โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

2 พรรคจัดหนัก-จับจอง มหาดไทย-พาณิชย์-พลังงาน

ไทยรัฐออนไลน์ - Politics

เผยแพร่ 22 พ.ค. 2562 เวลา 22.30 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

ให้เป็นของประชาธิปัตย์ ‘ภูมิใจไทย’ ก็ไม่น้อยหน้า คมนาคม-สธ.-ท่องเที่ยว

ปชป.-ภท.จับมือแน่นต่อรองร่วมรัฐบาล “มนตรี ปาน้อยนนท์” ย้ำ “อนุทิน-เสี่ยต่อ” ไปไหนไปกัน ภท.หวังสูงขอคุมคมนาคม-สธ.-ท่องเที่ยว ส่วน ปชป.ดู มท.-พาณิชย์-พลังงาน ขู่ถ้าไม่ตอบสนองอาจตั้งขั้วที่ 3 ศึกใน ปชป.ยังระอุ “พีระพันธุ์” โต้แหลกไม่มีใครกรีดใคร “เชาว์” ตอก “วรงค์” แค่กาฝาก “อุตตม- สนธิรัตน์” ปรับเกมอุตลุดต่อรองโควตาพรรคร่วม “สมคิด” อยากให้ตั้งรัฐบาลจบเร็วๆ พท.ถกเครียดผนึกขั้วเดิม 7 พรรคสู้ จ่อส่งคนแข่งชิงประธาน-รองประธานสภาฯ “เจ๊หน่อย” ฉะพวกตระบัดสัตย์กลัวตกรถ 50 ส.ว. ก่อหวอดต้าน “พรเพชร” นั่งประธานวุฒิ “ปิยบุตร” ยังข้องใจมาตรฐาน กกต. ยันกฎหมายไม่ห้ามพรรคกู้เงิน “ศรีสุวรรณ” ชงป.ป.ช.สอบสองบิ๊ก คสช.ตั้ง ส.ว.พวกพ้อง กลุ่มต้านรวมตัวรำลึก 5 ปี คสช. เป่าเค้กเย้ย “5 ปีแล้ว น้องไหวเหรอ” “หมอทศ” โชว์ภาพคนไม่ทน คสช.

การเดินเกมเจรจาจัดตั้งรัฐบาลยังเป็นที่จับตาของสังคม หลังนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จับมือนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศไปไหนไปกัน โดยพรรคภูมิใจไทยยื่นเงื่อนไขขอคุมกระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ ขอดูกระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงพลังงาน

“อนุทิน–เสี่ยต่อ” จับมือกันแน่น

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 22 พ.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายมนตรี ปาน้อยนนท์ ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์ คนสนิทของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการนัดหารือระหว่างนายอนุทิน ชาญวีรกูล พรรคภูมิใจไทย และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ที่ร้านอาหารทีเฮ้าส์ ย่านถนนพระรามหก เมื่อวันที่ 21 พ.ค.ว่า เป็นการรับประทานอาหารร่วมกันครั้งที่สอง และมีการพูดคุยตามที่นายอนุทินชี้แจงไว้ในเฟซบุ๊ก คือไปทำงาน พูดคุยกันว่าเราต้องการทำงานอะไรด้านไหน แกนนำทั้ง 2 พรรคต่างยืนยันจะจับมือเดินไปด้วยกัน ไม่มีแตกแยก หรือปล่อยมือทิ้งกัน ถ้าข้อเสนอที่บอกไปได้รับการตอบรับ

ขอคุม มท.–คมนาคม–พณ.–สธ.

นายมนตรีกล่าวอีกว่า โดยพรรคภูมิใจไทยต้องการบริหารงานต่อยอดจากนโยบายที่หาเสียงไว้คือ กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข เพื่อปลดล็อกกัญชาเป็นยารักษาโรค และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อต่อยอดงานด้านกีฬา และบูมจังหวัดที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยว ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ขอกระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาพืชผลการเกษตรตกต่ำ และกระทรวงพลังงาน แต่ถ้าไม่ได้ตามนี้ เราก็ยืนยันว่าจะจับมือกัน ส่วนจะพิจารณาเป็นขั้วที่ 3 หรือไม่นั้นตนไม่ทราบ

ถ้าไม่ตอบสนองอาจตั้งขั้วที่ 3

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการหารือดังกล่าว ตัวแทนพรรคพลังประชารัฐเสนอโควตาตำแหน่งรัฐมนตรีมาให้ทั้งสองพรรค พรรคละ 7 ตำแหน่ง อยู่ที่สูตร รัฐมนตรีว่าการ 3 กระทรวงหลักเกรดเอ และ 4 รัฐมนตรีช่วย หรืออาจเป็น 3 กระทรวงหลักบวก 1 รองนายกรัฐมนตรี และ 3 รมช. นอกจากกระทรวงหลักที่ทั้ง 2 พรรคระบุไปแล้ว ไม่มีการระบุขอตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการแต่อย่างใด แต่หากข้อเสนอร่วมของทั้ง 2 พรรคไม่ได้รับการตอบสนอง ทั้ง 2 พรรคอาจพิจารณาเป็นขั้วที่ 3 โดยมีการประสานกับพรรคขนาดเล็กอีก 2 พรรค คือชาติไทยพัฒนาที่มี 10 ที่นั่ง และพรรคชาติพัฒนาอีก 3 ที่นั่ง รวมเป็น 116 ที่นั่ง เพราะเห็นว่าพรรคหลักทั้ง 2 ขั้วมีจุดยืนที่ต่างกันมาก ไม่ว่าขั้วใดตั้งรัฐบาลได้ก็จะเป็นเสียงปริ่มน้ำ หรืออาจเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ทำให้มีปัญหาในการบริหารราชการ และที่สุดจะกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาล และอาจเป็นรัฐบาลที่อายุสั้น

“มาร์ค” ไม่รู้เรื่องร่วมหอ พปชร.

