โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

10 อย่างง่ายๆ ที่จะทำให้ เรามีความสุข กับทุกพื้นที่ใน บ้าน มากขึ้น

MThai.com - Decor

เผยแพร่ 24 ธ.ค. 2560 เวลา 10.59 น.
10 อย่างง่ายๆ ที่จะทำให้ เรามีความสุข กับทุกพื้นที่ใน บ้าน มากขึ้น
ทำอย่างไรให้พลังงานเชิงบวกอยู่รอบๆ ตัวเราในทุกตารางนิ้วของบ้าน ง่ายนิดเดียวเลยค่ะ

บ้าน ของเรา คือ สิ่งที่จะบอกตัวตนของเราเอง  เราตกแต่งผนังห้องอย่างไร นั่นคือสิ่งที่บอกเล่าอารมณ์ของเรา ส่งผลต่อผลงาน และมีอิทธิพลต่อชีวิตของเราเอง ผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์แสดงให้เห็นว่า กิจวัตรประจำวันยามเมื่อเราอยู่บ้าน และนิสัยการจัดบ้านเล็กๆ น้อยๆ มีผลต่อความสุขในชีวิตของเราเอง สิ่งเหล่านี้ประกอบขึ้นเป็นตัวเรา จากกิจวัตรประจำวันนั่นเอง

มันเป็นเรื่องน่าประหลาดใจมากที่ถ้าหากว่าเราเปลี่ยนแปลงความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวันเพียงเล็กน้อยก็จะส่งผลบวกให้ชีวิตเราเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างมีคุณค่า และนี่คือ สิ่งละอันพันละน้อยที่จะทำให้เรามีความสุขขึ้นในบ้านของเราเอง

1.จัดเตียง
Gretchen Rubin นักเขียนหนังสือเรื่อง The Happiness Project ที่ติดอันดับขายดีจาก นิวยอร์กไทม์ส เคยกล่าวไว้ว่า การจัดเก็บเตียงเพียง 3 นาทีในทุกเช้า คืองานง่ายที่ง่ายที่สุด ซึ่งเราทุกคนควรทำให้เป็นนิสัย เพราะจะส่งผลให้เรามีทัศนคติเชิงบวกในชีวิตที่จะส่งผลต่อการใช้ชีวิตของวันนั้นทั้งวันของเราเอง

2. เตรียมห้องทุกห้องให้พร้อมใช้งานเสมอ
จากหนังสือของ Marilyn Paul ชื่อ It’s Hard to Make a Difference When You Can’t Find Your Keys  แค่ชื่อเรื่องก็บอกแล้วว่า ความไม่พร้อม คือ อุปสรรคที่ก่อให้เกิดความเครียด  ทำอย่างไรล่ะที่จะให้ห่างไกลจากความเครียด  ?  จริงๆ แล้ว เราสามารถบิ้วท์อารมณ์ของเราเองให้เป็นไปในเชิงบวกได้เพียงแค่ใช้เวลา 3  นาทีก่อนออกจากห้อง หรือออกจากบ้าน จัดการจัดเก็บห้องต่างๆ ให้เรียบร้อย 3 นาทีก็เพียงพอสำหรับคนที่อยู่บ้านเพียงคนเดียว ไม่มีเด็กเล็กหรือ เพื่อนร่วมห้องที่พร้อมจะรื้อข้าวของให้กระจัดกระจายน่ะนะ

3.จัดวางสิ่งของที่มีคุณค่าทางใจไว้ตามจุดต่างๆ ในบ้าน 
1 เหตุผลที่ประสบการณ์หรือภาพความทรงจำจะทำให้เรามีความสุขได้  คือการจัดวาง ภาพถ่ายหรือ สิ่งของที่มีคุณค่าทางจิตใจ ที่ชวนให้ระลึกถึงความสุขในช่วงเวลานั้นๆ  อยู่รอบๆ ตัวภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็น เป้าหมายประจำปี, สิ่งที่คิดว่าอยากจะทำ, ภาพประสบการณ์แสนสนุก หรือ สิ่งที่ชวนระลึกถึงความทรงจำเก่าๆ  ทำให้บ้านของเรากลายเป็นแกลลอรี่ของความทรงจำดีดีกันเถอะ

