วันนี้(16 ก.พ.62)นายกวี ประสมพล ผู้อำนวนการวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ได้ออกมาเปิดเผยว่า ทางวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนจะขอปิดถ้ำหลวงชั่วคราว เพื่อขนอุปกรณ์ต่างๆ ที่แต่ละหน่วยงานที่นำเข้าไปภายในถ้ำหลวงเพื่อช่วยเหลือ 13 ชีวิต ทีมหมู่ป่าอะคาเดมีที่เข้าไปติดภายในถ้ำดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย.ก่อนที่จะสามารถนำตัวทั้ง 13 คนออกมาได้เมื่อวันที่ 10 ก.ค.2561 ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากการช่วยเหลือแล้วเสร็จน้ำจำนวนมหาศาลได้เข้าท่วมภายในถ้ำ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องอพยพออกมาโดยได้ทิ้งอุปกรณ์ต่างๆ อาทิเครื่องสูบน้ำ อุปกรณ์ด้านการสื่อสาร เครื่องปั่นไฟฯลฯ ยังติดค้างอยู่ภายในถ้ำเป็นจำนวนมาก
วันที่ 17 ม.ค.2562 ที่ผ่านมานายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติและพันธุ์พืช พร้อมด้วย พล.ร.ต. อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ พร้อมทีมสำรวจเข้าไปสำรวจภายในถ้ำหลวงมาแล้วครั้งหนึ่งโดยใช้เวลากว่า 6 ชั่วโมง พบว่าอุปกรณ์ เช่น ท่ออากาศ สายไฟฟ้า สายโทรศัพท์ ถังอากาศ ขวดอัดอากาศ อุปกรณ์สื่อสาร เครื่องสูบน้ำ อุปกรณ์ทั้งหมดของ47หน่วยงานที่จะต้องตรวจเช็คนำส่งคืนต้นสังกัด ยังตกค้างอยู่ภายใน จึงได้มีข้อความ ประกาศอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน เตรียมการ ปิดการท่องเที่ยว บริเวณถ้ำหลวง ตามหนังสืออุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนเตรียมการที่ ทส 0925 540/ 3 ลงวันที่ 11 ก.พ. 2562 เรื่อง ปิดการท่องเที่ยวบริเวณถ้ำหลวงตั้งแต่วันที่ 19 ก.พ. 2562 เนื่องจาก หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทหารเรือ จะเข้าทำการขนย้ายอุปกรณ์ในการปฏิบัติงานในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน และบันทึกการปฏิบัติภารกิจในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน เพื่อนำมาใช้ในการปฏิบัติราชการและมีความประสงค์ที่จะบันทึกการปฏิบัติจากเจ้าหน้าที่ของหน่วยที่จะปฏิบัติงานจริงในพื้นที่ถ้ำหลวง เพื่อเป็นหลักฐานที่เป็นประโยชน์และเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานในอนาคต
ดังนั้นเพื่อความสะดวกในการปฏิบัติงานของหน่วยบัญชาการ สงครามพิเศษทางเรือจึงขอปิดการท่องเที่ยว บริเวณถ้ำหลวงตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2562 จนกว่าภารกิจจะแล้วเสร็จ ในส่วนพื้นที่ท่องเที่ยวบริเวณขุนน้ำนางนอนยังสามารถท่องเที่ยวได้ตามปกติจึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน
นายกวี กล่าวอีกว่าการขนย้ายอุปกรณ์ในครั้งนี้มีเจ้าหน้าทั้งสิ้น 120 นาย ประกอบด้วยหน่วยซีล 90 นาย, ป้องกันภัย จังหวัดเชียงราย 30 นาย โดยใช้เวลา 3-4 วัน ในการดำเนินการแต่ทั้งนี้อาจจะต้องมีการประเมินผลดำเนินการตามสถานการณ์อีกครั้ง.
