นับตั้งแต่ก่อตั้ง เซ็นทรัลเวียดนาม (CGV) ในเดือนกรกฏาคม 2554 "เซ็นทรัล" รุกตลาดเข้าสู่ประเทศเวียดนามอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการจับมือเป็นพันธมิตรกับบริษัท Nguyen Kim Trading Joint Stock และบริษัท LanChi Mart ตอนปี 2558 ซึ่งทั้งสองบริษัทดำเนินธุรกิจค้าปลีกสาขาในเขตชนบททางตอนเหนือของประเทศเวียดนามอยู่แล้ว ต่อมาในปี 2559 บริษัทฯ ได้ร่วมกับ Big C ในธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตไฮเปอร์มาร์เก็ต และห้างสรรพสินค้า และล่าสุด เซ็นทรัล เปิดตัวศูนย์การค้าแห่งใหม่ Go! (โก!)
ราวเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา "เซ็นทรัล" ประกาศแผน 5 ปี (ระหว่าง2561-2565) ซึ่งมีแผนใช้งบลงทุนรวม 500 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นปีละ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากที่ลงทุนไปแล้ว 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่เวียดนามกลายเป็นตลาดแห่งใหม่ของเซ็นทรัล ก็เพราะเหตุผล 3 ประการ
1.จำนวนประชากร อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ
จากอัตรกาารเติบโตของ GDP 6 เดือนแรกปี 2561 สูงถึง 7.38% สะท้อนความร้อนแรงของเศรษฐกิจเวียดนาม ในช่วงเวลาเดียวกัน มูลค่าการค้าทวิภาคีระหว่างไทยกับเวียดนามอยู่ที่ 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.7 โดยมูลค่าการส่งออกของเวียดนามไปยังไทยอยู่ที่ 2,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.7 ขณะที่มูลค่าการนำเข้าจากไทยสูงถึง 5,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 นั่นแปลว่าการค้าระหว่างไทย- เวียดนาม เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันจำนวนประชากรของเวียดนามมีถึง 95.54 ล้านคน เมื่อเทียบกับประเทศไทยแล้ว เวียดนามจึงเป็นตลาดที่ทั้งใหญ่และเติบโตสูง
2.ต่อยอดได้เยอะ
ปัจจุบัน CGV ดำเนินธุรกิจในประเทศเวียดนามมีห้างสรรพสินค้าและร้านค้าต่าง ๆ มากกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นผู้ประกอบการค้าปลีกที่ให้บริการครอบคลุมหลายรูปแบบร้านค้าและเชื่อมต่อลูกค้าผ่านทางหลากหลายช่องทาง ทั้งไฮเปอร์มาร์เก็ตและซุปเปอร์มาร์เก็ต (Big C), ร้านสะดวกซื้อ (C – Express), ห้างสรรพสินค้า (Big C Supercenter), ร้านค้าอิเล็กทรอนิกส์และอีคอมเมิร์ซ (Nguyen Kim and Nguyenkim.com), ร้านค้าปลีก LanChi Mart ในตอนเหนือของเวียดนาม, ห้างสรรพสินค้า Robins, ร้านค้าแฟชั่นออนไลน์ Robins.vn), ร้านค้าแฟชั่น Delala, ร้านอุปกรณ์กีฬา Supersports, ร้านสินค้าประเภทเครื่องเขียนและอุปกรณ์ B2S, ร้านของใช้ในครัวเรือน LookKool, ธุรกิจโรงแรม Centara, รวมถึงการจัดจำหน่ายแบรนด์จากต่างประเทศ เช่น Marks & Spencers, Lee, F&F, Crocs, New Balance, Fila, Speedo และ Mizuno รวมทั้งธุรกิจออนไลน์อีก 2 ช่องทาง และมีการจัดจ้างงานกว่า 17,000 อัตรา
ไม่ใช่แค่ในส่วนของค้าปลีกเท่านั้น"โรงแรม" เป็นอีกส่วนที่เซ็นทรัลจะรุกเข้าสู่เวียดนาม คุณจริยา จิราธิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด มองว่า "การท่องเที่ยว" ของเวียดนามก็มีศักยภาพเช่นเดียวกัน จึงกลายเป็นโอกาสของเซ็นทรัล
3. ห้างสรรพสินค้าของเวียดนามยังไม่มีพัฒนาเท่ากับประเทศไทย
ข้อได้เปรียบอย่างยิ่งของ "เซ็นทรัล" ก็คือ พัฒนาการของห้างสรรพสินค้าที่ได้เรียนรู้มาจากการทำธุรกิจในประเทศไทยมานาน ซึ่งพฤติกรรมของผู้บริโภคเวียดนามที่เคยสัมผัสห้างสรรพสินค้ามา ยังมีไม่มากนัก ดังนั้น "เซ็นทรัล" จึงยกเอาโมเดลที่ประสบความสำเร็จมาแล้วในประเทศไทย แล้วปรับให้เข้ากับผู้บริโภคเวียดนาม ซึ่งก็ประสบความสำเร็จ ได้รับการตอบรับที่ดี
จนกระทั่งล่าสุด ได้เปิดศูนย์การค้าแห่งใหม่ (GO!) ตั้งอยู่ที่เมืองหมีถ่อ (My Tho) , จังหวัดเตี่ยนซาง (Tian Giang) เติมเต็มครบทุกความต้องการของลูกค้า โดยรวบรวม ร้านอาหาร สินค้าอุปโภคและบริโภค เครื่องแต่งกาย เครื่องใช้ภายในบ้าน รวมถึงบริการเพื่อความบันเทิง มาไว้ในที่เดียว ยกระดับมาตรฐานความเป็นอยู่ของคนใน เตี่ยนซาง และจังหวัดโดยรอบ เป็นศูนย์การค้าเชิงพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง
ด้วยแนวคิดใหม่และการลงทุนของกลุ่มเซ็นทรัล เวียดนาม จะช่วยเพิ่มเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเพิ่มขึ้น สร้างอาชีพและสร้างรายได้ให้แก่คนในพื้นที่กว่า 1,000 คน ทำให้เกิดการพัฒนาศักยภาพแรงงานและยกระดับคุณภาพการค้าและการให้บริการ ยกระดับเมืองหมีถ่อให้เป็นเมืองที่ห้ามพลาด (First Tier) ในจังหวัดเตี่ยนซาง
ศูนย์การค้า โก! หมีถ่อ (GO! My Tho) เกิดขึ้นภายใต้แนวคิด “Eat-Shop-Play” กิน ช้อป เที่ยว ครบจบในที่เดียว โดยมีทั้งหมด 3 ชั้น สามารถจอดรถจักรยานยนต์ได้ 1,500 คัน และรถยนต์อีก 150 คัน มีพื้นที่โดยรวมกว่า 18,742 ตร.ม. โดยแต่ละชั้นประกอบด้วย