4. จดบันทึกหรือทบทวนเรื่องราวดีๆ ประจำวันก่อนนอน
เพียงแค่ก่อนเข้านอน สละเวลาเพียงสั้นๆ  จดบันทึกหรือทบทวนความทรงจำดีดีของวันนั้นๆ ที่คุณอยากจะขอบคุณ หากคุณมีลูกหลาน หรือคนในครอบครัวก็เพียงแค่ชวนคุยถามถึง สิ่งดีดีที่เขาได้พบในแต่ละวัน นี่คือกฎของกระจกเงา ที่จะดึงดูดพลังเชิงบวกให้หมุนเวียนอยู่ภายในบ้าน ทำให้เราเห็นคุณค่าและความหมายของชีวิตในด้านบวกถึงแม้จะเป็นสิ่งเล็กน้อยแต่ก็เป็นแง่งามของชีวิต ซึ่งหากวันไหนที่คุณหมดพลัง คุณก็สามารถกลับมาอ่านบันทึกเหล่านี้เพื่อเติมพลังให้กับชีวิตในวันหมดแรงได้เช่นกัน

5.  เกลียดสิ่งไหน ให้เข้าหาสิ่งนั้น 
นี่คือสิ่งที่หนังสือ The Happiness Project สอนเอาไว้  หลายๆ คน ไม่ชอบล้างจาน แต่จานมันก็ล้างตัวมันเองไม่ได้ ดังนั้น ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ สุดท้าย คุณก็จะต้องทำมันอยู่ดี กระโดดเข้าไปล้างมันเลยค่ะ  แล้วคุณจะชอบ หรือ คุณจะจ้างแม่บ้านก็ทำได้ ก็งานมันต้องทำนี่นา อย่างไรก็ตาม การล้างจานก็มีข้อดี มือของคุณได้สัมผัสน้ำอุ่นเพื่อกระตุ้นการหมุนเวียนเลือด (หากเป็นก็อกน้ำอุ่น) ไหนจะได้สนุกกับฟองน้ำยาล้างจาน และอย่าลืมเปิดเพลงมันส์ๆ ที่จะทำให้คุณได้ตะโกนร้องระหว่างล้างจานให้มันสาแก่ใจนังช้อยไปเลย นี่ล่ะ คือสิ่งที่จะทำให้คุณมีความสุขในชีวิตมากขึ้น

6. เมื่อตื่นนอนในทุกเช้า ให้ตั้งเป้าหมายของแต่ละวันไว้เสมอ 
จากหนังสือ The Art of Happiness องค์ดาไลลามะ กล่าวว่า ” ในทุกวันที่คุณตื่น จงคิดไว้เสมอว่า ฉันช่างโชคดีที่วันนี้ฉันยังตื่นมาและยังมีชีวิตอยู่ ฉันมีสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตของมนุษย์คนหนึ่งพึงมี และฉันจะไม่ปล่อยให้มันสูญเปล่า ” โอ้โห…ไฟลุกโชนมาพรึ่บพรั่บเลย!!!! การคิดเช่นนี้ จึงจะทำให้ชีวิตของเราเปลี่ยนแปลง และใช้ชีวิตทุกช่วงเวลาอย่างมีคุณค่า และมีความหมาย ลองตั้งเป้าหมายของตัวคุณเองดูก็ได้ค่ะ อย่างเช่น “วันนี้ฉันจะสร้างสรรค์ผลงานอย่างมีคุณภาพ” หรือ “วันนี้ฉันจะเอร็ดอร่อยกับทุกอย่างที่กินเข้าไป” หรือ “วันนี้ฉันจะกล่าวขอบคุณทุกคนที่ฉันรัก” คิดเช่นนี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเช้าวันจันทร์ หรือ เช้าวันเสาร์ คุณก็จะรักทุกวันของชีวิต

7. ทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ  ให้คนใกล้ตัว 
ไม่ว่าจะเป็นแม่บ้าน เพื่อนร่วมงาน เพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมห้อง หรือแม้กระทั่งสามี โดยต้องทำแบบไม่หวังสิ่งตอบแทนด้วยนะคุณ หากทำอะไรให้พวกเขาแล้วยังไม่ได้รับแม้กระทั่งคำขอบคุณก็ต้องไม่โกรธ ไม่ถือสา  อย่างเช่น การล้างจานแทนแม่บ้าน เอาขยะไปทิ้งแทนเวรของเพื่อนร่วมห้อง โกนหนวดให้คุณสา อบขนมแบ่งให้เพื่อนบ้าน สิ่งเหล่านี้จะนำมาซึ่งความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด  ผู้ที่ให้ก่อน ย่อมมีความสุขและสุขภาพจิตที่ดี แต่เมื่อไหร่ที่คุณนับแต้ม เมื่อนั้นคุณแพ้เสียแล้วค่ะ อย่างเช่น การคิดว่า “ไม่นะ กองขี้หมากองนี้ไม่ใช่หน้าที่ฉันที่จะต้องเก็บ !”  นั่นแหละ คุณแพ้แล้ว ! หลักการข้อนี้มันเรียบง่ายมาก คือ เมื่อคุณทำดี คุณย่อมรู้สึกดี เท่านี้เลยคุณ

