โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

3 ประโยคเด็ด ปฏิเสธกู้เงินให้ญาติ

Wealth Me Up

เผยแพร่ 17 ก.ย 2562 เวลา 03.28 น. • Wealth Me Up

 

ใช้แรงทำเงิน& ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…

Facebook | Line | Youtube | Instagram

 

เมื่อมีญาติมาขอให้กู้บ้านกู้รถ ไม่ว่าจะเป็นฝากกู้หรือกู้ร่วม แล้วให้คำมั่นสัญญาว่า “ไม่ต้องห่วง ไม่ทำให้เดือดร้อนหรอก” คงไม่ต่างอะไรจากสุภาษิต “เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง เอากระดูกมาแขวนคอ”

 

แล้วเราจะมีประโยคเด็ดอะไรไว้ปฏิเสธแบบไม่เสียน้ำใจกัน

 

ผ่อนหนี้เยอะแล้ว ไม่น่ากู้ผ่าน

 

คนเป็นหนี้มักไม่ป่าวประกาศให้ใครได้รู้กันสักเท่าไร ไม่ว่ายอดหนี้หรือยอดผ่อน เพราะเป็นข้อมูลส่วนตัวและอาจถูกคาดเดารายได้ครอบครัวได้ง่าย

 

“ตอนนี้ ผ่อนหนี้เยอะแล้ว ไม่แน่ใจว่ากู้ได้อีกไหม” จึงเป็นประโยคที่สื่อว่า แม้ใจอยากช่วย แต่ธนาคารคงไม่ปล่อยกู้ให้อีก โดยเฉพาะคนที่มีภาระผ่อนหนี้เกิน 40%-60% ของรายได้แต่ละเดือน

และคงมีญาติไม่กี่คน ที่จะมาค้นหาความจริงกับเราต่อว่า ที่ว่าผ่อนเยอะคือเท่าไหร่? ผ่อนเกินครึ่งของเงินเดือนแล้วเหรอ? ลองยื่นกู้ให้ก่อนได้ไหมเผื่อฟลุค!

 

กำลังคิดจะกู้เหมือนกัน

 

อย่างที่บอก ธนาคารมักยอมให้เราผ่อนหนี้รวมไม่เกิน 40%-60%ของรายได้แต่ละเดือน ดังนั้นการกู้เดี่ยวหรือกู้ร่วมให้ญาติย่อมทำให้มีภาระผ่อนเกิดขึ้น ส่งผลให้ต่อไปหากคิดจะกู้อะไรเป็นของตนเองแล้ว คงทำได้ยากหรือแทบไม่ได้เลย

 

การปฏิเสธไปตรงๆ ด้วยเหตุผลว่า อยากรักษาประวัติเครดิตไว้กู้ซื้อบ้าน/คอนโดหลังใหม่หรือรถยนต์คันใหม่ในอนาคต ไม่ว่าจะภายใน 5-7 ปี หรือ 20-30 ปี ล้วนเป็นเหตุผลที่มีน้ำหนักเพียงพอให้ปฏิเสธได้โดยไม่ผิดใจกัน

 

แม้มีญาติขอต่อรองว่า ไม่เป็นไรเดี๋ยวถึงตอนนั้นจะช่วยกู้ช่วยผ่อนให้… แต่อนาคตคือสิ่งที่ยังมาไม่ถึง เราไม่มีทางรู้เลยว่าเมื่อถึงตอนนั้น ญาติจะพร้อมช่วยเราได้แค่ไหน แต่ที่แน่ๆ หนี้ที่เราช่วยญาติตอนนี้จะผูกพันเราไปอีกนาน

 

ขอถามแฟนก่อน

 

ท่าไม้ตายท้ายๆ สำหรับญาติที่ไม่ได้สนิทจริงๆ ไม่ได้คุ้นเคยกับแฟนและญาติผู้ใหญ่ของแฟน

 

อาจปฏิเสธว่า ขอปรึกษาแฟนก่อน หรือพ่อแม่แฟนไม่ค่อยสบายใจถ้าจะต้องเป็นหนี้อีก เพราะแค่คำว่า “พ่อแม่ไม่สบายใจ” ก็มีน้ำหนักมากพอ ที่ลูกเขย/ลูกสะใภ้ ที่ดีต้องทำ แม้พ่อแม่จะไม่ได้แสดงออกอย่างเปิดเผยก็ตาม

 

เสียหน้าเพราะดูกลัวภรรยา หรือเกรงใจสามี ยังดีกว่าต้องเสียญาติ (ที่น่าจะดี) ในระยะยาว เพราะตลอดสัญญากู้ 20-30 ปี อาจมีบางช่วงบางเดือน ที่เราหรือญาติต้องเผชิญอุปสรรคทางการเงินที่ส่งผลต่อการจ่ายค่าผ่อนบ้าน ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้น เชื่อได้ว่าจะผิดใจกันมากกว่าตอนปฏิเสธครั้งนี้อย่างแน่นอน

 

เซย์ “No” ก่อนสตาร์ท ดีกว่า บาดหมางกันตอนผิดใจ

 

 

#WealthMeUp

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0