ก่อนประจำเดือนมาเมื่อไหร่ ผิวหน้าต้องมันเยิ้มทุกครั้ง. . .ใช่ไหมคะ? เป็นธรรมดาค่ะ เพราะฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนเปลี่ยนแปลงในขณะที่รังไข่เราผลิตฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน เมื่อฮอร์โมนในร่างกายไม่สมดุล ผิวของเรามันจึง เหนียว และเกิดสิวอย่างที่เห็นนี่แหละ
แต่สาวๆ อย่าเพิ่งหัวเสียไปค่ะ วันนี้AkeruFeed มีเคล็ดลับดีๆ ที่ช่วยให้ผิวเราดูสดใสไม่ว่าจะก่อนหรือหลังมีประจำเดือนมาฝากค่ะ
โพรไบโอติกช่วยได้
พืชผักหรือสารอาหารจำพวกโพรไบโอติกหรือแบคทีเรียชนิดดีช่วยเผาผลาญและผลิตฮอร์โมนขึ้นมาใหม่ โดยฮอร์โมนที่ว่ารวมไปถึงเอสโตรเจน ไทรอยด์ และไฟโตอีสโทรเจนจากอาหาร ซึ่งฮอร์โมนเหล่านี้ทำให้ผิวหน้าของสาวๆ มีสิวค่ะ โพรไบโอติกจึงเหมือนเป็นสารอาหารที่ช่วยปรับฮอร์โมนของเราให้สมดุล เมื่อฮอร์โมนสมดุลแล้วก็ย่อมส่งผลดีต่อผิวพรรณภายนอกด้วย
โอเมก้า 3 ในน้ำมันตับปลา
โอเมก้า 3 ไม่ได้ช่วยเรื่องความจำสำหรับเด็กกำลังโตเท่านั้น แต่สาวๆ ที่รักสวยรักงามอย่างเราๆ ก็จำเป็นเหมือนกัน เพราะโอเมก้า 3 ที่พบในน้ำมันตับปลานี้จะช่วยลดอาการทั้งหลายที่มีก่อนเป็นประจำเดือน รวมถึงยับยั้งเนื้องอกและอาการปวดท้องน้อย ทีนี้สาวๆ ก็จะมีผิวนุ่มเนียน ผมมันเงา และเล็บที่แข็งแรง ทั้งสวยดีและมีประโยชน์ครบถ้วนอย่างนี้ไม่กินไม่ได้แล้ว
จัดระเบียบการกิน
ง่ายๆ เลยก็เริ่มจากการงดอาหารที่ทำให้ฮอร์โมนของเราไม่สมดุล เลี่ยงผลิตภัณฑ์เนยนม ของหวานน้ำตาลสูง อุดมไปด้วยคาเฟอีน คาร์โบไฮเดรต เหล้าเบียร์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งหลาย แต่ถ้ารู้สึกโหยน้ำตาลแล้วล่ะก็ ลองกินผลไม้หรือธัญพืชต่างๆ แทนก็ได้ เพราะอาหารเหล่านี้มีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ไม่ทำให้เราอยากน้ำตาลมากค่ะ
ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ
น้ำเปล่าใสๆ นี่แหละค่ะที่ช่วยเราได้สารพัดอย่าง ตั้งแต่ล้างสารพิษในร่างกายทำให้ฮอร์โมนสมดุล ป้องกันโรคท้องผูก ทำให้ลำไส้สุุขภาพดีเพราะขับของเสียออกไป ที่สำคัญยังไม่ทำให้เราท้องบวม เพราะยิ่งดื่มน้ำมาก ก็ยิ่งกระตุ้นการขับของเหลวเสียๆ ออกจากร่างกาย สาวๆ หลายคนแอบกระซิบมาว่าการดื่มน้ำมากๆ ช่วยลดอาการปวดท้องประจำเดือนด้วยค่ะ ว่าแล้วก็ไปหาน้ำมาดื่มสักแก้วดีกว่า
ใช้ผลิตภัณฑ์ผสมสารต้านเนื้องอก
อาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นก่อนมีประจำเดือนนั้นเกิดจากการอักเสบที่กรดไขมันซึ่งได้จากโพรสตาแกลนดิน และฮอร์โมนเพศหญิงที่ไม่สมดุล โดยโพรสตาแกลนดินคือตัวการที่ทำให้ผิวของเราหมองคล้ำ เราเลี่ยงได้ด้วยการไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผสมสาร SLS, SLES, แอลกอฮอล์ และน้ำหอม เปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารต้านเนื้องอกอย่างชาเขียว คาโมไมล์ น้ำมันอาร์แกน กรดไฮยาลูโร สารสกัดจากเปลือกต้น willow หรืออโลเวร่า ซึ่งไม่ทำให้ผิวระคายเคือง
เติมความชุ่มชื้นให้ผิว
เพราะอาการก่อนมีประจำเดือนทำให้ผิวของเราสูญเสียมอยส์เจอร์ไรเซอร์ แห้งกร้าน และหมองคล้ำ นี่จึงเป็นเหตุผลที่สาวๆ ต้องเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว โดยเราอาจใช้โลชั่นหรือมาสก์ที่ช่วยทำให้ผิวอิ่มน้ำ หรือจะเป็นเซรั่มที่ผสมกรดไฮยาลูโรก็ไม่เลวนะคะ
ทาครีมกันแดด
แม้จะไม่ได้ออกไปไหนในวันมามาก แต่สาวๆ ก็อย่าละเลยการทาครีมกันแดดนะคะ เพราะอยู่ในที่ร่มไม่ได้หมายความว่าจะไม่โดนรังสียูวี ช่วงฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงบ่อยอย่างนี้ผิวของเราจะบอบบางเป็นพิเศษ ในขณะที่ฮอร์โมนก็เร่งสร้างเมลาโนไซต์ให้ผลิตเม็ดสีผิวมากขึ้น ทางที่ดีเราจึงควรทาครีมกันแดดและหลีกเลี่ยงแดดจ้าเพื่อไม่ให้ผิวถูกทำร้ายค่ะ
หลีกเลี่ยงการทำทรีตเมนต์หน้า
อย่างที่บอกไปว่าช่วงก่อนประจำเดือนมา ผิวของเราจะบอบบางและถูกทำร้ายได้ง่าย ทรีตเมนต์หน้าก็เป็นอีกหนึ่งตัวการทำร้ายผิวที่สาวๆ ควรเลี่ยงเช่นกัน เพราะมันจะยิ่งกระตุ้นผิวให้น้ำมันออกมา ทำให้ระคายเคืองและอักเสบได้ง่าย เวลาที่ดีที่สุดสำหรับการทำทรีตเมนต์คือช่วงหลังหมดประจำเดือนไปสองสัปดาห์ค่ะ โดยตอนนั้นจะเป็นช่วงที่ฮอร์โมนเอสโตรเจนพุ่งขึ้นสูง ช่วยคงความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้สาวๆ ดูมีน้ำมีนวลใสปิ๊ง
รีแลกซ์เบาๆ
ยิ้มเข้าไว้แม้จะไม่พอใจใคร เพราะงานวิจัยพบว่าผู้หญิงกว่าครึ่งที่เครียดในช่วงมีรอบเดือน มักมีฮอร์โมนคอร์ติซอลหลั่งออกมา ทำให้ฮอร์โมนอื่นๆ ในร่างกายไม่สมดุล ลองหาเวลาพักผ่อนอย่างนอนหลับเบาๆ เพื่อช่วยให้ร่างกายและสมองผ่อนคลายมากขึ้น และนี่เองที่ทำให้ผู้หญิงตลกดึงดูดใครต่อใคร เพราะเสน่ห์มันเปล่งออร่ามาจากภายในยังไงล่ะ
ฟิต แอนด์ เฟิร์ม
เวิร์คเอาท์จะช่วยให้ฮอร์โมนในร่างกายสมดุล รวมทั้งทำให้ผิวที่หมองคล้ำหรือหน้าท้องที่บวมฉึ่งดีขึ้น ที่สำคัญผิวของเธอจะกลับมาผุดผ่องมีออร่าเปล่งประกาย เพราะทุกครั้งที่ออกกำลังกาย เราก็ได้ขับของเสียออกไปด้วยค่ะ
ถ้าสงสัยว่า 10 วิธีนี้จะได้ผลจริงๆ เหรอ ก็บอกได้คำเดียวว่า “ต้องลองดู” ค่ะ เพราะอย่างน้อยมันก็ไม่ทำให้เราเสียสุขภาพแน่นอน
