาเป็น 10 ปี อาจสายไป และอาจทำให้ต้องสูญเสียความเป็นไททางการเงิน จนถึงขั้นล้มละลายเลยทีเดียว

3 เหตุผลเตือนใจต่อไปนี้ อาจช่วยทำให้คุณสามารถยับยั้งชั่งใจการก่อหนี้โดยไม่จำเป็นได้บ้าง ถ้าหากคุณยังต้องการเป็นคนที่มีชีวิตที่มั่งคั่งและมั่นคง

1. ดอกเบี้ยจากการกู้ยืมไม่เคยต่ำกว่าดอกเบี้ยจากการออมและการลงทุน คิดทบทวนทุกครั้งที่จะกู้ยืมมาใช้จ่าย ลองเปรียบเทียบดูระหว่างดอกเบี้ยออมทรัพย์ปัจจุบันที่มีอัตราเพียงร้อยละไม่ถึง 1 ต่อปี กับดอกเบี้ยการกู้ยืมโดยเฉพาะผ่านบัตรเครดิตที่อาจสูงถึงร้อยละ 20 ต่อปี และอย่าลืมว่าดอกเบี้ยนั้นคิดทบต้นด้วยนะครับ

2. ความสุขจากการใช้จ่ายในปัจจุบันด้วยเงินกู้ อาจต้องแลกมาด้วยหน้าที่การงาน ชีวิตครอบครัวที่หายไป หลายๆครั้งคนที่กู้ยืมอาจต้องย้ายงานเพื่อหนีเจ้าหนี้ รวมทั้งอาจต้องหนีออกจากบ้าน เพื่อไม่ให้เจ้าหนี้ติดตามเจอ ก่อนที่จะทำการกู้ยืมคิดก่อนสักนิดว่าคุ้มค่าหรือไม่ ถ้าหากในอนาคตไม่สามารถหาเงินมาผ่อนชำระคืนเจ้าหนี้ได้ตรงเวลาตามจำนวนที่กำหนด

3. การสูญเสียความภาคภูมิใจในตนเอง อย่าลืมเตือนตัวเองทุกครั้งที่กำลังขอสินเชื่อว่า คุณกำลังสูญเสียความสามารถในการควบคุมตนเอง เพราะคุณกำลังจะตกเป็นทาสของกิเลสที่ไม่มีวันพอ ยิ่งไปกว่านั้นสินเชื่อที่คุณกำลังขอใช้บริการจะกลายเป็นอาหารเสริมชั้นดีของกิเลส ทำให้นำไปสู่การใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยสุรุ่ยสุร่ายมากขึ้น

4 หัวใจการเงิน…หนี้สินชำระคืน 10 ปีนี่สายไป (3),ธุรกิจและการเงิน,Rabbit Today
4 หัวใจการเงิน…หนี้สินชำระคืน 10 ปีนี่สายไป (3),ธุรกิจและการเงิน,Rabbit Today

หัวใจการเงินจากการสะสมสินทรัพย์และการระมัดระวัง ไม่ก่อให้เกิดหนี้สินจนเกินตัว จะหลอมรวมนำไปสู่ความมั่งคั่งสุทธิ ซึ่งเป็นมูลค่าของทรัพย์สินที่เหลืออยู่ หลังจากหักลบด้วยหนี้สินทั้งหมดที่กู้ยืมมา 

ความมั่งคั่งสุทธิ จึงเป็นดัชนีชี้วัดที่สามารถบอกถึงฐานะทางการเงินที่แท้จริงว่า ความมั่งคั่งของเรามีมากน้อยแค่ไหน ทรัพย์สินที่มีอยู่เป็นของเราจริงๆ เท่าไร 

การบันทึกสินทรัพย์ หนี้สิน และความมั่งคั่งสุทธิ พร้อมๆ กัน จึงเป็นเสมือนการเซลฟี่สถานะทางการเงินของตัวเอง ที่จะทำให้เราสามารถตอบคำถามคนอื่นๆ ได้อย่างภาคภูมิใจว่า วันนี้เราเป็นเศรษฐีแล้วหรือยัง 

ถ้าอยากรู้ว่าเริ่มต้นปีใหม่นี้ คุณสามารถถือกระเป๋าเดินย้ายเข้าไปอยู่ในทำเนียบเศรษฐีกับเขาได้หรือยัง ก็คงต้องรีบถ่ายเซลฟี่หน้าตาทางการเงินของคุณตั้งแต่วันนี้ ด้วยโปรแกรมวางแผนการเงินง่ายๆ ในเว็บไซต์ www.allaboutfin.com ครับ โดยการกรอกข้อมูลต่างๆ ของตัวคุณเองในโปรแกรมวิเคราะห์สุขภาพการเงิน ซึ่งจะนำเสนอภาพถ่ายสถานะการเงินของเราทั้งหมด ผ่านรูปถ่ายทางการเงินที่มีชื่อเรียกว่า งบดุลส่วนบุคคล (Personal Balance Sheet)

พิมพ์และจัดเก็บรูปงบดุลของตัวเราเองอย่างสม่ำเสมอ ก็จะเป็นเครื่องมือที่บ่งบอกถึงความก้าวหน้าของสถานะทางการเงิน หรือปัญหาทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ทำให้เราสามารถปรับปรุงชีวิตของตัวเองให้มีความมั่งคั่งอย่างมั่นคง
บทความ 3 ตอนแรกในซีรีส์นี้ นำพาคุณไปถ่ายรูป 2 หัวใจการเงินผ่านงบดุล ทำให้เห็นถึงสถานะทางการเงินในวันนี้เรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าคุณอยากจะรู้ว่าอะไรที่นำพาสถานะทางการเงินของคุณมาถึงจุดที่เป็นอยู่ในวันนี้ 4 หัวใจการเงินในตอนหน้า จะพาไปย้อนดูวิดีโอทางการเงินผ่านงบกระแสเงินสดกันครับ 

อดใจรอในสัปดาห์ต่อไปว่า ผมจะแนะนำการเงินเรื่องไกลตัวที่ดูเหมือนยาก ให้เป็นเรื่องง่ายๆ ที่จะเปลี่ยนชีวิตใหม่ให้คุณมั่งคั่งและมั่นคงได้อย่างไร

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0