ชั่วโมงนี้ข่าวสารบอลไทย มีแต่คนพูดถึงทีมเมืองทองฯ เมืองทองฯ ที่ล่าสุดเพิ่งจะปล่อยสองดาวเตะระดับซุปตาร์อย่าง อดิศร พรหมรักษ์ กับ สารัช อยู่เย็น ออกไป ท่ามกลางความไม่พอใจของแฟนบอล ที่ไม่รู้ว่าทีมจะเดินต่อไปในทิศทางไหน
แต่เรื่องนั้น เราก็คงต้องรอดูกันต่อไป เพราะทั้งหมดมันเป็นเรื่องของวิถีฟุตบอล และธุรกิจ ทีมอย่างเอสซีจี เมืองทองฯ เป็นถึงอดีตแชมป์ไทยลีก 4 สมัย คงไม่ยอมให้สโมสร กลายไปเป็นทีมกลางตารางหรือต้องไปหนีตกชั้นแน่นอน ผมเชื่อว่าอย่างนั้น
แต่วันนี้เราพักเรื่องซีเรียสๆ เอาไว้ก่อน มาติดตามอะไรๆ ที่มันสบายๆ และเป็นเรื่องราวในอดีตที่น่าสนใจดีกว่า กับ 10 กองหลังที่ดีที่สุดของ เอสซีจี เมืองทอง ในรอบ 11 ฤดูกาลที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2009-2019 ว่ามีใครกันบ้าง
10.คิม ดอง จิน
คนแรกขอยกให้ คิม ดอง จิน ปราการหลังทีมชาติเกาหลีใต้ ชุดบอลโลก 2006,2010 ที่ย้ายมาร่วมทีมในฤดูกาล 2014 ซึ่งพกดีกรีต่างๆ มากมาย นอกจากเคยไปบอลโลกมาแล้ว ก็ยังไปค้าแข้งกับเซนิตฯ ทีมดังในรัสเซีย ได้แชมป์ลีก และแชมป์ยูฟ่า คัพ มาด้วย
ซึ่งตอนที่มาอยู่เมืองทอง ก็ถือว่าทำผลงานได้ยอดเยี่ยม เป็นตัวหลักของทีม เล่นได้ทั้งเซ็นเตอร์ และแบ็กซ้าย ส่วนใหญ่ก็จะถูกจับไปเล่นแบ็กมากกว่า เป็นนักเตะที่ขยัน แข็งแกร่ง และทุ่มเทเกินร้อย โดยอยู่กับทีมถึงปี 2015 ก่อนจะย้ายกลับไปเกาหลีใต้ และล่าสุดก็แขวนสตั๊ดไปเรียบร้อย
9.อดิศร พรหมรักษ์
คนต่อมาก็คือ "เจ้าเก่ง" อดิศร พรหมรักษ์ ที่เพิ่งจะถูกปล่อยตัวไปให้การท่าเรือ เอฟซี เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยกิเลนผยอง ไปคว้าตัว อดิศร มาจากบีอีซี เทโร เมื่อฤดูกาล 2016 ในเลกสอง เพื่อมาเสริมความแข็งแกร่งในการไล่ล่าแชมป์ไทยลีก
ซึ่งเจ้าเก่ง ก็กลายมาเป็นกองหลังตัวหลักของทีมเล่นร่วมกับ เซลิโอ ซานโตส บางเกมก็ถูกจับไปเล่นแบ็กขวาบ้าง ซึ่งเจ้าตัวมักจะโดดเด่นในการเล่นในระบบหลังสาม เพราะมีความคล่อง อ่านเกมได้ดี และถึงทุกลูก แต่ข้อเสียก็คือมักจะมีอาการบาดเจ็บบ่อย และก่อนที่จะถูกปล่อยตัวไปก็มีอาการบาดเจ็บมาตลอดตั้งแต่ฤดูกาล 2019 ที่ผ่านมา แต่ตอนนี้ก็ถือว่าฟิตเต็มร้อยแล้ว
8.เจษฎา จิตสวัสดิ์
มาต่อกันที่กัปตันเจษ เจษฎา จิตสวัสดิ์ กองหลังระดับตำนานของทีม ที่ย้ายมาร่วมทีมกิเลนผยองในฤดูกาล 2009 หลังจากที่เลื่อนชั้นขึ้นมาสู่ไทยลีกปีแรก ซึ่งตอนนั้นก็ถือว่าเป็นปราการหลังระดับทีมชาติไทย และย้ายมาก็มาสวมปลอกแขนกัปตันทีมให้กิเลนผยอง
