เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีเหตุการณ์บาดเจ็บของนักเตะที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นในวงการลูกหนัง อังเดร โกเมส แข้งที่กำลังฟอร์มดีกับ เอฟเวอร์ตัน ต้องได้รับบาดเจ็บกระดูข้อเท้าหัก หลังจากโดน ซน ฮึง-มิน ตัดฟาวล์ ก่อนเสียหลักมาปะทะกับ แซร์ช ออริเย่ร์ ในเกมที่ เอฟเวอร์ตัน เสมอ สเปอร์ส 1-1 เป็นเหตุให้เขาต้องบาดเจ็บหนัก และต้องบอกว่าปิดฉากฤดูกาลนี้แทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ อันดับต่อไปต้องขึ้นอยู่กับการฟื้นฟูร่างกายและการรักษาของแพทย์ ซึ่งระยะเวลายังพักไม่มีกำหนด
อย่างไรก็ตามในปัจจุบันการแพทย์ก้าวหน้า รวมไปถึงหากนักเตะมีความใจสู้มุ่งมั่น เขาก็สามารถกลับมาเฉิดฉายได้อีกครั้งในวงการลูกหนัง เช่นเดียวกับ 10 นักเตะเหล่านี้ ที่ต้องได้รับบาดเจ็บหนักพักไม่ต่ำกว่า 6 เดือนแต่สู้จนกลับมาเฉิดฉายในฟลอร์หญ้าได้อีกครั้ง
10. อารอน แรมซี่ย์
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2010 อารอน แรมซี่ย์ คือดาวโรจน์พุ่งแรงของ ปืนใหญ่ อาร์เซน่อล เขาย้ายจาก คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ มาร่วมทีม อาร์เซน่อล เมื่อ 18 เดือนก่อนหน้านี้ ในคืนที่หนาวเย็น และมีฝนลงเม็ด เขาถูกส่งลงสนามในฐานะดาวรุ่ง ก่อนเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เขาถูก ไรอัน ชอว์ครอสส์ กองหลังทีมสโต๊ค ซิตี้ เข้าปะทะอย่างรุนแรง แน่นอนว่า มันส่งผลให้หน้าแข้งของแรมซี่ย์บิดเบี้ยวผิดรูปไปทันที แม้แต่คู่กรณีอย่าง ชอว์ครอสส์ เมื่อเห็นอาการยังถึงปล่อยโฮออกมา อนาคตของดาวรุ่งอย่าง แรมซี่ย์ เหมือนจะจบลงตรงนั้น แต่ด้วยความใจสู้ ทำให้เขากลับมาลงเล่นได้อีกครั้ง เขาค่อย ๆ เรียกความฟิตจากการไปเล่นแบบยืมตัว และกลับมาเป็นกำลังหลักในทีมปืนใหญ่ได้อย่างเต็มภาคภูมิในฤดูกาล 2011/2012 นอกจากนี้ยังระเบิดฟอร์มในระดับทีมชาติกับเวลส์ด้วย โดยในศึก ยูโร 2016 แรมซี่ย์ ได้รับเลือกติดทีมยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเม้นท์ หลังพาทัพมังกรแดงทะลุเข้าถึงรอบรองชนะเลิศอย่างเหนือความคาดหมายฟุตบอลได้อีกครั้ง
*9. แจ็ค วิลเชียร์ *
แม้มีพรสวรรค์ เป็นอีกหนึ่งดาวรุ่งพุ่งแรงแต่อุปสรรคคือการบาดเจ็บบ่อยครั้งทำให้ลงเล่นไม่ต่อเนื่อง และโชคชะตาก็เล่นตลกกับเขาอีกครั้งในช่วงปี 2016 หลังจากที่เขาอยู่ในระหว่างการเล่นแบบยืมตัวกับ บอร์นมัธ และเป็นมิดฟิลด์ตัวหลักให้กับทีมในเวลานั้น กลับต้องโชคร้ายได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกับแฮร์รี เคน กองหน้าท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ในเกมพรีเมียร์ลีกที่ไก่เดือยทองเอาชนะไปได้ 4-0 และต้องถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนาม ก่อนที่ อาร์เซน่อล ยืนยันว่า วิลเชียร์ ปิดฉากฤดูกาลเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามด้วยความที่ อาร์แซน เวนเกอร์ คอยสนับสนุนเขาตลอด และเชื่อมั่นในตัวเขา เขาใช้เวลารักษาตัว 8 เดือน และสามารถกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตามหลังหายกลับมาเขาไม่อาจเบียดแย่งตัวหลักในทีม อาร์เซน่อล ได้ สุดท้ายตัดสินใจย้ายออกจากปืนใหญ่ มาร่วมทีม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ซึ่งเขาไม่ใช่ตัวหลัก แต่ก็ได้โอกาสลงสนาม ในฤดูกาลนี้ลงเล่นให้ เวสต์แฮม ไปแล้ว 7 เกม รวมทุกรายการ ทำไป 1 ประตู
