มาตรการ "ชิมช้อปใช้" แจกสิทธิ์ 1,000 บาทให้กับคนไทย 10 ล้านคนเพื่อการท่องเที่ยวอาจสร้างความตื่นเต้นให้กับนักเดินทางตัวยงได้เป็นอย่างมาก แต่ก่อนที่จะถึงวันลงทะเบียน เรามาไขข้อข้องใจด้วยเช็กลิสต์ 5 ข้อที่ควรทำความเข้าใจให้ถูกต้อง อ่านให้ดีก่อนกดรับสิทธิ์ในวันที่ 23 กันยายนนี้และเตรียมวางแผนเที่ยวกันได้เลย
1 | การลงทะเบียนให้ไปที่เว็บไซต์ www.ชิมช้อปใช้.com
หลายคนเข้าใจผิดและพยายามไปหาปุ่มลงทะเบียนในเว็บไซต์ของการท่องเที่ยวฯ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ผิด การลงทะเบียนที่ถูกต้องคือการเข้าไปยังหน้าเว็บไซต์ของ www.ชิมช้อปใช้.com ในวันเปิดลงทะเบียน โดยผู้ใช้สิทธิ์จะต้องมีอายุ 18 บริบูรณ์เป็นต้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน และในช่องที่ให้เลือก “จังหวัดที่ประสงค์จะเดินทางไปใช้สิทธิ์” ต้องไม่ตรงกับจังหวัดในสำเนาทะเบียนบ้าน
2 | การลงทะเบียนสามารถทำได้ในช่วงหลังเที่ยงคืนของวันที่ 23 กันยายน 2562 ไปจนถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 เวลา 00.00 น.
ทางมาตรการฯ ตั้งจำนวนการรับลงทะเบียน วันละ 1 ล้านคน และรับลงทะเบียนต่อเนื่องทุกวันจนกว่าจะครบ 10 ล้านสิทธิ์
เมื่อการลงทะเบียนเสร็จสมบูรณ์ ภายใน 3 วันจะได้รับ SMS และอีเมลยืนยัน แต่ถ้าหากเราลงทะเบียนเป็นรายที่เกิน “คนที่หนึ่งล้าน” ในแต่ละวัน ระบบจะส่งข้อความแจ้งทันทีว่า “จำนวนการลงทะเบียนเต็มแล้วสำหรับวัน” สามารถลงทะเบียนใหม่อีกครั้งในวันถัดไป
3 | เงิน 1,000 บาทที่จะได้รับไม่ใช่เงินสด แต่เป็นวงเงินสำหรับการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวบนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” (G-Wallet)
หลังจากที่ได้รับข้อความยืนยันสิทธิ์แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” จาก AppStore หรือ PlayStore และยืนยันตัวตนตามนี้:
1. สแกนบัตรประจำตัวประชาชน
2. กรอกข้อมูลบัตรประชาชน และถ่ายรูปเซลฟี่หน้าตนเอง
3. ยืนยันเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียน ด้วยรหัสยืนยันการทำธุรกรรม (OTP)
ระบบจะแสดงผลการยืนยันตัวตน โดยจะแสดงให้เห็นสิทธิ์ที่ได้รับจากการเข้าร่วมมาตรการ เป็น 2 กระเป๋า ดังนี้:
- กระเป๋า ช่อง 1 แสดงวงเงิน 1,000 บาท
- กระเป๋า ช่อง 2 ผู้ใช้งานจะต้องเติมเงินเข้า G-Wallet
4 | ต้องใช้แอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” เท่านั้น เพื่อชําระค่าสินค้าหรือบริการกับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมมาตรการฯ
เงื่อนไขเพิ่มเติมก็คือใน กระเป๋า ช่อง 1 ผู้ได้รับสิทธิ์จะต้องใช้จ่ายภายใน 14 วัน นับถัดจากวันที่ได้รับ SMS แจ้งสิทธิ์ หากไม่ใช้จ่ายเงินภายในเวลาที่กําหนด วงเงินในกระเป๋า จะเท่ากับ 0 บาท
ส่วน กระเป๋า ช่อง 2 เมื่อนําไปใช้จ่ายกับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมมาตรการฯ (ยกเว้นจังหวัดตามทะเบียนบ้าน) จะได้รับแคชแบค (เงินคืน) 15% ของจํานวนเงินที่ใช้จ่าย แต่ไม่เกิน 4,500 บาท (จํากัดวงเงินการใช้จ่ายไม่เกิน 30,000 บาท) โดยสามารถใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ได้รับสิทธิ์ จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2562
หากภายใน 14 วัน ที่กําหนด ท่านมิได้ใช้จ่ายเงิน จากกระเป๋าช่อง 1 หรือ กระเป๋าช่อง 2 ระบบจะตัดสิทธิ์ทั้ง 2 ช่อง แต่วันออกเดินทางสามารถเป็นหลังจาก 14 วันดังกล่าวได้
5 | หากมีข้อมูลสอบถามเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทรดังต่อไปนี้
- ข้อมูลลงทะเบียนประชาชน การรับสิทธิ์ แอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ติดต่อ ธนาคารกรุงไทย โทร. 0 2111 1144
- ข้อมูลลงทะเบียนผู้ประกอบการ การเข้าร่วมมาตรการ แอปพลิเคชั่น “ถุงเงิน” ติดต่อ กรมบัญชีกลาง โทร. 0 2270 6400
และหากมีข้อมูลต้องการสอบถามเกี่ยวกับเส้นทางการเดินทาง การท่องเที่ยวในจังหวัดต่าง ๆ สามารถติดต่อ ททท. ได้ที่สายด่วน 1672
ความเห็น 211
🆘Mayday🆘 ヌイ
BEST
จะวุ่นวายกะเงินพันนึงขนาดนั้น นอนอยู่บ้านเถอะ ห่านจิก!!
27 ส.ค. 2562 เวลา 05.58 น.
ประเทศกูมี
BEST
สงสารคนเฝ้าแหล่งท่องเที่ยวเนาะ
ร้านค้าร้านขายรายย่อยที่โลเทค
เวลาเสียภาษีบำรุงท้องที่ก็โดนก่อน
ค่าแผงค่าเช่าก็ต้องจ่ายก่อน
คอยเป็นหูเป็นตารักษาแหล่งท่องเที่ยวไว้
มาตรการนี้กลับให้จ่ายกับร้านที่ไฮเทค
ร้านเล็กร้านน้อยต้องนั่งมอง
#เศร้าเนาะ
27 ส.ค. 2562 เวลา 06.11 น.
DeAr 😉
BEST
App เป็นของธนาคารกรุงไทย แล้วต้องไปเปิดบัญชีใหม่เพื่อผูกบัญชีกับ app รึป่าว ถ้าคนไม่มีทำไง งงอ่ะ เงื่อนไขก็เยอะแยะ ยุ่งยากจังค่ะ
27 ส.ค. 2562 เวลา 05.59 น.
Areeya Hamsanit
ไม่ไปมันยุ่งยากเกินทำงานเสืยภาษีให้บัตรคนจนต่อไป
27 ส.ค. 2562 เวลา 07.08 น.
น่าจะระบุไปเลย ว่า ผู้ให้บริการ มีร้านค้า หรือ ที่พัก อะไร บ้าง
27 ส.ค. 2562 เวลา 05.57 น.
ดูทั้งหมด