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นกรณีนาย เฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค ร่วมหารือพูดคุยกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โดยนายมนตรีระบุว่า ได้ข้อยุติในการเข้าร่วมรัฐบาลแล้ว โดยแพ็ก ส.ส. 103 คนร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ ว่า ไม่ทราบรายละเอียด เรื่องนี้ต้องไปถามนายมนตรีเอง เพราะไม่ได้ร่วมพูดคุยด้วย เมื่อถามถึงกระแสข่าวนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคฯ จะได้รับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร นายอภิสิทธิ์ปฏิเสธที่จะตอบคำถามรวมถึงประเด็นการลาออกจาก ส.ส. หากพรรคประชาธิปัตย์ไปร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ

“รัชดา” ชี้อย่ามโนคิดเองเออเอง

วันเดียวกัน น.ส.รัชดา ธนาดิเรก อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กกรณี ม.จ.จุลเจิม ยุคล หรือท่านใหม่ ระบุพาดพิงถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ โดยยกนโยบายชูการกระจายอำนาจเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นการล้มล้างการปกครอง รวมถึงนโยบายที่ น.ส.รัชดาเคยใช้รณรงค์หาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา ว่า ยุคโซเชียลมีเดียคนเป็นนักการเมืองต้องหนักแน่น อยู่อย่างเปิดใจให้มากกว่าเดิม เรียนรู้สิ่งใหม่ และเสียงสะท้อนจากการรับฟัง ต้องรู้จักที่จะไม่ให้ราคากับเรื่องที่ไม่เข้าท่า แยกแยะให้ได้สิ่งใดคือเรื่องจริง ความเห็น หรือข่าวลือ คนเป็นนักการเมืองต้องกล้าใช้โซเชียลมีเดียเป็นพื้นที่แสดงจุดยืน อธิบายแนวคิดและนโยบายในการพัฒนาบ้านเมืองอย่างเท่าทันสถานการณ์ ที่สำคัญใช้ด้วยความรับผิดชอบ จะไปวิจารณ์ด้วยจินตนาการ คิดเองเออเอง ขาดความเข้าใจในที่มาที่ไปไม่ได้เด็ดขาด นักการเมืองจะ ล้มละลายทางคำพูดไม่ได้

“เชาว์” ตอก “วรงค์” แค่กาฝาก

นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กตอบโต้ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก ที่พาดพิงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ว่า คนกลุ่มนี้เสนอคนมาเป็นหัวหน้าพรรคมา 2 ครั้งแล้ว แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ หากมีน้ำใจนักกีฬา คิดว่าพรรคคือบ้านที่ต้องช่วยกันปกป้องรักษา ทุกอย่างน่าจะจบ แต่ที่ไม่จบเพราะแพ้แล้วไม่ยอมแพ้ มีการพาดพิงถึงผู้ใหญ่ในพรรคว่าเข้าไปแทรกแซงถือเป็นวิธีคิดที่ประหลาด นพ.วรงค์ย่อมรู้แก่ใจดีว่ามีการแทรกแซงจากภายนอกหรือไม่ ท่านมีจุดยืนชัดเจนสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ แต่ยังพ่ายแพ้ในสนามเลือกตั้งให้พรรคอนาคตใหม่ ย่อมเป็นตัวชี้วัดได้ว่า นพ.วรงค์จะบริหารพรรคดีกว่าอดีตผู้บริหารคนเก่าจริงหรือไม่ “ปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้คิดถึงความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศที่ต่างชนิดกัน ผู้อาศัยคือผู้ที่ได้รับประโยชน์จากผู้ให้อาศัย เช่น ต้นกาฝากที่เกาะเกี่ยวบนต้นไม้ใหญ่ ความสัมพันธ์แบบนี้หากปล่อยไป กาฝากอาจแย่งอาหารจนต้นไม้ใหญ่ถึงตายได้ ถ้าทุกคนคิดว่าประชาธิปัตย์เป็นบ้านจริง ต้องช่วยกันทำนุบำรุงบ้านหลังนี้ ไม่ใช่คอยแซะบ่อนทำลายไม่เลิก”

“พีระพันธุ์” โต้ไม่มีใครกรีดใคร

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “วาจาจริงเป็นสิ่งไม่ตาย” ความจริงไม่อยากพูดเรื่องการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อีก เพราะยังคงรักษาวิถีปฏิบัติที่ควรทำคือให้จบในที่ประชุม ตามที่ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคฯบอก แต่กลับมีข่าวในทำนองตนถูกประธานสภาที่ปรึกษาฯเชือดบ้าง ถูกกรีดบ้าง พูดกันแบบตรงไปตรงมาแบบสุภาพบุรุษแบบลูกผู้ชาย ไม่เห็นว่ามีใครเชือดใครหรือกรีดใคร มีการบันทึกเสียงของทุกคนไว้โดยเจ้าหน้าที่พรรค จึงให้เพื่อน ส.ส.คนหนึ่งไปติดต่อขอข้อมูลการบันทึกเสียงของตนจากเจ้าหน้าที่ แต่เจ้าหน้าที่ปฏิเสธอ้างว่าต้องให้หัวหน้าพรรคอนุญาตก่อน อยู่พรรคนี้มา 27 ปี นี่เป็นครั้งแรกที่ ส.ส.จะขออะไร ต้องให้หัวหน้าพรรคอนุญาตก่อน โดยเฉพาะที่เป็นสิทธิส่วนตัวเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เป็นไรเพราะยึดมั่นว่าวาจาจริงเป็นสิ่งไม่ตาย

“อุตตม-สนธิรัตน์” ปรับเกมอุตลุด

ด้านความเคลื่อนไหวพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เมื่อเวลา 13.28 น. เจ้าหน้าที่พรรคได้แจ้งผู้สื่อข่าวผ่านกลุ่มไลน์พลังประชารัฐว่า เดิมนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค มีกำหนดการขึ้นเวทีปราศรัยช่วยผู้สมัครพรรคหาเสียงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เชียงใหม่ เขต 8 ที่โรงเรียนทุ่งเสี้ยว ต.บ้านกลาง อ.สันป่าตอง ในเวลา 17.30 น. แต่ทั้งคู่ขอยกเลิกกำหนดการดังกล่าว โดยอ้างว่าติดภารกิจด่วน ท่ามกลางกระแสข่าวการต่อรองอย่างหนักจากพรรคการเมืองที่ประสานดึงมาร่วมรัฐบาล โดยมอบหมายให้นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค ไปช่วยปราศรัยแทน ทำให้ถูกจับตาว่าต้องอยู่พูดคุยเจรจาโควตารัฐมนตรีกับแกนนำพรรคอื่น ที่พยายามดึงมาร่วมรัฐบาลหรือไม่

