นายกิติพงษ์ อินต๊ะใจ รองประธานทีมหมูป่าทีนทอล์คอะคาเดมี่ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ทางทีมผู้บริหารของหมูป่า หารือกันแล้วว่าจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับผลประโยชน์ใดๆ ของนักฟุตบอล และโค้ชทั้ง 13 คนที่รอดชีวิตจากถ้ำหลวง เพราะตลอดเวลา 3 ปีที่เข้ามาพัฒนากลุ่มเด็กๆต้องการให้โอกาสเด็กๆได้ก้าวไปสู่การเป็นนักเตะอาชีพ และอยากให้เด็กๆได้ออกกำลังกายป้องกันการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งการทำทีมของเราทำมาด้วยใจใช้แรงกายแรงใจ ใช้ทรัพย์สินเงินทองที่ระดมกันมาจากผู้ที่สนับสนุนด้านการกีฬา และมีเด็กๆกว่า 80 ชีิวิตที่ดูแลกันมา เพราะะฉะนั้น หลังจากที่เด็กๆ และโค้ชทั้ง 13 คน จะได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ และภาคเอกชนอย่างไร ไม่ขอยุ่งเกี่ยว ขอให้เป็นการพิจารณาจากทางผู้ปกครอง
เป้าหมายตอนนี้คือเดินหน้าทำทีมหมูป่าทีนทอล์คอะคาเดมี่ต่อไป อยากให้สังคมแบ่งแยกให้ออก ซึ่งยอมรับว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์เด็กๆ และโค้ชทีมหมูป่าติดอยู่ในถ้ำหลวง ทีมผู้บริหารทุกคนเป็นห่วงไม่น้อยไปกว่าใครๆ จนถึงวันนี้ที่ทุกคนรอดปลอดภัย มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงกลับมา ก็ทำให้มีความสบายใจ ซึ่งปฎิเสธไม่ได้ว่าหลังจากนี้ไป เชื่อว่าเด็กๆ และโค้ชเอก จะต้องเผชิญคำถามมากมาย แต่สิ่งหนึ่งคือ วันไหนที่เด็กๆ กลุ่มนี้มีความพร้อมจะกลับมาฝึกซ้อมก็มาได้เลย เราไม่มีอภิสิทธิ์ให้ใครในทีม ทุกคนเท่าเทียมกันหมด และจนถึงตอนนี้ ทางทีมก็ไม่สามารถไปออกความคิดเห็นใดๆ แทนกลุ่มเด็ก แทนกลุ่มผู้ปกครองได้ พวกเราไม่สามารถไปก้าวก่ายสิทธิๆของเด็กได้ ตอนนี้เด็กอยู่ในความดูแลของภาครัฐ และผู้ปกครอง เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว
"เป็นเรื่องที่ตลกมาก เราเป็นเพียงทีมฟุตบอลเล็กๆในอำเภอแม่สาย เป็นคนในพื้นที่อำเภอแม่สาย เข้ามาช่วยเหลือสังคม ส่งเสริมด้านการกีฬา และการศึกษาให้เด็กที่ขาดแคลนโอกาส และทุนทรัพย์ พอมาถึงวันนี้กระแสสังคมบอกว่า เราจะขายทีม เราจะหาผลประโยชน์จากเด็กๆ ยิ่งไปกว่านั้น มีข่าวลือว่าจะขายทีมให้ต่างชาติ มันจะเป็นไปได้อย่างไร ไม่มีการโอนสิทธิ์ให้ใครทั้งนั้น ต่อให้เข้ามาให้ 100 ล้านบาท 1,000 ล้านบาท มันก็ขายไม่ได้ เพราะทุกอย่างมันเกิดขึ้นด้วยใจของพวกผมชาวแม่สาย และทำให้กับเด็กแม่สาย พวกเราไม่ได้อดอยาก มี10บาทเราก็กิน10บาท ไม่ใช่เรื่องอะไรที่พวกเราจะต้องมากอบโกย หรือจะมาฉวยโอกาส ไม่อยากตอบโต้คนภายนอกอีกแล้ว คนจะคิดในแง่ลบก็ห้ามกันไม่ได้ แต่คนในพื้นที่จะรู้กันดีว่าอะไรเป็นอะไร บางอย่างก็ไม่สามารถไปตอบคำถามคนได้ทุกคน " นายกิติพงษ์ กล่าว
นาที่นี้ผมอยากให้เด็กๆ และโค้ชเอก ทั้ง 13 คน ได้พักผ่อน ได้ใช้สิทธิ์ในการอยู่ในพื้นที่ส่วนตัวบ้าง ได้มีเวลาให้กับครอบครัว ได้มีเวลาให้กับการเรียน และอยู่แบบธรรมชาติเหมือนที่เคยเป็น แต่อยากให้แยกแยะระหว่างเด็กๆ กับทีมหมูป่าออกจากกัน ซึ่งสิ่งไหนที่มีภาครัฐ หรือภาคเอกชน รวมทั้งสโมสรฟุตบอลที่ต้องการเข้ามาสนับสนุนให้กับเด็กๆ ทั้ง 80 ชีวิต ทางทีมผู้ลบริหารยินดีรับฟัง และรับคำแนะนำ การสนับสนุนในด้านการกีฬาฟุตบอลจากทุกๆ ฝ่าย เพราะถึงอย่างไร ในอนาคตข้างหน้า ทีมหมูป่าทีนทอล์คอะคาเดมี่ก็ต้องพัฒนา และเติบโตตามความมุ่งมั่นของเด็กๆ โค้ช และผู้สนับสนุน ซึ่งถือว่า เวลานี้จะเป็นโอกาสที่ดีทางด้านการพัฒนาฟุตบอลเปิดช่องทางให้เด็กๆในอำเภอแม่สายได้รับการฝึกฝน และก้าวสู่วงการนักฟุตบอลอาชีพต่อไป
