โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

3 สถานะความสัมพันธ์ ที่ควรจะไปต่อหรือพอแค่นี้

FWD

อัพเดต 17 มิ.ย. 2562 เวลา 13.06 น. • เผยแพร่ 17 มิ.ย. 2562 เวลา 13.05 น. • FWD Thailand

#ไปต่อหรือพอแค่นี้  ถ้าคุณลองค้นหาประโยคนี้ใน Google หรือ Social ช่องทางต่างๆ คุณจะได้พบกับความวาไรตี้ของปัญหาชีวิตทั้งชายหญิง ที่มาพร้อมกับโจทย์ของความรักที่ยังคิดไม่ตกว่าทางออกของปัญหานี้จะเป็นเช่นไร เพราะในเรื่องของความสัมพันธ์เป็นเรื่องของคนสองคน ที่คงไม่มีอะไรได้ดั่งใจเราไปหมดทุกอย่าง สุขใจ เสียใจ คลี่คลาย ยุ่งเหยิง วุ่นวาย เรียบง่าย หลายสิ่งหลายอย่างคือเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างคนสองคน และมันต้องไปต่อไม่ว่าจะเป็นเช่นไร แต่การไปต่อของแต่ละเรื่องราวนั้น ก็มีความต่างให้เราได้ใช้เป็นข้อคิดเสมอ เช่นเดียวกับเจ้าของเรื่องราว ที่ทุกท่านจะได้รับรู้ต่อจากนี้

CHAPTER 1:  เริ่มต้นด้วยการบอกลา จบลงด้วยคำว่า “อย่าไปกลัว

คุณเชื่อในอาถรรพ์ของความรักเมื่อครบ 3 5 7 หรือ 9 ปีไหม หรือบางคนบอกว่ายิ่งระยะเวลาการคบกันนานเท่าไหร่ความรักยิ่งมั่นคง แต่อาจใช้ไม่ได้กับเรื่องนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างหญิงสาวคนนี้และแฟนคนแรกของเธอ คู่นี้คบกันมากว่า 15 ปี แต่ท้ายที่สุดก็มีอันต้องจบลง

"กับแฟนคนนั้นก็คบกันมาตั้งแต่ตอนเรียน เป็นแบบป็อปปี้เลิฟ เราเป็นคนจีบเขาเองนะ ก็จะแบบเป็นผู้หญิงกล้าๆ หน่อย ความสัมพันธ์จากป็อปปี้เลิฟ ก็กลายเป็นความผูกพันธ์ ด้วยการที่เราก็คบกันมานาน มันก็จะมีเรื่องบางเรื่องที่เรารู้สึกอยากให้เขาแก้ แต่เขาก็แก้ไม่ได้สักที จนสะสมกลายเป็นความไม่โอเค และเปลี่ยนเป็นจุดที่เราใช้ตัดสินใจที่จะไม่ไปต่อกับความสัมพันธ์นี้”

นอกเหนือจากปัญหาที่สะสมมาตลอดระยะเวลาที่คบกันแล้วยังมีจุดเปลี่ยนสำคัญที่สุด ที่เป็นจุดแตกหักของเรื่องนี้ เมื่อเธอเริ่มจับพิรุธถึงความผิดปกติที่เปลี่ยนไปของแฟนคนนั้นได้ ในปีที่แพลนกันไว้ว่าจะแต่งงานกัน นั้นก็คือการนอกใจ

“คือเราก็มีแพลนกันไว้ว่าจะแต่งงานกัน เตรียมงานหลายๆ อย่างเอาไว้แล้ว แต่เรารู้สึกว่าเขาเปลี่ยนไป ก็เลยไปค้นจาก Facebook แล้วเราก็เจอว่าเขาคุยกับผู้หญิงคนอื่น เราก็ลุยเลย บุกไปหาเขาที่บ้านเลยเพื่อเคลียปัญหานี้ ก็ทะเลาะกัน และจบกันที่การที่เขาขอโทษและก็จะเริ่มต้นใหม่กับเรา เขาก็ไปบอกเลิกกับผู้หญิงคนนั้น พยายามหลายอย่างเหมือนกันเพื่อพิสูจน์ตัวเอง แต่ท้ายที่สุดมันก็ไม่รอดอ่ะ เพราะเราหมดความเชื่อใจในตัวผู้ชายคนนั้นไปแล้ว”

เธอเล่าต่อว่าจากนั้นก็ตัดสินใจบอกเลิกกับแฟนคนแรกคนนั้นไป และตัดสินใจไปต่อกับความรักครั้งใหม่ ที่ก็ยังคงได้เรียนรู้คนใหม่ พร้อมกับแนวคิดที่เติบโตกว่าเดิม และเลือกที่จะดูแลตัวเอง รักตัวเองมากกว่าเดิม และก็เป็นอีกครั้งที่ความสัมพันธ์จบลง ความรักครั้งนี้ไปต่อไม่ได้ และตัดสินใจเลิกกัน ในระยะเวลาความสัมพันธ์ 5 ปี ด้วยเหตุผลที่ว่าการอยู่คนเดียวอาจจะคือคำตอบของรักครั้งนี้