พปชร.ติวเข้ม ส.ส.ก่อนเข้าสภา

นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า วันที่ 23 พ.ค. พรรคพลังประชารัฐจะจัดปฐมนิเทศและเสริมสร้างศักยภาพ ส.ส. เพื่อเตรียมความพร้อมในการทำหน้าที่ในสภาเพราะพรรคมี ส.ส.ใหม่มากถึง 70 คน แต่ละคนมีความมุ่งมั่นไฟแรง ขณะที่ยังมี ส.ส.เก่าคอยเป็นพี่เลี้ยง สำหรับการจัดตั้งรัฐบาลรู้สึกเป็นห่วงข้อมูลข่าวสารอาจทำให้ประชาชนเครียดวิตกกังวล เพราะพรรคการเมืองบางพรรคพยายามทำให้ประชาชนจิตตก ทั้งที่คนส่วนใหญ่อยากให้พรรคพลังประชารัฐจัดตั้งรัฐบาลได้ ฝากถึงประชาชนทั่วประเทศว่าอย่ากังวล มั่นใจว่าพรรคจะจัดตั้งรัฐบาลได้แน่ เพราะพรรคที่จะมาร่วมงานกับเราต่างอยากเห็นบ้านเมืองสงบ

“ธรรมนัส” โวยถูกดิสเครดิต

ที่ จ.เชียงใหม่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และประธานยุทธศาสตร์ภาคเหนือ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีนางศรีนวล บุญลือ ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 8 พรรคอนาคตใหม่ แจ้งความว่าถูกคุกคามข่มขู่จากชายฉกรรจ์ที่บ้านพัก จ.เชียงใหม่ ว่า เรื่องนี้มีคนพยายามโยงพรรคพลังประชารัฐ ยืนยันไม่เกี่ยวข้อง ทำแบบนี้เหมือนพยายามสร้างข่าวลือหวังใส่ร้ายและดิสเครดิตผู้สมัครพรรคพลัง-ประชารัฐกำลังให้ฝ่ายกฎหมายดูอยู่

พท.ถกเครียดจับขั้วตั้งรัฐบาลสู้

วันเดียวกัน เวลา 14.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อหารือสถานการณ์การเมือง รวมถึงการจับขั้วจัดตั้งรัฐบาลมี พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองหัวหน้าพรรค น.ส.ลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรค เข้าร่วม นายภูมิธรรมกล่าวก่อนการประชุมว่า ที่ ประชุมจะเปิดโอกาสให้สมาชิกพรรคแสดงความเห็นต่อการเสนอชื่อบุคคลเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานสภาฯอีก 2 คน ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 25 พ.ค. และที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคจะหารือถึงการฟอร์มจัดตั้งรัฐบาล ในฐานะพรรคการเมืองที่ได้รับเลือกตั้ง ส.ส.เป็นอันดับหนึ่ง ล่าสุด ทั้ง 7 พรรคการเมืองที่ร่วมลงสัตยาบันยังจับมือร่วมกันอย่างเข้มแข็ง

เปิดทางยังคุยได้กับทุกพรรค

นายภูมิธรรมกล่าวถึงความเคลื่อนไหวของพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์ ที่นัดเจรจาเพื่อรวมเสียงต่อรองการเข้าร่วมรัฐบาล ว่า เป็นหน้าที่ของพรรคการเมืองและ ส.ส. ส่วนผลจะเป็นอย่างไรเชื่อว่าประชาชนจะทราบถึงความชัดเจนในผลการกระทำดังกล่าว ว่าเป็นบวกหรือเป็นลบกับประชาชน สำหรับพรรคเพื่อไทยยืนยันในเจตนารมณ์ที่เคยทำสัตยาบันว่า ต้องทำให้ประเทศหลุดพ้นจากวิกฤติ โดยพรรคไม่ยึดกับตำแหน่ง อยากเห็นทางออกของประเทศ และหลุดพ้นจากกติกาที่เป็นปัญหาผ่านการร่วมมือของ ส.ส. พรรคเพื่อไทยพร้อมคุยกับทุกพรรค และพร้อมรับฟังทุกฝ่าย เชื่อว่าก่อนวันที่ 25 พ.ค. ทุกอย่างจะมีความชัดเจน

ซัด พปชร.ใช้เทคนิคไม่สมควร

นายภูมิธรรมกล่าวต่อว่า กรณีที่พรรคพลังประชารัฐพยายามชิงตั้งรัฐบาลแข่งนั้น มองว่าสิ่งที่ควรคำนึงถึง คือการยึดเจตนารมณ์ของประชาชนที่สะท้อนผ่านการเลือกตั้ง ส.ส. และการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ดังนั้นพรรคเพื่อไทยยืนยันต่อเจตนารมณ์ที่ต้องเคารพเสียงประชาชน ส่วนกรณีที่จะใช้กระบวนการพิเศษที่ผิดไปจากระบบปกติ เป็นเรื่องไม่สมควร และพรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วย

จ่อส่งชื่อแข่งชิง ปธ.–รอง ปธ.สภาฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.วิโรจน์ได้ลงนามในประกาศพรรคเพื่อไทยเพื่อขอรับฟังความคิดเห็น และเสนอรายชื่อ ส.ส.ของพรรค เพื่อเสนอต่อสภาฯ ให้ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ ส่งไปยัง ส.ส. หัวหน้าสาขาพรรค ตัวแทนประจำ จังหวัด และสมาชิกพรรคเพื่อไทย ให้เสนอความเห็นมายังพรรคเพื่อไทยจนถึงวันที่ 24 พ.ค. เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาของกรรมการบริหารพรรคที่จะนัดประชุมพร้อมกับ ส.ส.ของพรรคในช่วงเย็นวันที่ 24 พ.ค.นี้ ก่อนเสนอชื่อในที่ประชุมสภาฯ วันที่ 25 พ.ค

ถก 7 พรรคแนวร่วมฝ่าย ปชต.

