เราอาจคิดว่าตัวเองรู้แล้วว่าโรควิตกกังวลนั้นเป็นอย่างไร (มือสั่น หายใจตื้น) และทำให้เกิดปฏิกิริยาอย่างไร (ฉันทำแบบนี้ไม่ได้ ถ้าฉันทำไม่ได้จะเป็นอย่างไร?) ว่าแต่โรควิตกกังวลจะให้ความรู้สึกอย่างไร? เรามักมุ่งเน้นไปที่ความคิดฟุ้งซ่านและอารมณ์ที่มาพร้อมกับโรควิตกกังวล เราลืมนึกถึงอาการทางกายภาพ คุณสามารถรู้สึกได้ถึงผลกระทบทางกายภาพโดยไม่รู้ตัวว่าความวิตกกังวลนั่นแหละคือสาเหตุ โรควิตกกังวลจะส่งผลกระทบต่อทั้งร่างกายและจิตใจของคุณ งั้นเรามาดูกันดีกว่าว่าอาการทางกายภาพของโรควิตกกังวลนั้นเป็นอย่างไรและให้ความรู้สึกเช่นไรบ้าง
1
มิเชลล์ พี. กล่าวว่า “เมื่อฉันมีอาการวิตกกังวลสูง ฉันมักจะปวดเกร็งท้องอย่างรุนแรงและเข้าห้องน้ำตั้งแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉันทำได้แค่รอเท่านั้น”
2
คริสเต็น จี. กล่าวว่าเธอจะรู้สึกกระสับกระส่ายหลังจากโรคแพนิคกำเริบ ไม่สามารถนั่งนิ่งๆได้และถัดมาอีก 2-3 วันก็จะรู้สึกหมดแรงทั้งร่างกายและจิตใจจนไม่สามารถขยับเขยื้อนได้เลย
3
ราเชล เจ. กล่าวว่าหัวใจจะเริ่มเต้นเร็วทำให้หายใจแทบไม่ออกแล้วก็คลื่นไส้ พอคลื่นไส้ก็ทำให้อาการของโรควิตกกังวลแย่ลงอีกซึ่งทำให้หัวใจเต้นเร็วและคลื่นไส้มากขึ้น เป็นวนอยู่อย่างนี้ทำอะไรไม่ได้เลย
4
โมนิก้า เอ็ม. กล่าวว่าผลพวงจากความตื่นตระหนกทำให้ฉันรู้สึกหวาดกลัวจนหนาวสั่น แม้แต่เสื้อแจ็คเก็ตหรือผ้าห่มก็ช่วยไม่ได้ ทำได้แค่ต้องทนจนกว่าอาการจะหายไปเอง
5
อเล็กซานดร้า ซี. เล่าว่า “ฉันปวดหลังมากและทุกครั้งที่เป็นก็จะรู้สึกว่าหลังแข็งและปัญหาใหม่ก็จะเกิดขึ้น ฉันพยายามรักษาด้วยการนวดและการบำบัดอื่นๆแต่ดูเหมือนว่าไม่ได้ผลเลย”
6
ฮีธเทอร์ ดี. กล่าวว่า “ฉันมีอาการใจสั่นรุนแรงทุกคืนจนเดาว่าตัวเองน่าจะเป็นโรคหัวใจแต่เมื่อไปตรวจหมอกลับบอกฉันว่านี่เป็นเพียงอาการของโรควิตกกังวลเท่านั้น”
7
อเล็กซ่า เค. เล่าว่า “ฉันจะเริ่มรู้สึกคันหนังศีรษะหรือหนังใต้เล็บมือบางครั้งก็ดูซีดกว่าปกติและมึนงงเล็กน้อย นอกจากนี้ก็ยังมีอาการคลื่นไส้ เหงื่อออก และรู้สึกเหมือนลิ้นคับปากจนแทบพูดไม่ได้”
8
แอมเบอร์ ดับเบิ้ลยู. เล่าว่า “เมื่อฉันรู้สึกวิตกกังวล กระบังลมก็จะแข็งขึ้นมาดื้อๆ ฉันหายใจลึกๆไม่ได้และบางครั้งก็แทบจะหายใจไม่ออกเลย สุดท้ายฉันต้องหายใจตื้นๆและเผลอกลั้นหายใจโดยที่ไม่รู้ตัว”
9
โคเนอร์ แอล. กล่าวว่า “บางครั้งเมื่อรู้สึกเครียดหรือวิตกกังวลมากๆฉันจะมีอาการป่วยทางกายเนื่องจากร่างกายมีการหลั่งอะดรีนาลินมากเกินไป”
10
แอมเบอร์ บี. บอกว่า “ฉันมีอาการใจสั่นเป็นประจำ อัตราการเต้นของหัวใจจะอยู่ที่ 90 เสมอ จากนั้นก็จะรู้สึกปวดท้อง ปวดศีรษะ ปวดเกร็งกล้ามเนื้อ พอขยับผิดท่าหน่อยฉันจะรู้สึกปวดตึงบริเวณท้ายทอยหรือหลัง”
11