*8. ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ *
เจ้าชายหมาป่าแห่งกรุงโรมอย่าง ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ ก็เคยบาดเจ็บหนักมาแล้วเช่นกันเมื่อต้นปี 2006 แต่โชคดีที่ความรุนแรงเพียงแค่กระดูกร้าว ซึ่งแพทย์รักษาด้วยการดามแผ่นเหล็กเอาไว้ที่ข้อเท้า น่าทึ่งที่ ต็อตติด ใช้เวลาเพียงแค่ 3 เดือนในการเรียกความฟิตกลับมาลงสนามอีกครั้งทั้งที่ยังมีแผ่นเหล็กอยู่ในร่างกายแบบนั้น แถมยังมีชื่อติดทีมชาติอิตาลีไปลุย ฟุตบอลโลก 2006 อีกต่างหาก หลังจากนั้นเขาค้าแข้งอยู่กับ โรม่า สโมสรเดียวที่เขาเล่นมาตลอดชีวิต พร้อมคว้าเกียรติยศมากมายทั้งในระดับสโมสรและส่วนตัว ก่อนตัดสินใจปิดฉากอาชีพค้าแข้งแขวนสตั๊ดเป็นวันแมนคลับเมื่อปี 2017
7. เชมัส โคลแมน
อีกหนึ่งแข้ง เอฟเวอร์ตัน ที่โชคร้ายบาดเจ็บหนักชนิดที่สะเทือนใจคนชมการแข็งขัน แบ็คขวาตัวเก่งของทีมอย่าง เชมัส โคลแมน ได้รับบาดเจ็บจนขาบิดผิดรูป ซึ่งเกิดขึ้นในระหว่างการไปรับใช้ทีมชาติไอร์แลนด์ เขาโดนเพื่อร่วมอาชีพอย่าง นีล เทย์เลอร์ นักเตะทีมชาติเวลส์ ซึ่งค้าแข้งให้กับ แอสตัน วิลล่า ในปัจจุบัน เสียบใส่แบบน่าเกลียดและรุนแรงถึงขั้นขาหักในนาทีที่ 69 เกมเสมอ เวลส์ 0-0 ศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนยุโรป เขาห่างหายหน้าตาจากสังเวียนฟาดแข้งไปนานนับปี ก่อนกลับมาลงสนามให้ เอฟเวอร์ตัน ได้อีกครั้ง ฤดูกาลนี้เขาลงเล่นให้ เอฟเวอร์ตัน ไปแล้ว 9 นัดรวมทุกรายการ แต่ความบังเอิญก็ช่างเล่นตลกเขาต้องมาอยู่ในเหตุการณ์ที่เพื่อนร่วมทีมได้รับบาดเจ็บหนักเช่นกัน อย่างไรก็ตามเขาได้รับคำชมจาก โปเช็ตติโน่ กุนซือ สเปอร์ส ที่เข้าไปช่วยปลอบใจ ซน ฮึง-มิน ซึ่งกำลังขวัญเสียอย่างหนักหลังเหตุการณ์บาดเจ็บของ โกเมส
6. อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน
ดิอ็อกซ์ ย้ายมาเล่นกับ ลิเวอร์พูล ต้นปี 2017 ซึ่งเขาโชว์ฟอร์มได้ดีเรื่อย ๆ กับพลพรรคเครื่องจักรสีแดง แต่โชคชะตากับเล่นตลกกำลังอยู่ในฟอร์มที่ดี แต่ต้องมาได้รับบาดเจ็บเอ็นหัวเข่าหนัก ระหว่างเกมรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่ ลิเวอร์พูล ถล่ม โรม่า 5-2 ทำให้เขาต้องปิดฉากฤดูกาลนั้นกับ ลิเวอร์พูล รวมถึงหมดสิทธิ์ช่วยทีมชาติอังกฤษ ลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย เจ้าตัวต้องเข้ารับการผ่าตัดหลายครั้ง และพักรักษาตัวไปนานนับปี ก่อนที่จะค่อย ๆ ฟื้นฟูร่างกาย กลับมาลงสนามเคาะสนิมได้อีกครั้งกับทีมเยาชนในเดือนมีนาคม ปี 2019 ที่ผ่านมา ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจฟื้นฟูร่ายกลาย ทำให้ คล็อปป์ ตัดสินใจใส่ชื่อเขาในชุดลุยยุโรป และเขาเป็นหนึ่งในขุนพลชุดคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก สมัยที่ 6 อีกด้วย ล่าสุดในฤดูกาลนี้เจ้าตัวค่อย ๆ เรียกฟอร์มเก่งออกมาเรื่อย ๆ กลายเป็นคีย์แมนสำคัญ ที่ทำประตูจากแถวสองให้ ลิเวอร์พูล ได้หลายเกมทีเดียว
