เด็กๆ กับความเลอะเทอะมอมแมม อาจจะแยกออกจากกันได้ยาก แต่ความจริงแล้ว ความสะอาดนั้นเป็นเรื่องสำคัญกับเด็กๆ เป็นอย่างมาก เพราะความสะอาดมีผลต่อไปถึงสุขภาพที่ดีของเด็กๆ ตามมา ยิ่งปัจจุบันที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโรคเกิดขึ้นมากมาย การรักษาความสะอาดที่ควรเป็นเรื่องพื้นฐาน ก็กลายเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องใส่ใจและเอาจริงเอาจังมากขึ้นไปอีก
แต่เด็กๆ อาจยังไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงจะต้องดูแลรักษาความสะอาดตัวเองและข้าวของรอบตัวมากขึ้น และทำไมจะต้องทำสิ่งเหล่านี้เป็นประจำ ในขณะที่คุณพ่อคุณแม่เองก็เริ่มเหนื่อยที่จะต้องคอยบอกคอยเตือน และได้แต่หวังว่าเมื่อลูกโตขึ้นอีกนิดก็คงจะเข้าใจได้เอง
แต่จะรอถึงวันนั้นกันไปทำไมล่ะคะ M.O.M มีวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยปลูกฝังให้เด็กๆ มีนิสัยรักความสะอาดมาฝากคุณพ่อคุณแม่กันค่ะ
1. เริ่มต้นจากร่างกาย
วิธีแรกในการปลูกฝังให้เด็กรักความสะอาด คือคุณพ่อคุณแม่จะต้องให้ลูกคุ้นเคยกับการดูแลร่างกายตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก ไม่ว่าจะเป็นการล้างมือก่อนและหลังกินข้าว แปรงฟันทุกเช้าและก่อนเข้านอน อาบน้ำวันละสองครั้ง ทั้งหมดนี้แม้จะเป็นกิจวัตรที่ต้องทำตามปกติอยู่แล้ว แต่ก็เป็นการสร้างพื้นฐานให้เด็กเรียนรู้และเข้าใจความสำคัญของการดูแลและรักษาความสะอาดอีกด้วย
2. พูดคุยถึงความสำคัญของความสะอาด
นอกจากจะคอยบอกให้ลูกคอยดูแลรักษาความสะอาดแล้ว คุณพ่อคุณแม่ควรบอกให้ลูกเข้าใจเหตุผลของการลงมือทำสิ่งต่างๆ เช่น ทำไมเราถึงควรล้างมือบ่อยๆ ทำไมเราถึงจะต้องเก็บกวาดและทำความสะอาดโต๊ะของตัวเอง ทำไมถึงต้องรักษาความสะอาดเสื้อผ้าและของเล่นของตัวเอง เช่น อธิบายว่าการทำความสะอาดจะช่วยฆ่าเชื้อโรคก่อนที่เชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกายของเราได้ เพื่อให้ลูกเข้าใจและเห็นคุณค่าของความสะอาดมากขึ้น
3. ให้ลูกเป็นผู้ช่วยในการรักษาความสะอาด
บางครั้งการลงมือทำความสะอาดบ้านและสิ่งของต่างๆ ก็เป็นเรื่องใหญ่เกินไปสำหรับเด็กเล็ก ไม่ว่าจะการล้างจาน กวาดบ้าน ถูบ้าน แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเด็กจะไม่สามารถมีส่วนร่วมในการทำความสะอาดบ้านหรือข้าวของของตัวเองได้
มีงานวิจัยบอกว่า ยิ่งเด็กเรียนรู้เรื่องความสะอาดได้ตั้งแต่อายุยังน้อย ก็ยิ่งมีแนวโน้มว่าจะเติบโตเป็นคนที่รักความสะอาดมากขึ้น ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่สามารถขอความช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ จากลูก เช่น หยิบผ้ามาเช็ดตรงนี้ให้คุณแม่หน่อย หรือให้ลูกช่วยเก็บของและมีส่วนร่วมในทำความสะอาดบ้านบ่อยๆ จะช่วยปลูกฝังนิสัยรักความสะอาดให้ลูกได้เป็นอย่างดี
4. มีทางเลือกให้แก่ลูก
การให้ลูกช่วยทำความสะอาด อาจจะเป็นเรื่องน่าเบื่อสำหรับเด็กๆ ดังนั้นแทนที่จะกำหนดหรือออกคำสั่งให้ลูกทำอะไร ลองเปลี่ยนเป็นให้ลูกเลือกทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำก่อน ด้วยการเสนอทางเลือก เช่น หนูอยากทำอะไรระหว่างเช็ดโต๊ะกับทำความสะอาดของเล่น เพื่อให้ลูกได้ตัดสินใจด้วยตัวเอง และอยากที่จะมีส่วนร่วมสำคัญในการช่วยทำความสะอาดมากขึ้น
อ้างอิง
