เค้นสอบ 3 โจ๋รุมกระทืบ น้องเก้า วัย 14 เสียชีวิต สำนึกผิดก้มกราบ แม่เหยื่อสะอื้นไห้เตือนสติอย่าไปทำแบบนี้กับใครอีก ให้ปรับปรุงตัว เผยยังไม่มีเงินค่าทำศพลูกชาย เพื่อนบ้านกับทางวัดต้องช่วยเหลือเบื้องต้น ออกเงินให้ก่อน
กรณี 3 โจ๋รุมทำร้ายน้องเก้าวัย 14 ปี เสียชีวิต ที่หน้าร้านเกมแห่งหนึ่ง อ.เมือง ใช้ขวดเหล้าตีที่ศีรษะ จนได้รับบาดเจ็บบาดเจ็บสาหัส ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตราด เมื่อคืนวันที่ 16 พ.ย. ที่ผ่านมา
ล่าสุดถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตราด จับกุมตัวและถูกนำตัวมาสอบสวน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
- อ่านข่าว 3 โจ๋ เผยเหตุผลหลังรุมกระทืบ น้องเก้า วัย 14 ดับ ปัดไม่ได้แค้นเรื่องจีบหญิง
- อ่านข่าว แม่ใจจะขาด! ลูกชายอายุแค่ 14 ถูกรุมตีดับสลด ทะเลาะเรื่องหญิง
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 พ.ย. พล.ต.ต.ประสาน บุญเหมือน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.ตราด พร้อมนายสุทัศน์ วิเชยละ ยุติธรรม จ.ตราด และเจ้าหน้าที่สำนักงานคุมพินิจ จ.ตราด ร่วมสอบสวน 3 เยาวชนที่ก่อเหตุด้วยตัวเอง โดยมี พ.ต.อ.คมสรณ์ มาบำรุง ผกก.เมืองตราด ร่วมสอบสวนด้วย
หลังจากสอบสวนแล้ว นางจิราภรณ์ กรเป๋ แม่ของน้องเก้าผู้ตาย เข้ามาร่วมฟังคำสอบสวนด้วย ซึ่งหลังจากสอบสวน นายวัชรพงษ์ พรประสิทธิ์ (หนึ่ง) อายุ 16 ปี รายที่ 2 นายอนุชา แจ่มใส (นุ) อายุ 17 ปี และ นายศุภเดช เหลาวงศ์ (เป็ก) อายุ 17 ปี กราบขอขมาแม่น้องเก้า โดยแม่น้องเก้าถึงกับกลั้นน้ำตาไม่ไหว หลังทั้ง 3 คนก้มกราบขอโทษ พร้อมเตือนทั้ง 3 คนอย่าไปก่อเหตุแบบนี้กับใครอีก ให้ปรับปรุงตัวเป็นคนใหม่
พล.ต.ต.ประสาน กล่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้นครั้งนี้สืบเนื่องมาจากทั้งผู้ตายเคยมีเรื่องกันมาก่อน จากเรื่องชู้สาว และหลังจากนั้นมาพบกันอีกครั้งในที่เกิดเหตุ ก่อนมองหน้ากัน 3 เยาวชนจึงเข้าไปรุมทำร้ายผู้ตายจนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
เนื่องจากเป็นเยาวชน จึงต้องถูกดำเนินคดีที่ศาลเยาวชนและครอบครัว จ.ตราด และมอบให้สถานพินิจควบคุมตัวไปกักขังตามคำพิพากษา ซึ่งทั้งหมดยอมรับสารภาพ แต่เป็นเรื่องของการทำร้ายไม่เจตนาจนทำให้เสียชีวิต
ด้านนายสุทัศน์ กล่าวว่า สำหรับกรณีนี้เนื่องจากทั้งหมดเป็นเยาวชนจึงต้องดำเนินคดีที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจ.ตราด ซึ่งจากกรณีผู้เสียชีวิตสามารถเรียกร้องเรื่องค่าชดเชยผู้เสียชีวิตจากตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหาย ค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544 ค่าทดแทน 110,000 บาท
ซึ่งกรณีนี้ผู้เสียชีวิตสามารถได้รับค่าชดเชย เพราะไม่ได้เป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดี จำนวนเงินไม่เกิน 1 แสนบาท ทั้งนี้ แม่ของน้องเก้าสามารถทำเรื่องได้ที่สำนักงานยุติธรรมจ.ตราด รวมทั้งสามารถเรียกร้องความเสียทางแพ่งได้ แต่ต้องฟ้องร้องที่ศาลเอง โดยทางสำนักงานพร้อมให้คำปรึกษาทางคดีและมีทนายความให้ด้วย
นางจิราภรณ์ เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถจับคนทำร้ายลูกได้ และจะบอกกับลูกคนที่ทำร้ายลูกจนเสียชีวิตถูกจับได้แล้ว แม้จะรู้สึกเสียใจ แต่ยอมรับว่าลูกก็เคยเป็นเด็กเกเร แต่เขากลับตัวมาเป็นเด็กดีแล้ว
ส่วนเรื่องการรักษาของแพทย์นั้น ลูกเมื่อเข้ารักษาในโรงพยาบาลตราดและเสียชีวิตในเวลาต่อมานั้น แพทย์ไม่ได้แจ้งในครั้งแรกในเรื่องอาการ เพราะเมื่อมีเลือดไหลในช่องท้องมาก และผ่าตัดพร้อมทั้งเสียชีวิตในเวลาต่อมา ยังไม่ได้รับคำชี้แจงจากแพทย์ว่า เสียชีวิตจากการรักษาหรือไม่ จึงต้องการคำตอบที่ชัดเจน
สำหรับการทำศพผู้ตายนั้น แม่ผู้ตายไม่มีเงินค่าทำศพ แม้กระทั่งค่าทำอาหารหรือเงินทำบุญ แต่มีอาสาสมัครคุ้มประพฤติที่เป็นเพื่อนบ้านช่วยเหลือให้ในเบื้องต้น และทางวัดต้องออกค่าใช้จ่ายให้ก่อน ทำให้ทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.ตราด รับเป็นเจ้าภาพงานศพให้ในคืนวันที่ 19 พ.ย.
ทั้งนี้ นางจิราภรณ์ กรเป๋ มีลูก 5 คน คนโตมีครอบครัวแล้ว และคนรองเรียนหนังสือ คนที่ 3 เสียชีวิต และอีก 2 คน เป็นผู้หญิง 2 คน 3 ขวบ และ 9 ขวบ เรียนหนังสืออยู่ ส่วนแม่มีอาชีพขายนมเปรี้ยว