แน่นอนว่าคุณพ่อคุณแม่ทุกคนล้วนอยากให้ลูกมีสุขภาพที่ดี ร่างกายแข็งแรง จิตใจแจ่มใสร่าเริง แต่รู้หรือไม่ว่า อาหารที่ลูกรับประทานอยู่ทุกวันนั่นแหละที่มีบทบาทสำคัญในการควบคุมสิ่งเหล่านี้
แล้วจะรู้ได้อย่างไรล่ะว่าลูกคุณได้รับสารอาหารที่ดีอย่างเพียงพอ วันนี้เราจึงมี 10 สัญญาณที่บ่งบอกว่าลูกคุณอาจจะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอมาฝาก
1. ลูกมีอาการหดหู่หรืออาการกระวนกระวาย
อาการนี้สามารถเกิดได้ถ้าเด็กได้รับโปรตีนในปริมาณที่ไม่เพียงพอ เพราะในโปรตีนจะประกอบไปด้วยกรดอะมิโนที่มีความสำคัญต่อการส่งสัญญาณระหว่างเส้นประสาทภายในสมอง การได้รับโปรตีนในปริมาณที่เพียงพอจะทำให้เซลล์ในสมองทำงานและส่งสัญญาณได้ดี มีผลทำให้เด็กสบายใจ ไม่หงุดหงิด และอยู่อย่างสงบสุข
2. อาการไฮเปอร์
ไฮเปอร์ (Hyperactivity) คือภาวะอยู่ไม่สุขหรืออยู่ไม่นิ่ง ขาดสมาธิ และไขว้เขวง่าย เกิดจากการทำงานที่ผิดปกติของสมอง เด็กที่มีอาการไฮเปอร์ฯ ส่วนใหญ่จะพบว่ามีปริมาณแบคทีเรียประจำถิ่นที่ต่ำและระบบย่อยอาหารที่ไม่ดี ทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมสารอาหารได้อย่างเต็มที่ คุณหมอจะแนะนำให้คุณหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป อาหารที่ใส่สีสังเคราะห์ และเพิ่มโพรไบโอติกส์ซึ่งก็คือแบคทีเรียที่ดีที่หาได้จากในนมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ต เป็นต้น
3. อาการพูดช้า
อาการพูดช้าสามารถเกิดขึ้นได้กับเด็กที่ได้รับวิตามินบี 12 ไม่เพียงพอ ซึ่งวิตามินบี 12 สามารถพบได้สูงในเนื้อวัว ไก่ หมู ปลา หอย นม และ ไข่
4. ผิวและผมแห้ง
เกิดจากการที่เด็กขาดไขมันที่จะเป็นตัวทำละลายให้วิตามิน เช่น วิตามิน เอ ดี อี เค คุณสามารถเพิ่มไขมันนี้ได้โดยให้ลูกกินน้ำมันตับปลา ก็จะช่วยให้ผมลูกกลับมาแข็งแรงและเงางาม
5. ฟันเก
จากการศึกษาของ Dr. Weston A. Price ผู้เขียน A. Price’s book Nutrition and Physical Degeneration พบว่า เด็กที่กินแต่อาหารแปรรูป หรืออาหารที่มีสารอาหารน้อย หรือขณะตั้งครรภ์คุณแม่กินแต่อาหารที่ไม่มีคุณภาพ จะทำให้ลูกมีโครงสร้างฟันที่แย่และมีช่องระหว่างฟันไม่สวยงาม ต่างกับเด็กที่ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน 5 หมู่ ฟันจะขึ้นเรียงตัวกันสวยงาม และอาจจะมีที่เหลือให้ฟันคุดขึ้นอีกด้วย
6. ฟันผุ
คุณอาจจะคิดว่าฟันผุเกิดจากการที่เด็กทานขนมและแปรงฟันไม่สะอาด แต่จริงๆ แล้ว Dr. Weston ได้ศึกษาและพบว่า ฟันผุเกิดจากการที่เด็กขาดแร่ธาตุบางชนิดและขาดไขมันที่เป็นตัวทำละลายวิตามิน จึงไม่สามารถดูดซึมแร่ธาตุเหล่านั้น Dr. Weston A. Price กล่าวว่า “เด็กที่ได้รับแร่ธาตุ โดยเฉพาะฟอสฟอรัสและไขมันตัวทำละลายในปริมาณที่พอเพียง ไม่มีเด็กคนไหนที่ฟันผุเลย”
7. เป็นไข้หวัดบ่อย
ถ้าลูกคุณเป็นไข้หวัดบ่อย คุณลองเปลี่ยนอาหารดูสิ ลองให้ลูกหันมากินอาหารออร์แกนิก อาหารที่ปรุงสุกใหม่ และผ่านการปรุงแต่งน้อยๆ รวมทั้งผักและผลไม้ ก็จะช่วยให้ลูกป่วยน้อยลงได้
ถ้าลูกเป็นเด็กกินผักผลไม้ยาก คุณอาจจะเอาผักและผลไม้มาปั่นให้กลายเป็นสมูทตี้เย็นเจี๊ยบหวานชื่นใจก็จะช่วยได้
8. อารมณ์ฉุนเฉียว
Julia Ross จาก The Mood Cure ชี้แจงว่า ไขมัน (โดยเฉพาะไขมันโอเมกา 3 ที่พบในปลาแซลมอนธรรมชาติ ปลาซาร์ดีน และปลาแมคลาเรล) มีความสำคัญในการรักษาอารมณ์ที่ดีให้คงที่ เธอยังกล่าวอีกว่า ไขมันอิ่มตัวที่ดีจากเนย และน้ำมันมะพร้าวจะช่วยปกป้องโอเมกา 3 ในสมอง
มากไปกว่านั้น การรักษาสมดุลของฮอร์โมนก็เป็นเรื่องที่สำคัญ คุณรู้หรือไม่ว่า แคร์รอตมีส่วนช่วยในการดูดซึมปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มากเกินไปในร่างกาย ปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มากเกินไปในร่างกายจะทำให้เด็กรู้สึกหงุดหงิด
9. ภาวะศีรษะแบน (flat head syndrome)
ภาวะศีรษะแบนคือการที่กะโหลกศีรษะ มีรูปทรงที่ผิดจากปกติไป จากการวิจัยของ Dr. Weston A. Price พบว่าคุณแม่ที่ตอนตั้งครรภ์ทานอาหารที่เต็มไปด้วยไขมันดี และโปรตีนที่มาจากเนื้อสัตว์ และ อาหารทะเล ธัญพืช ผัก และผลไม้ตามฤดูกาล และหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป ทารกที่อยู่ในครรภ์จะมีการพัฒนาของช่องปากกับกะโหลกศีรษะได้เป็นอย่างดีและจะไม่มีปัญหาภาวะศีรษะแบน
10. โรคอ้วน
ดูไม่น่าเชื่อที่คนอ้วนจะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ แต่สาเหตุที่คนเป็นโรคอ้วนจริงๆ แล้วมาจากการที่ร่างกายขาดสารอาหารที่เป็นประโยชน์ เพราะเลือกกินแต่อาหารที่มีสารอาหารน้อย เช่น อาหารแปรรูป ฟาสต์ฟู้ด ทำให้ร่างกายรู้สึกหิวบ่อย กินเท่าไรก็ไม่รู้สึกอิ่มสักทีนั่นเอง
อ้างอิง