และพาทีมคว้าแชมป์ไทยลีกได้ 2 สมัยติดต่อกัน ในปี 2009,2010 และได้รางวัลกองหลังยอดเยี่ยมของปี 2009 ด้วย เป็นกองหลังที่มีความนิ่ง เก๋า อ่านเกมดี เป็นขวัญใจของแฟนๆ กิเลนผยอง ก่อนที่ในฤดูกาล 2011 จะย้ายไปร่วมทีมบีอีซี เทโร ศาสน จากนั้นก็ไปอยู่กับหลายสโมสรทั้งเชียงราย และพัทยา ยูไนเต็ด ปัจจุบัน เป็นสตาฟฟ์โค้ชของทีมโปลิศ เทโร
7.คิม ยู จิน
คนต่อมาคือปราการหลังชาวเกาหลีใต้ เจ้าของส่วนสูง 189 เซนติเมตร อย่าง คิม ยู จิน โดยย้ายมาร่วมทีมเมื่อฤดูกาล 2019 ซึ่งเป็นนักเตะระดับชั้นนำของเอเชีย ก่อนมาเมืองทอง เล่นอยู่ในไชนีส ซูเปอร์ลีก กับทีมเหลียวหนิง หวู่วิน ว่ากันว่าตอนที่เล่นให้เมืองทอง ได้ค่าเหนื่อยเกือบๆ ล้านต่อเดือน
ซึ่งคิม ยู จิน ถือเป็นปราการหลังที่ทำผลงานได้ดีมากๆ โดยเฉพาะลูกกลางอากาศที่เป็นจุดเด่น แต่น่าเสียดายที่อยู่กับทีมแค่ฤดูกาลเดียว ก่อนจะย้ายไปแบงค็อก ยูไนเต็ด ในฤดูกาลถัดมา และปี 2015 ก็กลับไปเล่นลีกจีนกับทีมเดิมอีกครั้ง ตอนนี้ที่เล่นให้เมืองทอง ถือว่าคือสุดยอดกองหลังคนนึงในไทยลีก
6.รี กวาง ชอน
ต่อมาคือรี กวาง ชอน กองหลังดีกรีกัปตันทีมชาติเกาหลีเหลือ ชุดลุยบอลโลก ปี 2010 ซึ่งย้ายมาร่วมทีมกิเลนผยอง เมื่อฤดูกาล 2012 ซึ่งตอนนั้นเป็นข่าวฮือฮามาก เพราะถือเป็นนักเตะจากเกาหลีเหนือ ที่ย้ายมาเล่นในไทยลีก
รี เป็นตัวหลักของเมืองทอง ชุดแชมป์ไร้พ่ายปี 2012 เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม มีความแข็งแกร่ง เป็นที่รักของแฟนบอล โดยอยู่กับทีม 2 ฤดูกาล ถึงปี 2013 ก่อนที่จะยกเลิกสัญญากันไปในปี 2014 โดยไปเล่นในทีมบ้านเกิด และกลับมาเมืองไทยอีกครั้งในฤดูกาล 2015 กับทีมพัทยา ยูไนเต็ด ลงเล่นในดิวิชั่น 1
5.มาริโอ อบรานเต้
คนต่อมาคือ มาริโอ อบานเต้ ปราการหลังชาวสเปน ที่เคยผ่านเวทีระดับลาลีกา มาแล้วทั้งกับสโมสร เกตาเฟ่, รีลเบติส และก่อนมาเมืองทอง เล่นให้กับรีลซาราโกซ่า โดยมาร่วมทีมกิเลนผยอง เมื่อฤดูกาล 2016
ซึ่งมาเป็นตัวหลักของทีมและอยู่ในชุดแชมปืปี 2016 ด้วย เป็นกองหลังจอมบุก แข็งแกร่ง มีความเร็ว มีจุดเด่นที่การลากบอลลุยขึ้นไปเล่นเกมรุก และทำประตูได้บ่อย ซึ่งเล่นได้ดีมากๆ แต่ฤดูกาลถัดมาเมืองทองได้กองหลังคนใหม่อย่าง เซลิโอ เข้ามา ทำให้ อบรานเต้ ต้องย้ายไปอยู่เทโร
4.เซลิโอ ซานโตส
คนต่อมา เซลิโอ ซานโตส กองหลังร่างยักษ์ชาวบราซิล ที่ย้ายมาร่วมทีมในฤดูกาล 2017 ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะในศึกเอเอฟซี ชปล. ที่ได้แมนออฟเดอะแมตช์หลายนัด มีจุดเด่นที่ลูกกลางอากาศ แต่ก็เล่นบอลกับเท้าได้ดี แม้จะตัวสูงใหญ่ แถมบุกได้ด้วย