แต่โสดได้ไม่นาน ความรักครั้งใหม่ของเธอเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งหลังจากที่จบความรักครั้งก่อนไป ความรักครั้งนี้ดำเนินไปอย่างแบบค่อยๆ ไป เดินไปพร้อมๆ กัน มีแพลนการใช้ชีวิต เก็บเงินร่วมกัน ด้วยความคาดหวังว่าครั้งนี้จะเป็นการเริ่มต้นใหม่ครั้งสุดท้ายของความรักของเธอ
CHAPTER 2: เริ่มต้นด้วยการต้องเป็นกิ๊ก จบลงด้วยคำว่า “ครอบครัว “

ความรักที่น่าตื่นเต้นที่สุดในชีวิต คงเป็นความรักในช่วงวัยรุ่น วัยที่ได้ลอง ได้เรียนรู้ และได้สัมผัสกับคำว่าความรักในแบบหนุ่มสาว เช่นเดียวกับครีเอทีฟหนุ่มที่ผ่านประสบการณ์ความสัมพันธ์ในคำนิยามที่ถูกเรียกว่า “กิ๊ก” มาหลายต่อหลายครั้ง

“มีแฟนคนแรกตอนอยู่ปี 1 กับแฟนคนแรกนี้คบกันได้ไม่ถึงเดือน ก็มีอันต้องจบความสัมพันธ์ลงด้วยเหตุผลด้านเวลาที่ไม่เพียงพอต่อการคบกัน จากนั้นก็ได้รู้จักกับผู้หญิงอีกคน ก็คุยกันแต่สุดท้ายก็ไม่ได้คบกันเพราะรู้ทีหลังว่าเขาเองมีแฟนอยู่แล้ว ความสัมพันธ์ตอนนั้นเลยถูกจำกัดไว้แค่การเป็นกิ๊ก”

และสิ่งที่ยิ่งทำให้เราเซอร์ไพรส์เข้าไปอีกคือการที่หนุ่มครีเอทีฟคนนี้เขาบอกเราว่าที่ผ่านมาตอนมีแฟน เขามักเจอกับการที่ต้องวางตัวเองอยู่ในสถานการณ์เป็นแค่ “กิ๊ก” อยู่หลายต่อหลายครั้ง

“ตอนที่เลิกกับผู้หญิงคนที่เรารู้ว่าเขามีแฟนอยู่แล้ว ก็เลยตัดสินใจยุติความสัมพันธ์ในครั้งนั้น และจังหวะที่เราเฮิร์ทๆ อยู่นั้น ก็มีโอกาสได้ไปรู้จักกับผู้หญิงอีกคนที่เขาเป็นเพื่อนของเพื่อนเรา สำหรับคนนี้ก็เรียกได้ว่าชอบเขาจริงๆ เขาแบบว่าตรงสเปกแบบที่เราชอบ เรียกได้ว่าถูกใจมาก ก็คุยกัน และก็คิดไปถึงขั้นที่จะเลือกใช้ชีวิตกับคนนี้แหละ แต่ที่พีคอีกก็คือผู้หญิงคนนี้เขาเองก็มีแฟนอยู่แล้ว อีกแล้ว และการคบกับเขาเรากดดันมากด้วยความคาดหวังของเขาที่ต้องการให้เราดูเป็นผู้ใหญ่ แต่เราเป็นให้เขาไม่ได้ ”

อีกครั้งที่หนุ่มคนนี้ตกอยู่ในสภาวะลังเลกับปัญหาความรักในครั้งนี้ว่าเลือกไปต่อกับคนนี้ หรือเลือกที่จะพอแล้วจบเรื่องราวความรักนี้ลง  ซึ่งท้ายที่สุดนั้นบทสรุปของความรักรอบนี้จบลงที่ความเป็นเพื่อน แต่ในเรื่องของความรักคนที่ใช่ยังไงก็ได้เจอกัน ไม่นานก็เริ่มต้นความรักครั้งใหม่ และครั้งนี้ได้กลายเป็นรักครั้งสุดท้ายในชีวิต

“แล้วเราก็ได้เจอกับแฟนคนปัจจุบัน เขาเป็นคนที่ทำให้เรารู้สึกเป็นห่วง อาจจะไม่ได้หลงเท่าคนที่ผ่านมา อาจจะทะเลาะกันบ่อย แต่ก็ช่วยให้เราเข้าใจกันมากขึ้น รู้วิธีการบริหารความสัมพันธ์ได้ดีมากขึ้น ก็อยู่ด้วยกัน และก็มีลูกด้วยกัน 2 คน”