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า แกนนำพรรคเพื่อไทยได้ส่งหนังสือเชิญแกนนำพรรคการเมืองที่ร่วมลงนามไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจทั้ง 7 พรรค ประกอบด้วย พรรคอนาคตใหม่ พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ พรรคเสรีรวมไทย พรรคเศรษฐกิจใหม่ และพรรคพลังปวงชนไทย มาร่วมหารือถึงความชัดเจนในแนวทางการจัดตั้งรัฐบาล เวลา 10.00 น.วันที่ 23 พ.ค. ที่โรงแรมแลงคาสเตอร์

“เจ๊หน่อย” จี้ คสช.หยุดสืบอำนาจ

ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยโพสต์เฟซบุ๊กรำลึกครบรอบ 5 ปีรัฐประหารร่วมหยุดการสืบทอดอำนาจปีที่ 6 ของ คสช. ไปด้วยกัน จากพรรคไทยรักไทยถึงพรรคเพื่อไทย เราเผชิญวิกฤติการเมืองมามากมาย ทั้งการยุบพรรคตัดสิทธิทางการเมือง และการทำรัฐประหารความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองทำให้ตนได้เรียนรู้ถึงความหมายของการชนะที่แท้จริง คือการชนะใจประชาชน และความหมายของการชนะจอมปลอม คือการชนะโดยการยึดอำนาจไปจากมือประชาชน ทำให้การเลือกตั้งเป็นเพียงพิธีกรรมชุบตัวด้วยการเขียนกติกาที่บิดเบี้ยวเอาเปรียบทุกประตู ทั้ง ส.ส.เอื้ออาทร ส.ว.เอื้อพวกพ้อง 250 คน ที่ คสช.เลือก มีอำนาจมากกว่า ส.ส.ที่ประชาชนเลือก ตามด้วยแผนยุทธศาสตร์ชาติเพื่อคุมประเทศต่อไปอีกนาน 20 ปี

ทวงสัญญายืนเคียงข้างประชาชน

คุณหญิงสุดารัตน์ระบุว่า วันนี้ครบรอบ 5 ปีรัฐประหาร คสช. ที่ตลกร้ายคือมีแต่ข่าวโผคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ เต็มไปด้วยนายพลหน้าเดิมที่ทำรัฐประหารเมื่อ 5 ปีก่อน อีกข่าวคือการต่อรองเก้าอี้ของพรรคการเมืองแทงกั๊กอย่างคึกโครม ประชาชนทั้งประเทศมองการเลือกครั้งนี้เป็นความหวังที่จะเดินออกจากความทุกข์ แต่ความหวังนั้นพังทลาย เกิดคำถามว่าเป็นเพียงพิธีกรรมชุบตัวแปลงร่างเพื่อสืบทอดอำนาจต่อหรือไม่ พรรคเพื่อไทยยอมเสียสละไม่ให้เป็นเงื่อนไขต่อรองทางการเมือง หากนักการเมืองร่วมกันยืนหยัดเคียงข้างประชาชนอย่างที่เคยพูดสัญญาไว้ตอนหาเสียง ว่าจะไม่ทรยศต่อความหวังประชาชน และสำนึกอยู่เสมอว่าเรามาจากประชาชน จะสามารถสร้างคุณูปการต่อประชาชนยุติบทบาท คสช. ได้ อีก 2 วันจะทราบว่าพรรคเหล่านี้เลือกอยู่เคียงข้างประชาชน หรือที่ดึงเกมกันอยู่แค่เอาคะแนนเสียงที่ประชาชนมอบให้ไปต่อรองตำแหน่งและผลประโยชน์ของตัวเองเท่านั้น ประชาชนความจำดี

ฉะพวกตระบัดสัตย์กลัวตกรถ

ต่อมาคุณหญิงสุดารัตน์ทวีตข้อความลงทวิตเตอร์เพิ่มเติมว่า เผด็จการได้ 126 เสียงก็ชนะแล้ว ขณะที่ประชาธิปไตยต้องได้ 376 เสียง กติกาที่บิดเบี้ยวแบบนี้อาจทำให้นักการเมืองตระบัดสัตย์ต่อประชาชนเพราะกลัวตกรถ ถ้านักการเมืองไม่เลิกหวังกอบโกยผลประโยชน์ ประชาธิปไตยไม่มีวันชนะ พิสูจน์ใจนักการเมือง ชนะใจประชาชน คือสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าอะไรทั้งนั้น

“บิ๊กตู่” ชิ่งภาพ ปชป.-ภท. พบกัน

ช่วงเช้าที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) นัดพิเศษ มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และตัวแทนภาคเอกชนเข้าร่วม หลังการประชุมนายสมคิดนำภาคเอกชนเข้ามอบหนังสือรวบรวมผลการดำเนินงานเอกชนให้แก่นายกฯ จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.อนุพงษ์ เข้าห้องรับรองเพื่อรับประทานอาหารว่าง 15 นาที ก่อนกลับขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า ระหว่างเดินกลับ พล.อ.ประยุทธ์ หันมาตอบคำถามผู้สื่อข่าวสั้นๆถึงวันครบรอบ 5 ปี คสช. ว่า “อย่าไปให้ความสำคัญกับวันไหน” เมื่อถามว่ามีภาพพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์จับมือกัน พล.อ.ประยุทธ์ไม่ตอบและเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปทันที

“บิ๊กป้อม” ปัดข่าวน้องชายนั่ง มท.1

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงผลงาน 5 ปีของ คสช. ว่า เราแก้ไขปัญหามากมายให้ประชาชน แก้ได้บ้างไม่ได้บ้าง ส่วนความสงบเรียบร้อยเป็นไปด้วยดีตลอด 5 ปี ที่ต้องทำต่อคือแก้ปัญหาผู้มีรายได้น้อย เมื่อถามว่าหลังมีรัฐบาลใหม่ปัญหาการเมืองแบบเดิมๆจะกลับมาหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า จะไปรู้ได้ยังไง ขออย่าไปมองแบบนั้น ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ต้องถามนายกฯ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ได้เป็นก่อนดีกว่า แต่คิดว่าต้องรีบจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่โดยเร็ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่น เมื่อถามว่ามีกระแสข่าว พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ น้องชายจะมาเป็น รมว.มหาดไทย พล.อ.ประวิตรตอบว่า “ไม่มีหรอก ไม่มีๆพัชรวาทเลิกแล้ว ไม่เล่น” เมื่อถามย้ำว่าช่วงนี้ถูกโจมตีค่อนข้างมากกังวลหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า สื่อคิดไปเอง กระแสที่พุ่งก็คือจากสื่อ