แต่น่าเสียดายเมื่อเจ้าตัวมาได้รับบาดเจ็บหนักในช่วงต้นปี 2018 ทำให้ไม่ได้ลงเล่นให้กิเลนผยองเลย แม้จะหายเจ็บกลับมาเลกสองก้มีชื่อแค่ในบอลถ้วย สุดท้ายก็ยกเลิกสัญญากันไปในฤดูกาลนั้น
3.ภานุงพษ์ วงศ์ษา
คนต่อมาคือ "เจ้าใหม่" ภานุงพษ์ วงศ์ษา ที่ย้ายมาจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เมื่อฤดูกาล 2010 เพื่อมาเสริมความแข็งแกร่ง หลังจากที่กัปตันเจษเริ่มจะโรยรา ซึ่งก็มาจับคู่กับ ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ เล่นกันได้อย่างตัว และเป็นคู่เซ็นเตอรืที่ดีที่สุดของไทยลีกยุคนั้นก็ว่าได้
คว้าแชมป์ไทยลีกกับเมืองทองฯ 2 สมัย ในปี 2010 และ 2012 ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่พีคที่สุดในการค้าแข้งของเจ้าใหม่ด้วย ได้ก้าวขึ้นไปเป็นตัวหลักในทีมชาติไทย และก็อยู่กับเมืองทองถึงปี 2013 ก่อนที่ 2014 จะย้ายไปอยู่กับสุพรรณบุรี และมาแขวนสตั๊ดกับแบงค็อก เมื่อปี 2015-2017 ปัจจุบันก็เป็นสตาฟฟ์โค้ชของทีมบียูด้วย
2.ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์
คนต่อมาคือ "กัปตันโอ๊ต" ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ ที่ย้ายจากชลบุรี เอฟซี มาอยู่เมืองทองฯ เมื่อฤดูกาล 2009 และก็อยู่ในชุดแชมป์ไทยลีก 2009, 2010 และได้เป็นกัปตันทีมเมืองทองแบบเต็มตัวเมื่อฤดูกาล 2011 ต่อจากกัปตันเจษ
แต่ในช่วงปี 2011 เจ้าตัวได้รับบาดเจ็บที่สมอง มีอาการวูบหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็กลับมาได้แต่ฟอร์มก็ตกลงไป สุดท้ายก็ถูกปล่อยตัวไปให้มังกรไฟ ในช่วงเลกสองปี 2012 ด้วยค่าตัว 4 ล้านบาท ซึ่งตอนนั้นถือเป็นสถิติสูงสูดของการย้ายทีมในไทยลีก
1.นาโออากิ อาโอยามะ
มาถึงคนสุดท้ายที่ถือเป็นกองหลังที่อยู่กับเมืองทอง ยาวนานที่สุด 4 ฤดูกาล คนคนนั้นคือ นาโออากิ อาโอยามะ ปราการหลังทีมชาติญี่ปุ่น ที่มาร่วมทีมเมืองทอง ตั้งแต่ฤดูกาล 2015 และเป็นตัวหลักมาโดยตลอดจนถึงฤดูกาล 2018
เป็นกองหลังพันธุ์แกร่ง เล่นได้ดุดัน ตามสไตล์นักเตะญี่ปุ่น คว้าแชมป์ไทยลีกกับเมืองทองฯ 1 สมัยในฤดูกาล 2016 และเป็นกองหลังตัวหลักของเมืองทองตลอด 4 ฤดูกาล ไม่ว่าใครขะย้ายเข้าย้ายออกก็ต้องมายืนจับคู่กับอาโอยามะ โดยเจ้าตัวได้แยกทางกับเมืองทอง หลังจบฤดูกาล 2018 ก่แนจะไปร่วมทีมกัมบะ โอซาก้า ในเจลีกเมื่อปี 2019
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