5. เฮนริก ลาร์สสัน
ยอดดาวยิงสวีเดนผู้เป็นตำนานของ เซลติก ต้องได้รับบาดเจ็บขาหักในเกม ยูฟ่า คัพ พบกับ ลียง เมื่อปลายปี 1999 แต่ด้วยความสู้ไม่ยอมแพ้กับโชคชะตา เขาเรียกความฟิตกลับมาทันวันสุดท้ายของฤดูกาลดังกล่าว หลังจากนั้นก็ระเบิดฟอร์มยิงกระจุยกระจายตลอด 4 ฤดูกาลถัดมา ทำเอายานแม่อย่าง บาร์เซโลน่า ต้องเทียบท่าดึงตัวไปร่วมทีม แม้แต่ช่วงบั้นปลายอาชีพค้าแข้งที่ ลาร์สสัน กลับไปเล่นที่บ้านเกิดกับ เฮลซิงบอร์ก เขาก็ยังถูก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เซ็นสัญญามาเล่นแบบยืมตัวระยะสั้น ๆ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ทีมปีศาจแดงคว้าแชมป์ลีกได้อีกด้วย เรียกได้ว่าขาหักไม่ได้มีผลอะไรต่อความยอดเยี่ยมในตัวดาวเตะผู้นี้เลย นอกจากแค่ให้เขาได้พักผ่อนไปจากวงการลูกหนังแค่ช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้นเอง
4. ลุค ชอว์
ส่วนตัวของ ลุค ชอว์ เองอาจต้องพบกับปัญหาอาการบาดเจ็บ เล่นงานเป็นประจำ แต่ก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่รุนแรงเท่ากับเมื่อปี 2015 จังหวะบาดเจ็บของเขาเป็นหนึ่งใน 10 จังหวะบาดเจ็บที่น่ากลัวที่สุดในโลกลูกหนังในการค้นหาบนกูเกิ้ล ลุค ชอว์ ลงช่วยต้นสังกัดปีศาจแดงในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม พบกับทีมพีเอสวี ไอน์โฮเฟน จังหวะที่กระชากบอลหนี เอ็กตอร์ โมเรโน่ แนวรับของพีเอสวี กลับถูกสกัดอย่างรุนแรงจนกระดูกขาหัก 2 ที่ เจ้าตัวถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลทันที และต้องใช้เวลารักษาตัวนานถึง 9 เดือน แม้จะกลับมาเล่นฟุตบอลได้ดังเดิม แต่เจ้าตัวก็ยังเรียกฟอร์มเก่งแบบเดิม ๆ ไม่ได้อีกเลย อีกทั้งเขายังรู้สึดท้อแท้กับโชคชะตา จนคิดแขวนสตั๊ด แต่โชคดีที่มีเพื่อนและครอบครัวอยู่เคียงข้างทำให้เขายังสู้ต่อทุกวันนี้ แม้ว่าตอนนี้เขาจะต้องบาดเจ็บกล้ามเนื้อและฤดูกาลนี้ก็ลงเล่นให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปเพียง 214 แต่เขายังคงไม่ล้มเลิกความตั้งใจในการค้าแข้งอาชีพ
3. เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา
ศูนย์หน้าชาวโครเอเชียเชื้อสายบราซิลกำลังจะเป็นความหวังใหม่ในแนวรุกของ อาร์เซน่อล แต่เจ้าตัวก็มาขาหักเอาในช่วงต้นปี 2008 จากการปะทะกับ มาร์ติน เทย์เลอร์ ของ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ หลังจากนั้น เอดูอาร์โด้ ก็ใช้เวลา 1 ปีเต็ม ก่อนกลับมาลงสนามในเกม เอฟเอ คัพ เจอกับ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ แถมยังทำประตูจากลูกจุดโทษได้ด้วย จากนั้นในฤดูกาลถัดมาเขาก็กลายเป็นกำลังหลักของทีมปืนใหญ่อีกครั้ง โดยลงเล่นรวมทุกรายการ 32 เกม ยิง 6 ประตู ก่อนที่จะตัดสินใจย้ายไปค้าแข้งที่ ยูเครน กับ ชักตาร์ โดเน็ตส์ค พร้อมกับระเบิดฟอร์มยิงเอา ๆ พาทีมกวาดแชมป์ แต่ก็ต้องยอมรับว่าหลังจากนั้นเขาต้องประสบกับปัญหาบาดเจ็บเปราะบาง ปฏิเสธไม่ได้ว่าหากไม่เจ็บเขาอาจจะไปได้ไกลกว่านี้