“สมคิด” ย้ำอยากตั้งรัฐบาลเร็วๆ

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือส่วนตัวกับนายกฯว่า ไม่ได้หารือเรื่องการเมืองกัน เมื่อถามว่ากังวลว่าปัญหาการเมืองจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจหรือไม่ นายสมคิดตอบว่า รู้กันว่าถ้าการเมืองดีเศรษฐกิจก็ดีขึ้น ตอนนี้เรากำลังเผชิญกับสงครามการค้า การส่งออก เราได้รับผลกระทบ บังเอิญเรามีการเลือกตั้งแต่ผ่านมาหลายเดือนความไม่แน่นอนก็ยังมีอยู่ ก่อนจะมีรัฐบาลใหม่การตัดสินใจลงทุนอะไรเขาก็ชะลอดู หวังว่าจะชัดเจนในไม่นานนัก อยากให้ปรองดองกัน และมองถึงอนาคตของบ้านเมืองเป็นหลัก ทุกคนต้องการตั้งรัฐบาลให้เร็วอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับความร่วมมือกัน พูดจากันให้เข้าใจ

ไม่รู้จะได้คุม ศก. ยกทีมอีกไหม

เมื่อถามว่ารองนายกฯและ ครม.เศรษฐกิจในรัฐบาลต่อไปจะเป็นชุดเดิมหรือไม่ นายสมคิดตอบว่า ไม่มีใครรู้ ที่พูดกันก็ไปพูดกันเองตั้งกันเองทั้งนั้น ส่วนบอกว่ามีชื่อตนอยู่ด้วย จะมีได้อย่างไรยังไม่รู้เลยใครจะเป็นนายกฯ 4-5 ปีที่ผ่านมาถือว่าเรามาไกลมากแล้ว อย่าให้ทุกอย่างที่สร้างมาถดถอยลงไป น่าเสียดาย อยากให้มองข้างหน้าร่วมมือกัน เมื่อถามย้ำว่าหาก พล.อ.ประยุทธ์กลับมาเป็นนายกฯ ยังจะช่วยสนับสนุนทำงานต่อไปหรือไม่ นายสมคิดตอบว่า ความสำคัญอยู่ที่ความต่อเนื่องของระบบ และนโยบาย ตัวบุคคลคงไม่ใช่ แต่ตัวบุคคลบางคนก็เป็นที่น่าเชื่อถือกับต่างประเทศ แต่ไม่ใช่ทุกสิ่ง มันอยู่ที่รัฐบาลอยู่ที่นโยบาย

นักการเมืองยิ่งเป็นมิตรกันยิ่งดี

เมื่อถามถึงการนัดหารือของแกนนำพรรคประชาธิปัตย์กับภูมิใจไทย นายสมคิดตอบว่า “คนในวงการเมืองรู้จักกันทุกคน ยิ่งเป็นมิตรกันเท่าไหร่ยิ่งดี แต่เขาจะมาพูดคุยกับผมได้อย่างไร ผมอยู่ฝ่ายรัฐบาล ไม่ใช่ฝ่ายการเมือง สื่อก็ชอบไปเขียนแล้วผมไปเกี่ยวที่ไหน” เมื่อถามว่าหัวหน้าพรรคและเลขาฯพรรคพลังประชารัฐ มาขอคำปรึกษาอยู่เรื่อยๆ ได้เข้ามาขอคำปรึกษาอะไรอีกหรือไม่ นายสมคิดตอบว่า ช่วงหลังมานี้ไม่ค่อยได้เจอกัน งานเขาเยอะ เขาคงเจรจาพูดคุยกัน ในส่วนของตนที่รับผิดชอบหลายกระทรวงก็ไม่รู้จะหมุนอย่างไร

50 ส.ว.ก่อหวอดเลือก ปธ.วุฒิ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาถึงความเคลื่อนไหวการเลือกตำแหน่งประธานวุฒิสภา และรองประธานวุฒิสภาอีก 2 ตำแหน่ง ว่า ก่อนหน้านี้มีการวางตัวค่อนข้างลงล็อกแล้ว คือนายพรเพชร วิชิตชลชัย อดีตประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เป็นประธานวุฒิสภา พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร อดีต สนช. เป็นรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 และนายศุภชัย สมเจริญ อดีตประธาน กกต. เป็นรองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 แต่ล่าสุดเกิดแรงกระเพื่อมภายในกลุ่ม ส.ว.กว่า 50 คน ที่ไม่พอใจการจัดวางตัวในลักษณะไม่ให้มีการโหวตแข่งขันในทุกตำแหน่ง โดย ส.ว.กลุ่มที่ไม่พอใจได้จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ควรเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรมทุกตำแหน่ง โดยเฉพาะตำแหน่งประธานวุฒิสภา ที่หลายคนเห็นว่าผู้ที่จะมาเป็นต้องได้รับการยอมรับจากสมาชิกทุกคน

บี้ “พรเพชร” ทำความเข้าใจใบสั่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส.ว.หลายคนยังจับกลุ่มวิจารณ์อย่างหนัก ถึงการวางตัวนายพรเพชรเป็นประธานวุฒิสภาว่า ตอนเป็นประธาน สนช.ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ไม่ค่อยมาหารือกับสมาชิก สนช.เท่าที่ควร ทำให้การออกกฎหมายหลายฉบับมีปัญหา ถูกโซเชียลมีเดียรุมถล่มจนกระทบต่อภาพลักษณ์คสช. และวิจารณ์ว่าขณะนี้มีบางคนทำตัวเป็นประธานตั้งแต่ยังไม่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งด้วยซ้ำ อีกทั้งการจัดสรรตำแหน่งประธาน กมธ.ชุดต่างๆในวุฒิสภา ยังไม่มีการปรึกษาหารือกับสมาชิก ทำให้ส.ว.กลุ่มดังกล่าวหารือกันว่าหากมีคำสั่งของผู้ใหญ่วางตัวลงมาจริง นายพรเพชรควรมาทำความเข้าใจกับ ส.ว.ทุกคนให้เข้าใจเหตุผลถึงที่มาที่ไป ไม่ใช่ยึดสภาแล้วมาสั่งซ้ายหันขวาหัน ถ้านายพรเพชรยังไม่ประสานงานทำความเข้าใจกับ ส.ว. อาจมีการเสนอให้โหวตแข่งขันได้