ความสัมพันธ์บทนี้แม้เริ่มต้นมาจากความไม่ชัดเจนของสถานะ แต่ท้ายที่สุดถ้าเราเลือกไปต่อในสิ่งที่เราคิดว่าใช่ อาจจะเจ็บบ้าง แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ถึงตอนจบในแบบที่ Happy Family  เหมือนกับเรื่องราวของเขาคนนี้นั่นเอง

CHAPTER 3: เริ่มต้นด้วยความไม่เข้าใจ จบลงด้วยคำว่า “ปรับตัว”

ความสัมพันธ์ของมนุษย์บนโลกใบนี้ นอกเหนือจากความสัมพันธ์ในแบบคู่รักแล้ว ความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวก็ถูกจัดอยู่ในหนึ่งของความสัมพันธ์เช่นกัน เหมือนกับเรื่องราวของนักเขียนออนไลน์ท่านนี้ ที่เกิดคำถามเช่นกันว่า ความสัมพันธ์ของแม่ลูกควรไปต่อหรือพอแค่นี้?

“พี่ถูกเลี้ยงมาโดยยาย และก็มาอยู่กับแม่ตอนที่อยู่มัธยมปลาย ถูกสอนโดยยายให้สามารถทำทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง แล้วคือเรารู้ว่าแม่เรามีความเยอะในระดับหนึ่ง เขาเป็นคน Perfectionist เขาชอบทำสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเขาเอง แต่บางครั้งพอเขาเหนื่อย เขาก็จะเริ่มมาพาลกับคนอื่นๆ ในครอบครัว ซึ่งบางครั้งเราก็รู้สึกว่ามันไม่โอเค และมันก็มีปัญหาแบบนี้อยู่หลายครั้ง เราเองก็ไม่โอเค และก็เคยแบบจะตัดแม่ตัดลูกกับเขา”

นักเขียนคนนี้บอกถึงพื้นหลังของครอบครัวมาให้เราได้รู้ว่าด้วยความที่แม่มีลูก 3 คน แต่ละคนมีบุคลิกที่ต่างกัน การดูแล เลี้ยงดูเลยต่างกัน และด้วยความที่ติดออกจะดื้อสักหน่อยของคุณแม่นักเขียนออนไลน์คนนี้เลยทำให้อาจจะหลุดโฟกัสในความรู้สึกของลูกๆ ไปบ้าง และอาจจะด้วยการที่เราสื่อสารกันน้อยในครอบครัว เลยอาจจะทำให้ต่างคนเข้าใจกันไม่เต็มที่ แต่ทุกสิ่งก็สามารถปรับได้ด้วยการหันมาคุยกัน แชร์กัน และเห็นอกเห็นใจกัน

“พี่ก็มีเข้าไปหาแม่บ่อยนะ เพราะตัวพี่อยู่คอนโด ส่วนแม่อยู่ที่บ้าน อย่างวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ หรือตอนเย็นหลังเลิกงาน แต่บางทีเราเข้าไปหาเขาแล้ว เขาก็จะแบบให้เรารีบกลับบ้าน ก็รู้แหละว่าเขาเป็นห่วง แต่เขาก็จะไม่ได้พูดออกมาตรงๆ และพอมันเกิดปัญหาที่แม่ชอบหนีออกจากบ้าน เพราะงอนลูกๆ พี่ก็เลยคิดว่าจะย้ายกลับไปอยู่ที่บ้าน จะได้มีเวลาใกล้ชิดกับแม่ได้มากขึ้น”

ความสัมพันธ์ที่ตัดได้ยากที่สุดในโลกใบนี้ คงจะหนีไม่พ้นความสัมพันธ์ของตัวเราเองกับผู้ให้กำเนิด ต่อให้ไม่เข้าใจกันแค่ไหน หรือตัดกันไปอย่างไร ก็คงตัดขาดได้ยาก ทุกครั้งที่เกิดปัญหาอยากให้ลองหันหน้าคุยกันอย่างสันติในครอบครัวกันก่อน ย่อมเป็นทางออกของการไปต่อในความสัมพันธ์นี้ได้ดีที่สุด

จากทั้ง 3 เรื่อง 3 สไตล์ 3 ทางเลือกของชีวิต ท้ายที่สุดแล้ว ไม่ว่าคุณเลือกจะไปต่อหรือพอแค่นี้ และถึงแม้จะต้องเริ่มต้นใหม่อีกสักกี่ครั้ง เรื่องของความสัมพันธ์ก็ยังคงเป็นสิ่งที่ผูกเธอกับฉันเอาไว้อยู่ดี และถูกตั้งชื่อเอาไว้ต่างกัน ทั้งคู่รัก พ่อแม่ ครอบครัว อยู่ที่ว่าคุณจะบริหารความสัมพันธ์ต่างๆ เหล่านั้นให้ยังคงอยู่ได้นานแค่ไหน เท่านั้นเอง

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0