8.โทรหาเพื่อน หรือ คนในครอบครัวอย่างน้อย 1 สายต่อวัน 
คุณสามารถโทรคุยได้ในเวลาที่คุณทำความสะอาดบ้าน จัดเตียง หรือ จูงสุนัขไปเดินเล่น ไม่นับรวมการส่งข้อความและการพิมพ์อีเมล เพราะการโทรหาใครสักคนที่คุณรัก จะทำให้คุณได้ใกล้ชิดและเชื่อมโยงความรู้สึกได้ดีกว่า เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคม และผลการศึกษาก็ออกมาแล้วว่า แม้ว่าเราจะเป็นคนชอบเก็บตัว ไม่ชอบเข้าสังคมก็ตามแต่ แต่การได้พูดคุยกับคนที่คุณรักจะช่วยทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นมาก

9. เปย์ในสิ่งที่ช่วยให้มีกิจกรรมร่วมกันภายในบ้าน 
การซื้อเตาใหม่สำหรับปิ้งบาร์บีคิวกลางสนาม หรือ แผ่นดีวีดีเรื่องใหม่สักเรื่องสำหรับดูร่วมกันในครอบครัว จะช่วยทำให้คุณมีส่วนร่วมกับในครอบครัวมากขึ้น และมีช่วงเวลาแห่งความสุขร่วมกันเป็นความทรงจำดีๆ  อย่าลืมชวนเพื่อนสนิทมาร่วมงานปาร์ตี้ในบ้านของคุณ และอย่าลืมถ่ายรูปเพื่อบันทึกช่วงเวลาดีๆ เหล่านี้ แล้วตั้งไว้ในบ้านของคุณด้วยล่ะ

10. ใช้เวลาก่อนนอน คิดถึงสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเอง
    ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือ ศรัทธาเรื่องของจิตวิญญาณหรือไม่ก็ตามแต่ มีผลการศึกษาออกมาแล้วว่า การได้เชื่อมโยงกับสิ่งที่เหนือธรรมชาติ จะนำมาซึ่งความสุข เพราะเราคือส่วนหนึ่งของจักรวาลอันไร้ที่สิ้นสุด ยังมีอีกหลายสิ่งที่เรายังไม่รู้ และไม่เคยได้ประสบพบเห็นอีกมาก เคยได้ยินประโยคที่ว่า เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาวไหมล่ะค่ะ ในเมื่อเราเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลและความคิดถึงก็เป็นคลื่นพลังงานรูปแบบหนึ่ง  การได้ใช้เวลาช่วงก่อนเข้านอน เพื่อคิดถึงสิ่งอื่นๆ ที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเอง  การเดินเล่นในสวน  การเขียนบันทึก หรือ ในทางพุทธ ก็จะให้สวดมนต์ แผ่เมตตา ก็จะช่วยให้เกิดพลังบวกในจิตใจ เป็นความสงบสุขในทุกตารางนิ้วของบ้านได้เป็นอย่างดีค่ะ

เพราะบ้านไม่ใช่แค่เพียงก่อสร้างจากก้อนหิน ดิน ทราย หากส่วนสำคัญที่ก่อร่างให้บ้านกลายเป็นศูนย์รวมที่พึ่งทางจิตใจ นั่นคือ สมาชิกทุกคนภายในบ้าน ที่ทำให้บ้านแต่ละหลังมีชีวิตชีวา มีจิตวิญญาณที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป และบ้านก็คือตัวเรานั่นเองค่ะ

ที่มาจาก www.apartmenttherapy.com

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 2

  • ท่านขุน สุราพินาศ
    รูปประกอบไม่ใช่คนไทยเลยนะ หวานไม่ออกหรอก
    25 ธ.ค. 2560 เวลา 00.32 น.
  • Top
    บทความดีครับ ขอบคุณครับ
    25 ธ.ค. 2560 เวลา 00.19 น.
ดูทั้งหมด