เชื่อ ลต.ซ่อมเชียงใหม่ฉลุย

ที่อาคารปฏิบัติการช่อง 9 อสมท นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการจัดเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เชียงใหม่ เขต 8 ว่า มีการนำข้อผิดพลาดการเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค. มาแก้ไขกำชับกับผู้ปฏิบัติงาน เลือกตั้งแล้วเสร็จจะรวมคะแนนซึ่งตัวแทนพรรคการเมืองสามารถติดตามได้ จากนั้นจะประกาศผลแต่ไม่สามารถกำหนดระยะเวลาที่ตายตัวได้ ส่วนกรณีที่พรรคการเมืองระบุว่ามีการแข่งขันดุเดือดนั้น คำว่าดุเดือดน่าจะเป็นในทางดีมีการแข่งขันสูง เมื่อเลือกตั้งและประกาศผลกกต.จะคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อใหม่ทันที ส่วนเรื่องร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ขณะนี้หลายเรื่องอยู่ในขั้นตอนของคณะอนุกรรมการวินิจฉัย และคดี เหลือไม่เกิน 100 เรื่อง

ยันเชือด “ธนาธร” ตามขั้นตอน

เมื่อถามว่า สังคมตั้งข้อสังเกต กกต.พิจารณาคำร้องคดีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ รวดเร็วกว่าคำร้องถือหุ้นของนักการเมืองอีกหลายเรื่อง นายอิทธิพรตอบว่า การทำงานเป็นไปตามกรอบเวลา มีการยื่นร้องมาก่อนหน้านั้น ไม่ได้ทำเพราะว่าเป็นกรณีใดกรณีหนึ่ง ส่วนการตรวจสอบกรณีพรรคอนาคตใหม่ยืมเงิน 110 ล้านจากนายธนาธร คงดำเนินการตามขั้นตอน เมื่อถามว่าโดยหลักการแล้วพรรคการเมืองสามารถกู้ยืมเงินได้หรือไม่ นายอิทธิพรตอบว่า เท่าที่ดู พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 62 เกี่ยวกับรายได้พรรคการเมือง ไม่มีเรื่องกู้ยืม ต้องศึกษาราย ละเอียด พูดอะไรตอนนี้คงไม่เหมาะ เมื่อถามอีกว่า เงินกู้ถือเป็นรายได้ของพรรคการเมืองหรือไม่ นายอิทธิพรตอบว่า อย่างที่บอกจะพูดอะไรตอนนี้คงไม่เหมาะ ต้องฟังความเห็นของสำนักงาน กกต. และกรรมการคนอื่นประกอบด้วย

“ปิยบุตร” ย้ำข้องใจมาตรฐาน กกต.

ที่พรรคอนาคตใหม่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลงถึงกรณี กกต.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณีหุ้นสื่อของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ว่า กกต.ใช้เวลา 53 วัน พิจารณาเรื่องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ เทียบเคียงกับกรณีของนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ใช้เวลา 417 วัน เรื่องคล้ายกันแต่ทำไมใช้เวลาต่างกันสิ้นเชิง มาตรฐานเดียวกันหรือไม่ การทำงานของ กกต.ขัดต่อข้อกฎหมายหรือไม่ ขอย้ำว่าการโอนหุ้นมีผลวันที่ 8 ม.ค.2562 วันที่สมัคร ส.ส. นายธนาธรไม่ได้ถือหุ้นแล้ว หากมีปาฏิหาริย์ทางกฎหมายว่านายธนาธรผิด ศาลสั่งให้หยุดการทำหน้าที่ ยืนยันว่าไม่กระทบกับการเสนอนายธนาธรเป็นนายกฯและยังเข้าสภาได้ และพรรคขอสงวนสิทธิร้องเรียน ส.ส.ทุกคนของพรรคพลังประชารัฐ ในกรณีเดียวกัน

ยันกฎหมายไม่ห้ามพรรคกู้เงิน

นายปิยบุตรยังกล่าวถึงกรณีพรรคอนาคตใหม่กู้จากนายธนาธร ว่า เราศึกษากฎหมายทั้งหมดพบว่าพรรคการเมืองในต่างประเทศเป็นหนี้ธนาคารเต็มไปหมด ดังนั้น พรรคการเมืองกับการกู้เงินจึงเป็นเรื่องปกติ ประเทศไทยมีกฎหมายควบคุมรายได้ของพรรคอยู่ แต่เงินกู้ไม่มีระบุไว้ พรรคการเมืองถือเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายเอกชน ไม่มีกฎหมายเขียนไว้ว่าห้ามพรรคการเมืองกู้เงิน เมื่อไม่เขียนสามารถทำได้ จากการตรวจสอบพรรคการเมืองหลายๆพรรคในไทยก็กู้เงิน เช่น ภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา ชาติพัฒนา ประชาธิปัตย์ และประชาธิปไตยใหม่ มีเอกสารยืนยัน กรณีนี้ไม่ใช่นายธนาธรครอบงำพรรค แต่มีสถานภาพที่ให้กู้เงินได้ อย่าจับจ้องการใช้เงินของพรรคเราเพียงอย่างเดียว ขอให้ไปตรวจสอบพรรคอื่นด้วยว่ามีการใช้เงินหรือที่มาของเงินอย่างไร

เผย 2 วันรู้ตัวเลขเสียงจัดตั้ง รบ.

