โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

13 ปีได้เงินเพิ่มแสนล้าน! เปิดงบที่กองทัพได้รับหลังรัฐประหารแต่ละยุค

Another View

เผยแพร่ 21 ก.พ. 2562 เวลา 01.00 น.

13 ปีได้เงินเพิ่มแสนล้าน! เปิดงบที่กองทัพได้รับหลังรัฐประหารแต่ละยุค

“หนักแผ่นดิน” ไหมไม่รู้ แต่เท่าที่ดูงบกองทัพนี่หนักหนาเอาการเลยทีเดียว นอกจากการบริหารบ้านเมืองที่ดูจะไม่เป็นที่ถูกใจแก่บรรดาพี่น้องประชาชนสักเท่าไหร่แล้ว อีกสิ่งที่ทำให้ชาวบ้านต้องข้องใจ นั่นก็คือการจัดสรรงบประมาณที่เทไปทางกระทรวงกลาโหมหรือฟากกองทัพเยอะเป็นพิเศษ ดังนั้นก่อนที่เราจะเอียงข้างไปหานักการเมืองพรรคไหนที่หาเสียงว่าจะตัดงบทหาร เราไปดูก่อนว่า เยอะแค่ไหน ตัดแล้วจะเหลือเท่าไหร่บ้าง

10 กว่าปีไม่มีลด

ไม่ใช่แค่ข่าวการสั่งซื้ออาวุธเช่น เรือดำน้ำหรือรถถังที่ซื้อใหม่ สั่งใหม่ ที่ทำให้หลาย ๆ คนอาจจะขัดใจว่า เอ๊! ต้องเตรียมตัวกับศึกสงครามน่ะมันก็ใช่ แต่มันเร่งด่วนแบบต้องซื้อกันอยู่เรื่อย ๆ แบบนี้ไหม แต่ยังมีตัวเลขที่บันทึกไว้แล้วพอเอามากางดูก็เห็นได้ว่า 13 ปีหลังจากรัฐประหารงบที่กองทัพได้นั้นมากขึ้นเรื่อย ๆ 

ประเทศไทยเว้นว่างจากรัฐประหารมาตั้งแต่ พ.ศ. 2534 ซึ่งตรงกับรัฐบาล พล.อ. ชาติชาย ชุณหะวัณ ในปี 2547 และ 2548 กระทรวงกลาโหมยังได้รับงบประมาณจากส่วนกลาง 7.85 หมื่นล้าน และ 8.12 หมื่นล้านตามลำดับ แต่เมื่อมีรัฐประหารในวันที่ 19 กันยายน 2549 ซึ่ง พล.อ. สนธิ บุญยรัตนกลิน ทำการปฏิวัตยึดอำนาจจาก พ.ต.ท ทักษิณ ชินวัตร งบประมาณที่กองทัพได้ไปนั้น สูงขึ้นเป็น 1.15 แสนล้าน และเพิ่มขึ้นอีกเป็น 1.43 แสนล้าน ในปี 2550 

จนถึงปี 2561 กระทรวงกลาโหมได้รับงบประมาณถึง 2.2 แสนล้าน ซึ่งเท่ากับว่าในรัฐบาลคสช. 2561 กองทัพได้งบประมาณที่เพิ่มขึ้นกว่าตอนก่อนรัฐประหาร 49 เป็นหลักแสนล้านเลยทีเดียว

เฉพาะคสช. ก็3 ปี7 หมื่นล้าน

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า ปี 2561 ภายใต้การปกครองของ คสช. กระทรวงกลาโหมได้รับงบประมาณมากที่สุดในรอบ 13 ปี ที่ผ่านมา ดังนั้นการจับจ่ายก็ย่อมจะคล่องมือจนน่าเป็นห่วง ภายใน 3 ปี เรามีรถถังจากจีนเพิ่มขึ้นมา 38 คันเป็นเงิน 6,985 ล้าน มีรถหุ้มเกราะล้อยางเพื่อใช้ในพื้นที่เสี่ยง พื้นที่ที่มีการปะทะ เพิ่มมา 34 คันเป็นเงิน 2,300 ล้านบาท เรามีเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงสเปกสูงว่าแต่ก่อนเพิ่มมาอีก 10 ลำ 8,083 ล้านบาท  มีเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง 10 ลำ 6,599 ล้านบาท  เครื่องบินฝึกขับไล่แบบเกาหลีใต้อีก 12 ลำเป็นเงิน 12,747 ล้านบาท และเรือดำน้ำที่เป็นที่โจษจันกันไปทั่วถึงความล้าหลังว่าซื้อมาทำไม รัฐบาลนี้ก็ทำจัดหามาให้เรา 3 ลำเป็นเงินถึง 36,000 ล้านบาท 

กดเครื่องคิดเลขมาแล้วก็เป็นเงินถึง 72,714 ล้านบาท  ซึ่งยอดนี้นับจากการซื้อเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วเท่านั้น  ซึ่งถ้า รัฐบาล คสช. ยังนั่งในตำแหน่งต่อไป การเบิกจ่ายซื้ออาวุธบางส่วนจะกลับมาดำเนินการต่อและงบประมาณจะเพิ่มไปกว่านี้ได้อีก

เงินขนาดนี้เอาไปทำอย่างอื่นมั้ย?

จากการค้นคว้าครั้งนี้สิ่งที่เห็นชัด ๆ คือ เรามีเรื่องเร่งด่วนที่มากกว่านี้และเป็นปัญหา ทั้งสภาพอากาศที่เลวร้ายจนทำลายทั้งสุขภาพและเศรษฐกิจ หรือความขาดแคลนในกระทรวงสาธารณสุข ที่สุดท้ายต้องพึ่งคนนอกให้ไปวิ่งระดมทุน

เงินหลักหมื่นล้านที่เสียไปกับอาวุธมันเจียดมาบำรุงส่วนต่าง ๆ เหล่านี้ได้ไหม ? 

สงครามอาจเกิดอีก ก็น่าจะเป็นสิ่งที่พอรอได้ แต่กับปากท้องของพี่น้องประชาชนที่ยังไม่ได้รับการดูแลให้ทั่วถึงนั้นจะรอได้ยังไง? 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

https://www.prachachat.net/politics/news-161517

https://thaipublica.org/infographics/military-spending-gdp/

https://prachatai.com/journal/2017/06/71901

https://www.thairath.co.th/content/1382286

http://www.ispacethailand.org/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87/10841.html

https://www.khaosod.co.th/politics/news_2224927

ภาพประกอบ

https://www.prachachat.net/facebook-instant-article/news-112490

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0