*2. ซลาตัน อิบราฮิโมวิช *
พระเจ้าก็เจ็บได้ ซลาตัน ยอดดาวยิงชาวสวีดิชขวัญใจคอบอลหลายคน ได้รับบาดเจ็บในศึก ยูโรป้า ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดสองเมื่อวันที่ 20 เมษายน ปี 2017 ในเกมที่ต้นสังกัด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดรัง โอลด์ แทรฟฟอร์ด ต่อเวลาชนะ อันเดอร์เลชต์ จากเบลเยี่ยม 2-1 ซึ่งในช่วงนั้นเจ้าตัวกำลังมีอายุ 36 ปี ทำให้อาการบาดเจ็บหนักหนนี้อาจเป็นการปิดฉากอาชีพของเขา แต่ทว่าด้วยความสุดยอดของแข้งรายนี้ เขาไม่ยอมแพ้และทำทุกวิถีทางที่จะกลับมาลงสนามด้วยการหาหมอมือหนึ่งมารักษา ทั้งพยายามโหมหนักเร่งฟื้นฟูร่างกายจนแพทย์ต้องออกมาเตือน ซึ่งสุดท้ายเขาได้โชว์ความสุดยอดเมื่อสุดท้ายกลับมาลงสนามได้สำเร็จ แต่น่าเสียดายที่คอบอลไม่ได้เห็นเขาในพรีเมียรฺลีกต่อเพราะอาการบาดเจ็บเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สุดท้าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ต่อสัญญา ซลาตัน ตัดสินใจเซ็นสัญญาร่วมทีมกับ แอลเอ กาแล็กซี่ และระเบิดฟอร์มล่าตาข่าย สร้างความสุขให้คอบอลดังเขาลั่นวาจา
1. ซานติ กาซอร์ล่า
นี่คือตัวอย่างของแข้งนักสู้ ผู้ไม่เคยยอมแพ้ต่อโชคชะตาที่แท้จริง NEVER GIVE UP ซานติ กาซอร์ล่า คือนักเตะที่เกือบถูกตัดขา และผ่าตัดข้อเท้าหลายครั้งหลายครา เขาต้องทนทุกข์ทรมานได้รับบาดเจ็บยาวนานถึง 2 ปี ซึ่งต้องบอกว่าหากเป็นคนอื่นคงล้มเลิกความตั้งใจที่จะกลับมาเป็นนักเตะอาชีพไปแล้ว แต่ไม่ใช่แข้งรายนี้ กาซอร์ล่า เจ็บหนักที่เอ็นร้อยหวายเมื่อเดือนตุลาคมปี 2016 จากนั้นต้องผ่าตัดถึง 8 ครั้งจนเนื้อบริเวณนั้นแทบจะไม่เหลือต้องปลูกถ่ายเนื้อบางส่วนจากบริเวณท่อนแขนมาแปะ แน่นอนว่านอกจากสภาพร่างกายของเขาจะบอบช้ำ จิตใจของเขาก็เจ็บปวดไม่น้อย เขาเปิดเผยว่า คแพทย์บอกให้เขาทำใจ ซึ่งแค่เขากลับมาเดินกับลูกชายได้อีกครั้งในสวนหลังบ้านก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว แน่นอนว่าเขาคิดที่จะแขวนสตั๊ด อาร์เซน่อล ประกาศไม่ต่อสัญญากับ ซานติ กาซอร์ลา เท่ากับว่าเขาไม่ได้กลับมาลงสนาม ให้กับทีมรักในดวงใจอีกเลย นับตั้งแต่ได้รับบาดเจ็บยาว อย่างไรก็ตามด้วยกำลังใจจากคนรอบข้าง เขากลับมาลงสนามอีกครั้งในเกมอุ่นเครื่องช่วงปรีซีซันพบกับ เฮอร์คูเลส ภายใต้สีเสื้อต้นสังกัดในอดีตของเขาอย่าง บียาร์เรอัล ที่ให้โอกาสเขา ฟ้าหลังฝน สวยงามเสมอ สำหรับคนที่ไม่ยอมแพ้ เขากลายเป็นตัวหลักของเรือดำน้ำสีเหลือง บียาร์เรอัล ถูกเรียกให้ติดทีมชาติสเปนในเดือนพฤษภาคม ปี 2019 เป็นเวลาเกือบ 3 ปี นับตั้งแต่ที่เขาได้รับอาการบาดเจ็บ ที่หนักหนาต่อชีวิตของเขา แต่กาซอร์ลา ฝ่าฟันอุปสรรค กลับมายืนในจุดที่ตัวเองควรอยู่ได้อีกครั้ง
- เปี๊ยกบางใหญ่ -