นายปิยบุตรกล่าวว่า ไม่มีอะไรที่ทำให้เราหมดความพยายามหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช.ได้ ยิ่งโดนแบบนี้แสดงว่าใกล้ที่จะทำสำเร็จ และพรรคยังเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลต่อไป ความคืบหน้าเป็นไปในทางที่ดี เราตั้งใจจะประสานพรรคต่างๆมาจัดตั้งรัฐบาล และมีกรอบทำงานมีเวลาชัดเจน ไม่ใช่มาเพื่อเก้าอี้ ร่วมมือกันแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อระบบรัฐสภาที่เป็นประชาธิปไตย ส่ง คสช.กลับบ้าน อีก 1-2 วันน่าจะรู้ตัวเลขว่าสำเร็จหรือไม่

“เรืองไกร” ยื่นสอย “บิ๊กตู่” ครอบงำ

ที่สำนักงาน กกต. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักษาชาติ เข้ายื่นหนังสือถึง กกต.ขอให้ตรวจสอบและส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ตอบข้อซักถามของสื่อมวลชนถึงเรื่องการเจรจาต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีกับพรรคการเมืองต่างๆ มีข้อสงสัยว่า พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่ถูกโหวตเป็นนายกฯ ยังเป็นแค่แคนดิเดตนายกฯของพรรคพลังประชารัฐ แต่การระบุว่ารอให้ทางพรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อขึ้นมาให้พิจารณาก่อน เข้าข่ายเข้าไปควบคุมครอบงำชี้นำพรรคพลังประชารัฐไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมใช่หรือไม่ และขอให้ กกต.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

“สันธนะ” จี้ปม “ชนม์สวัสดิ์” ขึ้นเวที

นายสันธนะ ประยูรรัตน์ พร้อมอดีตผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย นำหนังสือด่วนที่สุดยื่นต่อ กกต. ทวงถามความคืบหน้าคำร้องขอให ้ กกต.ตรวจสอบพรรคพลังประชารัฐ และขอให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรค จากกรณีที่ให้นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ขึ้นเวทีปราศรัยที่ จ.สมุทรปราการ นายสันธนะกล่าวว่า ถ้าเทียบเคียงกับการตรวจสอบกรณีถือหุ้นสื่อของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ดำเนินการอย่างรวดเร็ว จึงนำหนังสือด่วนที่สุดมายื่นว่าพร้อมหรือยังที่จะพิจารณาเรื่องนี้ หากยังไม่ดำเนินการก็ควรตัดสินใจเลือกระหว่างความเที่ยงธรรม กับความขลาด ถ้ายังไม่มีการนำเรื่องนี้มาพิจารณาไม่มีความคืบหน้า จะฟ้องดำเนินคดีเลขาธิการ กกต.ต่อไป

ชง ป.ป.ช.สอบตั้ง ส.ว.พวกพ้อง

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่า วันที่ 23 พ.ค.นี้ จะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้เอาผิด พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม กรณีที่เบื้องต้นพบมี ส.ว. 2 คน มีข้อสงสัยอาจขาดคุสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามในการเป็น ส.ว. ดังนั้น ต้องมีคนรับผิดชอบ เพราะการใช้อำนาจคัดสรรบุคคลที่อาจขาดคุณสมบัตินำไปกราบบังคมทูลนำขึ้นทูลเกล้าฯถวาย ถือว่าเป็นการมิบังควร เข้าข่ายทุจริตต่อหน้าที่อันมีความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต มีความย่ามใจใช้อำนาจโดยไม่กลั่นกรองบุคคลที่เหมาะสมให้ถูกต้องตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และกฎหมาย รวมทั้งยังคัดสรรบุคคลใกล้ชิด เครือญาติ และพรรคพวก ให้ได้รับการแต่งตั้งโดยไม่ละอายต่อประชาชน

ผวาอดีตถกแผนรับผู้นำอาเซียน

อีกเรื่อง พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม เรียกประชุมส่วนราชการต่างๆเพื่อเตรียมความพร้อมดูแลรักษาความปลอดภัยและการจราจรการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 34 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 22-23 มิ.ย.นี้ โดยกำชับทุกหน่วยงานให้นำบทเรียนจากการทำงานที่ผ่านมาเป็นกรณีศึกษา มิให้เกิดเงื่อนไขหรือเหตุการณ์ดังเช่นอดีตที่เกิดขึ้น ต้องให้ความสำคัญ เพิ่มความเข้มมาตรการเชิงรุกด้านการข่าว ทั้งกำชับให้วางแผนดูแลผู้นำอย่างรอบคอบรัดกุมสมเกียรติในทุกเรื่อง โดยต้องจัดทำและซักซ้อมแผนเผชิญเหตุให้ครอบคลุมทุกสมมติฐานที่อาจเกิดขึ้น

ส่งฟ้อง 5 แกนนำม็อบต้าน คสช.

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก นายประสิทธิ์ ครุธาโรจน์ นายประจิณ ฐานังกรณ์ นางศรีไพร นนทรี นายวันเฉลิม กุนเสน และนายธนวัฒน์ พรมจักร 5 ผู้ต้องหาแกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ชุด UN62 เข้ารายงานตัวต่อพนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา เพื่อส่งฟ้องศาลอาญา คดีร่วมกันชุมนุมเมื่อวันที่ 21-22 พ.ค.2561 เรียกร้องการเลือกตั้งและต่อต้าน คสช. ครบรอบ 4 ปี ที่หน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และหน้าองค์การสหประชาชาติ ข้อหายุยงปลุกปั่นตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ผิด พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ และฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558

เสียใจไทยล้าหลังกว่าพม่า

นายประจิณกล่าวว่า คนไทยควรจะร่วมกันรักษาระบอบประชาธิปไตยที่ทางคณะราษฎรเปลี่ยนแปลงการปกครองมา วันนี้ประเทศปกครองในระบอบเผด็จการ คสช.วันนี้จะติดคุกก็ติด ถ้าคิดจะต่อสู้กับเผด็จ การต้องเตรียมตัวเตรียมใจ จะกลั่นแกล้งจับติดคุกก็ไม่ต้องเสียใจเพราะรักประชาธิปไตยอยากให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยเป็นอารยะแบบสากล ประเทศเราปกครองระบอบประชาธิปไตยมานานแต่ปัจจุบันล้าหลังกว่าพม่าเสียใจมาก อยากเรียกร้องให้ทหารตำรวจที่กินเงินเดือนภาษีประชาชนสำนึกบุญคุณประชาชน รักประชาธิปไตย