คริสติน่า พี. เล่าว่า “ความวิตกกังวลทำให้ฉันปวดไปทั่วร่างกาย เจ็บหน้าอกเหมือนหัวใจจะวาย หลายคนมักคิดว่าฉันเป็นไข้หวัดใหญ่ เสียงของฉันเริ่มอู้อี้ แต่สิ่งที่ช่วยฉันได้คือไอศกรีมและการประคบเย็นซึ่งจะทำให้อัตราการเต้นของหัวใจช้าลงและทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลาย”
12
เอลิซาเบธ อี. กล่าวว่า “ฉันจะรู้สึกตึงบริเวณท้ายทอย ปวดท้อง และรู้สึกคลื่นไส้มาก กัดฟันโดยไม่รู้ตัวและรู้สึก ‘หนักอึ้ง’ และเหนื่อยล้า หัวใจเต้นเร็วและไม่อยากเจอใครเมื่อรู้สึกเครียด นอกจากนี้ยังเหมือนว่าตัวสั่นทุกครั้งที่ตื่นเต้นและมองไปตรงๆไม่ได้”
13
ฮันนาห์ วาย. เล่าว่า “เมื่อมีอาการฉันจะรู้สึกหวิวๆและเวียนศีรษะ คล้ายจะเป็นลม จู่ๆหัวใจก็เต้นเร็วโดยเฉพาะเมื่ออยู่ในร้านขายของชำ”
14
คิท เค. กล่าวว่า “ขึ้นอยู่กับประเภทของความวิตกกังวล ปกติจะเริ่มด้วยอุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น เหงื่อออก หัวใจเต้นเร็วและแรง วิสัยทัศน์เริ่มพร่ามัว เสียงรอบข้างเหมือนกำลังจะกลืนกินฉัน ไม่มีสมาธิ มือเริ่มสั่นและอยากกรีดร้องใส่ทุกคน”
15
เคท แอล. บอกว่า “ฉันจะมีอาการตื่นเต้นสุดๆ กล้ามเนื้อหดเกร็งและปวดข้อ ไมเกรนกำเริบ ได้ยินกระทั่งเสียงหัวใจเต้น เจ็บหน้าอก หายใจขัด แขนขาชาจนคนรอบข้างคิดว่าฉันกำลังจะหัวใจวาย แถมยังปวดกรามเนื่องจากนอนกัดฟัน”
16
เฟือง เอ็น. กล่าวว่านอกจากอัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้นยังรู้สึกอึดอัดในช่องท้อง และพูดตะกุกตะกัก ควบคุมการพูดไม่ได้ พูดเร็วมากจนหายใจไม่ทัน ลิ้นพันกัน คำพูดจับใจความไม่ได้
17
ซาราห์ จี. กล่าวว่า “เสียงของฉันจะแหบและเครียดมาก เป็นอาการที่แปลกแต่เกิดขึ้นเกือบทุกครั้งที่ออกจากบ้านหรือคุยโทรศัพท์”
18
เอมิลี่ บี. บอกว่า “ทุกครั้งที่ควบคุมอาการวิตกกังวลไม่ได้ มันจะกลายเป็นฝันร้ายที่น่ากลัวมาก ฉันจะเริ่มกัดเล็บ จิกหนังศีรษะ กระตุก สั่น หายใจไม่ออก”
19
แคลร์ เอ. กล่าวว่า “ฉันจะรู้สึกเวียนศีรษะ คลื่นไส้ ปวดศีรษะ ปวดท้อง แต่ล่าสุดฉันเพิ่งสังเกตว่าฉันจะสติแตกสุดๆเมื่อเห็นเลือดออกตามไรฟัน”
20
มาเลีย อาร์. เล่าว่า “ฉันกับแฟนเป็นโรควิตกกังวลทั้งคู่และเมื่อฉันรู้สึกกังวลมากๆร่างกายก็จะมีผื่นแดงและคันซึ่งทำได้แค่รอจนกว่าจะหาย ส่วนแฟนของฉันจะมีแผ่นสากๆคล้ายผิวมังกรแถมยังคันมากๆด้วย”
21
คอร์ทนีย์ บี. บอกว่า “เมื่อรู้สึกโกรธจัด ความดันเลือดจะพุ่งสูงปรี๊ดเหมือนร่างกายจะระเบิดออกมาบวกกับความรู้สึกสิ้นหวังเนื่องจากไม่สามารถ ‘ตรวจ’ ตัวเองได้”
22
ซาแมนธา เอส. กล่าวว่า “หลังของฉันจะปวดตึง แล้วก็จะปวดอยู่อย่างนั้นจนกว่าความวิตกกังวลจะลดลงไป”
23
แคนดิซ แอล. เล่าว่า “ฉันจะเงียบ คิดอะไรไม่ออก ลืมว่าจะไปไหนหรือกำลังทำอะไรอยู่ ง่วงนอน ควบคุมอาการง่วงไม่ได้จนต้องไปตรวจว่าเป็นโรคลมหลับหรือเปล่า”
24
เพิร์สโฟน เอ. บอกว่า “ฉันจะรู้สึกคลื่นไส้ ควบคุมอาการสั่นไม่ได้ หัวใจเต้นเร็ว เหงื่อออกที่ฝ่ามือ ร้อนวูบวาบ กล้ามเนื้อตึง กัดฟัน และตกใจง่ายมาก น่ากลัวและเหนื่อยมาก”
