ประมวล 4 ข้อมูลล่าสุดของหงเหมิง (Hongmeng) ระบบปฏิบัติการหรือ OS ตัวใหม่ที่หัวเว่ย (Huawei) กำลังทยอยแจ้งเกิดในตลาดโลก 1 ใน 4 ข้อมูลสำคัญคือ "เหริน เจิ้งเฟย" ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารหัวเว่ย เผยว่า Hongmeng เป็นระบบปฏิบัติการตัวใหม่ที่เหมาะสำหรับอุปกรณ์อัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี IoT เพราะมีความหน่วงเวลาหรือ Latency ต่ำ
1. Latency คงที่
ผู้ก่อตั้ง Huawei ระบุว่าเป้าหมายของการพัฒนา OS นี้ คือการสร้างโลกที่ทุกสิ่งอย่างมีความอัจฉริยะและเชื่อมต่อกันได้ โดยเหรินกล่าวในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Le Point ของฝรั่งเศส ว่าระบบปฏิบัติการหงเหมิงมีความล่าช้าต่ำในระดับคงที่ สถิติชี้ว่าในแต่ละจุดจะมีความหน่วงไม่เกิน 5 มิลลิวินาทีหรือต่ำกว่านั้น และอาจต่ำกว่า 1 มิลลิวินาที
2. เหมาะกับรถขับเคลื่อนอัตโนมัติ
เหรินกล่าวถึง Hongmeng โดยยกตัวอย่างรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ซึ่งมีจุดสำคัญที่สะท้อนว่า Hongmeng เหมาะสมกับการใช้ในรถยนต์ที่ไม่ต้องใช้มนุษย์ในการขับขี่
"การเปลี่ยนเกียร์ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 มิลลิวินาที ถ้าความหน่วงเวลาไม่คงที่ การเข้าเกียร์อาจผิดพลาดและอาจส่งผลให้เกิดความผิดพลาดในการทำงานร่วมกันได้” เหรินอธิบายเพิ่ม
3. ลุ้นข้อมูลเพิ่ม 7 สิงหาคม
ในวันที่ 7 สิงหาคม หัวเว่ยจะจัดงาน IoT Industry Summit ขึ้นที่กรุงเทพฯ เพื่อแสดงเทคโนโลยีและพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับเทคโนโลยี IoT และแอปพลิเคชันการใช้งานล้ำสมัย ทำให้มีโอกาสที่ Hongmeng จะถูกเผยรายละเอียดมากขึ้นในงานนี้
"ประเทศไทยได้นำเทคโนโลยี IoT มาประยุกต์ใช้จนประสบความสำเร็จ ซึ่งสามารถสร้างประโยชน์ให้กับสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ ในฐานะตัวขับเคลื่อนนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ที่สำคัญ เทคโนโลยี IoT มีศักยภาพในการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลเพื่อนำประเทศไทยไปสู่การเป็นอุตสาหกรรมอัจฉริยะ เมืองอัจฉริยะ และการใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาด" หัวเว่ยระบุ
4. IoT ยุทธศาสตร์หลัก
จุดเด่นของ Hongmeng เรื่อง IoT ตอกย้ำว่าหัวเว่ยมีเป้าหมายครองตลาดสินค้า IoT ประเด็นนี้เหรินระบุว่าบริษัทต้องการสร้างความพึงพอใจให้ผู้คนในสังคม เป้าหมายสูงสุดของหัวเว่ยจึงเป็นการให้บริการผู้บริโภคทุกคน ซึ่งก็คือคนกว่า 6,500 ล้านคนและอาจจะมากกว่านั้นในอนาคตเมื่อ IoT เชื่อมต่อกับทุกสรรพสิ่งได้มากขึ้น
"IoT เป็นรากฐานของปัญญาประดิษฐ์ (AI) บิ๊กดาต้า และเป็นส่วนสำคัญของ 5G หัวเว่ยซึ่งเป็นผู้นำด้าน 5G ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์และโซลูชัน 5G เชิงพาณิชย์แบบครบวงจรที่ตรงตามมาตรฐานของ 3GPP อีกทั้งยังได้ก่อตั้งศูนย์โอเพ่น แล็บ (Open Lab) ในประเทศไทย เพื่อสนับสนุนการพัฒนาแอปพลิเคชันของนักพัฒนาแอปในประเทศอีกด้วย"