โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

12 ธันวาคม 62 พระราชพิธี 'เสด็จเลียบพระนครทางชลมารค'

MThai.com

เผยแพร่ 12 ธ.ค. 2562 เวลา 03.18 น.
12 ธันวาคม 62 พระราชพิธี 'เสด็จเลียบพระนครทางชลมารค'
วันที่ 12 ธันวาคม 62 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ตามโบราณราชประเพณี เพื่อให้พสกนิกรได้เฝ้าทูลละอองทุลีพระบาทถวายพระพรชัยมงคล ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

ประเด็นน่าสนใจ
1. วันนี้ (12 ธ.ค.) พระราชพิธีเบื้องปลาย ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562
2. เป็นความงดงามของขบวนเรือพระราชพิธี ในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค
3. ประชาชนสามารถใช้บริการ BTS และ MRT รวมถึงรถโดยสารด่วนบีอาร์ที โดยเปิดให้บริการฟรีตลอดเส้นทาง

วันนี้ (12 ธ.ค.) จะเป็นครั้งแรกในแผ่นดินรัชกาลที่ 10 ซึ่งเป็นพระราชพิธีเบื้องปลาย ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 เป็นความงดงามของขบวนเรือพระราชพิธี ในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค นับเป็นอีกวาระสำคัญของพสกนิกรไทย ที่จะได้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ เพื่อน้อมถวายพระพรชัยมงคล และแสดงความจงรักภักดี ทั้งยังเป็นโอกาสสำคัญที่ได้ชมความงามงดงามของขบวนเรือพระราชพิธีที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลก

คลิกที่ลิงค์ด้านล่างเพื่อดูวีดีโอ
คลิกที่ลิงค์ด้านล่างเพื่อดูวีดีโอ

ดูวีดีโอ

สำหรับขบวนเรือ ในพระราชพิธีสำคัญครั้งนี้ จัดตามรูปแบบโบราณราชประเพณี แบบขบวนเรือ 5 ริ้ว 3 สาย ใช้เรือพระราชพิธีในขบวนเรือจำนวน 52 ลำ ประกอบด้วย เรือพระที่นั่ง 4 ลำคือ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์, เรือรูปสัตว์ และเรืออื่น ๆ ประเภทเรือดั้ง เรือแซง เรือตำรวจ

โดยขบวนเรือมีความยาวจากหัวขบวนถึงท้ายขบวนประมาณ 1.2 กิโลเมตร ใช้กำลังพลประจำเรือ 2,200 นาย แต่งกายชุดพระราชพิธีตามโบราณราชประเพณี โดยเส้นทางเสด็จพระราชดำเนิน จากท่าวาสุกรีถึงท่าราชวรดิฐระยะทางประมาณ 3.5 กิโลเมตร สำหรับการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เป็นงานที่ต่อเนื่อง มาจากพระราชพิธีบรมราชาภิเษกช่วงต้น และช่วงกลางตั้งแต่ต้นปี

และในพระราชพิธีครั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัด “ขบวนราบ” เพิ่มขึ้น โดยภายหลังเสร็จสิ้นการเสด็จฯ เลียบพระนครทางชลมารคแล้ว จะเสด็จพระราชดำเนินโดยริ้วขบวนราบ กลับเข้าสู่พระบรมมหาราชวัง

ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับบนพระราชยานพุดตานทอง จากพระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย และยาตราโดยริ้วขบวนราบ ออกจากท่าราชวรดิฐมาตามถนนมหาราช ก่อนเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนหน้าพระลาน แล้วเลี้ยวขวาเข้าพระบรมมหาราชวัง ที่ประตูวิเศษไชยศรี แล้วเสด็จไปสู่พระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ ในพระบรมมหาราชวัง โอกาสนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระดำเนินเข้าริ้วขบวนราบในฐานะราชองครักษ์ประจำพระองค์ คู่เคียงพระราชยานฝั่งขวา

และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงพระดำเนินเข้าริ้วขบวนราบในฐานะ ราชองครักษ์ประจำพระองค์คู่เคียงพระราชยาน ฝั่งซ้าย รวมระยะทางประมาณ 820 เมตร วันนี้ พสกนิกรชาวไทยจะได้ชื่นชมพระบารมีทั้งทางบกและทางน้ำ ที่นับเป็นครั้งแรก แห่งพระราชพิธีอันยิ่งใหญ่และงดงามในรัชสมัยรัชกาลที่ 10

สำหรับผู้ที่ต้องการจะเดินทางไปรอรับเสด็จและชื่นชมความงดงามในโบราณราชประเพณี ทาง BTS และ MRT รวมถึงรถโดยสารด่วนบีอาร์ที ได้เปิดให้บริการฟรีตลอดเส้นทาง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่เดินทางไปเฝ้ารับเสด็จฯ เลียบพระนครทางชลมารค

นอกจากนี้ รถไฟฟ้า MRT ยังเปิดให้บริการอาคารและลานจอดรถฟรี ตามเส้นทาง สายสีน้ำเงินและสายสีม่วง ตลอดระยะเวลาการให้บริการ โดยพระราชพีจะเริ่มขบวนในเวลา 15.30 น. เพราะฉะนั้นควรจะต้องเดินทางกันตั้งแต่เช้าเพื่อผ่านจุดคัดกรองและ จับจองที่นั่งชม โดยทางรับบาลได้เชิญชวนประชาชนสวมเสื้อสีเหลืองเพื่อร่วมรับเสด็จในครั้งนี้

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0