จากคำบอกเล่าของ เพิ่มศักดิ์ วรรลยางกูร ในหนังสือเมืองไทยในอดีต, จอห์น ลอฟตัส ชาวเดนมาร์ก ได้ขอสัมปทานจัดการ “รถราง” ขึ้นในสยาม เมื่อ พ.ศ. 2430 ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชานุญาตให้ลอฟตัสดำเนินงานได้
จอห์น ลอฟตัส ได้ทำพิธีเปิดเดินรถรางเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2431 โดยใช้ม้าลากไปตามราง จุดขายสำคัญของรถรางคือความสะดวกสบาย ไม่สะเทือนเหมือน “รถเจ๊ก” (คำที่ เพิ่มศักดิ์ ใช้เรียก “รถลาก”) แต่ก็มีปัญหาเรื่องการใช้งานม้าหนักจนหมดแรงหลายครั้ง
“แม้จะมีระยะสับเปลี่ยนม้าอย่างว่า แต่ม้าก็ทนไม่ไหว ถึงจะได้พักผ่อนบ้างแต่ก็น้อย เพราะประเดี๋ยวรถคันหลังก็ตามมาเปลี่ยนเสียอีก ม้าลากรถรางจึงผอมโซ เคยมีอันเป็นต้องล้มลงกลางทางเสมอ เพราะหมดแรงไปไม่ไหว” เพิ่มศักดิ์กล่าว
เพิ่มศักดิ์กล่าวว่า จอห์น ดำเนินกิจการได้ไม่นานก็โอนกิจการให้บริษัทบางกอกแทรมเวย์คอมปะนีลิมิเต็ด และในปี 2435 กิจการก็ถูกขายต่อให้กับบริษัทสัญชาติเดนมาร์ก (ไม่ทราบชื่อ) อีก โดยบริษัทหลังนี้ได้หยุดกิจการชั่วคราว เพื่อเปลี่ยนไปใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยกระแสไฟฟ้าแทน
โดยตกลงเช่ากระแสไฟฟ้าจากบริษัทอีเลคทริคซิตี้คอมปะนีลิมิเต็ด และเริ่มเดินรถรางไฟฟ้าเป็นครั้งแรก เมื่อเดือนพฤษภาคมพ.ศ. 2437 ทำให้ไทยมีรถรางไฟฟ้าใช้ก่อนหน้าประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำหลายประเทศ
กิจการ รถราง เมื่อเริ่มใหม่ๆ ก็เป็นที่นิยมของประชาชนทั่วไป แต่ด้วยแรกทีเดียวกรุงเทพฯ ยังมีประชากรน้อย คนใช้ก็ไม่มาก กิจการจึงล้มลุกคลุกคลานเปลี่ยนมือหลายครั้ง ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 เล็กน้อยเมื่อมีผู้คนในพระนครมากขึ้นกิจการรถรางจึงกระเตื้องขึ้นมาก
แต่เมื่อพ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 ทางเลือกในการคมนาคมมากขึ้น รถรางก็เสื่อมความนิยม และยกเลิกไปในวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2511
อ่านเพิ่มเติม :
- ตามรอย “รถราง” ระบบขนส่งมวลชนแรกสุดในกรุงเทพฯ
- เบื้องหลังการทำแผนที่เมืองไทย “ฉบับแรก” ในสมัยรัชกาลที่ 5
- ย้อนตำนาน “เรือดำน้ำ” 4 ลำแรกของกองทัพเรือไทย
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 22 กันยายน 2561