ปชต. ใหม่มอบตัวข้อหาปลุกปั่น

ที่ สน.ปทุมวัน นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน” พร้อมสมาชิกกลุ่ม นศ.ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ประกอบด้วย นายวสันต์ เสกสิทธิ นายทรงธรรม แก้วพันพฤกษ์ นายพายุ บุญโสภณ นายอภิวัฒน์ สุนทรารักษ์ นายศุภชัย ภูคลองพลอย นายอภิสิทธิ์ ทรัพย์นภาพันธ์ นายภาณุพงศ์ ศรีธนานุวัฒน์ นายสุวิชา พิทังกร นายพรชัย ยวนยี น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว นายรังสิมันต์ โรม และนายรัฐพล ศุภโสภณ พร้อมทนายความ เข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 และมาตรา 215 กรณีชุมนุมต่อต้าน คสช. วันที่ 24 มิ.ย.2558 ขณะที่นายปกรณ์ อารีกุล และนายวรวุฒิ บุตรมาก ขอเลื่อนพบเจ้าหน้าที่เป็นวันที่ 11 มิ.ย. ทั้งนี้ คดีนี้เป็นคดีเดียวกับที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.ปทุมวัน ไปเมื่อวันที่ 6 เม.ย.

“ชลธิชา” เชื่อเป็นเกมกำจัด อนค.

นายจตุภัทร์กล่าวว่า กังวลต่อกระบวนการยุติธรรมไทย รัฐบาลใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการสร้างความชอบธรรม แต่สำหรับพวกตนมันไม่ชอบธรรมอย่างยิ่ง วันนี้ที่เป็นวันครบรอบ 5 ปีรัฐประหารโดย คสช. อยากใช้ความเงียบสื่อสารกับสังคม ไม่อยากจะพูดอะไร 5 ปีที่ผ่านมา ทุกคนได้เรียนรู้แล้วว่าเผด็จการทหารเป็นอย่างไร ด้าน น.ส.ชลธิชากล่าวว่า คดีนี้เป็นความพยายามจะกำจัดฝ่ายประชาธิปไตย และพรรคอนาคตใหม่ ปูทางให้ คสช. สืบทอดอำนาจ หากพรรคพลังประชารัฐจัดตั้งรัฐบาลได้ แสดงว่า คสช.จะยังคงอยู่ต่อไป แต่ต่อไปนี้จะต้องไม่มีการรำลึกถึงการรัฐประหาร คสช.ครั้งที่ 6 อีกต่อไป

“รังสิมันต์” ชี้เป้าจริงคือ “ธนาธร”

นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า คดีนี้ตนยังไม่ได้รับหมายเรียกแต่อย่างใด แต่วันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา ไปร่วมงานรำลึก “น้องเฌอ” ที่ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อเดือน พ.ค.2553 เจอตำรวจเลยถามว่า หมายเรียกส่งมาให้ยัง ทางตำรวจบอกว่าส่งแล้วแต่จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้รับ แต่รู้ว่ามีชื่อตนเลยต้องมารับทราบข้อกล่าวหา เพราะมีคดีความกับ คสช.เยอะมาก จนแทบจำไม่ได้ ขอยืนยันว่าสิ่งที่ทำเพื่อประเทศชาติประชาธิปไตย เชื่อว่าคดีนี้ต้องการกระทบชิ่งไปยังนายธนาธรมากกว่า

เป่าเค้กเย้ย “5 ปีแล้วน้องไหวเหรอ”

ต่อมาเวลา 11.30 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เดินทางมาดูความเรียบร้อย ขณะที่เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง สอบปากคำ 13 ผู้ต้องหาเสร็จ จึงนำตัวทั้งหมดพิมพ์ลายนิ้วมือก่อนปล่อยตัวชั่วคราว ภายหลังออกจาก สน.ปทุมวัน กลุ่มดังกล่าวนำเค้กผลไม้ส้มเขียนข้อความบนหน้าเค้ก “5 ปีแล้ว น้องไหวเหรอ” พร้อมปักเทียนเลข 5 ก่อนเป่า และนำเค้กส้มละเลงไปที่ใบหน้าของนายอภิสิทธิ์ ทรัพย์นภาพันธ์ สมาชิกกลุ่ม ท่ามกลางประชาชนที่มาให้กำลังใจ

“หมอทศ” โชว์ภาพคนไม่ทน คสช.

จากนั้นเวลา 18.00 น. ที่แยกราชประสงค์ กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย และแนวร่วม นำโดย นายอานนท์ นำภา, น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว, น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา และนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ จัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ “คสช. ไปสู่สุคติ : เคารพเจตนารมณ์ของประชาชน” เนื่องในวันครบรอบ 5 ปีรัฐประหาร ในกิจกรรมดังกล่าว นพ.ทศพร เสรีรักษ์ สมาชิกพรรคเพื่อไทย ได้มาร่วมจัดนิทรรศการมนุษย์กับภาพวาด “คนไม่ทน คสช.” เป็นการจัดแสดงภาพวาดรูป พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. คู่กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองหัวหน้า คสช. ในฐานะผู้ก่อการรัฐประหาร และภาพวาดบุคคลที่ถูก คสช.ดำเนินคดีความมั่นคงตลอด 5 ปีที่ผ่านมา อาทิ นายวัฒนา เมืองสุข น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว และไผ่ ดาวดิน นพ.ทศพรกล่าวว่า ได้รับแรงบันดาลใจจากประชาชนที่ไม่ทนกับ คสช. กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง บุคคลที่ต่อสู้กับอำนาจ คสช. ที่โดนดำเนินคดีอย่างไม่เป็นธรรม หลังจากเปิดประชุมวุฒิสภาจะจัดนิทรรศการภาพวาดอีกครั้ง โดยจะนำภาพวาด 250 ส.ว.อัปยศ มาจัดแสดงตามสถานที่ต่างๆต่อไป

อ่านข่าวล่าสุด เจาะลึกข้อมูลเลือกตั้ง 2562
https://www.thairath.co.th/election 

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0