โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

“TRAIL and TAIL” แหล่งแฮงค์เอ้าท์ใหม่ของคนเมืองและสัตว์เลี้ยง ตอบโจทย์ทุกความต้องการแห่งแรกในไทย

Manager Online

อัพเดต 23 เม.ย. 2562 เวลา 06.53 น. • เผยแพร่ 23 เม.ย. 2562 เวลา 06.53 น. • MGR Online

Facebook :Travel @ Manager

อากาศร้อนๆ แบบนี้การที่จะพาสัตว์เลี้ยงแสนรักออกไปเดินเล่น ท่ามกลางบรรยากาศที่ร้อนระอุขนาดนี้อาจจะไม่เหมาะสมนัก เราจึงอยากแนะนำให้รู้จักกับโครงการ “TRAIL and TAIL Pet-Friendly Community” คอมมูนิตี้รูปแบบใหม่สำหรับคนและสัตว์เลี้ยงครบวงจรที่สุดแห่งแรกในประเทศไทย ที่เพิ่งเปิดให้บริการในช่วงต้นเดือนเมษยนที่ผ่านมา

โครงการ “TRAIL and TAIL Pet-Friendly Community” (เทรล แอนด์ เทล เพ็ท-เฟรนด์ลี่ คอมมูนิตี้) ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 39 มีพื้นที่ 4 ไร่ โดยในอดีตพื้นที่บริเวณนี้เป็นบ้านเก่าของครอบครัวและเครือญาติของ ชาณา เหตระกูล กรรมการบริหาร บริษัท ทรี ๓ แซงชัวรี่ ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปบ้านนี้ก็ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา จึงได้มีการตัดสินใจทำโครงการนี้ขึ้นมา เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองที่เลี้ยงสัตว์แต่ไม่ค่อยมีพื้นที่ให้สัตว์เลี้ยงได้วิ่งเล่นหรือทำกิจกรรมร่วมกับเจ้าของ

สำหรับภายในโครงการ “TRAIL and TAIL” จะประกอบไปด้วยสามส่วนหลักๆ ด้วยกัน เริ่มที่ “Dog Park” เป็นสนามหญ้ากว้างๆ ขนาด 500 ตารางเมตร ที่นอกจากน้องหมาจะได้สนุกและรู้สึกผ่อนคลายแล้ว ยังได้เข้าสังคมกับเพื่อน น้องหมาตัวอื่นๆ นอกจากนี้ ยังมีมุมที่เป็น Sensory Park ที่เป็นสวนสมุนไพรมีกลิ่น อาทิ ตะไคร้ ใบเตย ผักชีลาว ฯลฯ เพื่อให้น้องหมาฝึกสมองโดยการดมกลิ่น ที่ไม่เป็นอันตรายกับน้องหมา โดยเจ้าของสามารถนั่งดูน้องหมาวิ่งเล่นได้อย่างสบายใจ

ส่วนถ้าน้องหมาตัวไหนเป็นน้องหมาหน้าสั้น ขี้ร้อน ก็มีห้อง “Indoor Play” ที่เป็นสนามวิ่งเล่นในร่ม ที่มีเครื่องปรับอากาศเย็นสบาย ซึ่งตอบโจทย์กับอากาศที่ร้อนจัดในช่วงนี้มาก หรือแม้ว่าในวันที่ฝนตก น้องหมาก็ยังสามารถมาวิ่งเล่นได้เช่นกัน

รวมถึงมี “Swimming Pool” สระว่ายน้ำระบบเกลือในร่มที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ขนาดสระ 4x10 เมตร ความลึก 1 เมตร สระว่ายน้ำที่นี่ได้มีการออกแบบให้เหมาะที่จะเป็นสระว่ายน้ำของน้องหมาโดยเฉพาะ เพราะพื้นที่โดยรอบสระจะปูด้วยทรายล้างกันลื่น และมีระบบน้ำวนเพื่อให้น้ำในสระสะอาดอยู่ตลอดเวลา รวมถึงมีพี่เลี้ยงคอยดูแล ฝึกสอน เตรียมความพร้อมให้น้องหมาก่อนลงสระ และมีชูชีพให้สำหรับน้องหมาที่เพิ่งมาว่ายเป็นครั้งแรกอีกด้วย โดยเจ้าของสามารถลงว่ายน้ำกับน้องหมาได้ เรียกว่าได้ใช้เวลาสนุกร่วมกันจริงๆ

ต่อที่ “Dog Hotel” โรงแรมสำหรับน้องหมา ที่มีการออกแบบในโทนสีพาสเทลเพื่อให้รู้สึกผ่อนคลาย มีเพดานสูง โปร่งโล่ง สะอาด ให้บรรยากาศอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน มีพี่เลี้ยงประจำคอยดูแล 24 ชม. มีคุณหมอจาก HATO Pet Wellness Center เข้ามาช่วยเช็คสุขภาพ สัปดาห์ละ 2 ครั้ง พร้อมพาน้องหมาออกมาขับถ่าย วิ่งเล่นตามตารางเวลาที่กำหนด

โดยห้องพัก มี 3 ขนาด คือ S (0.8x0.8 ม.) ซึ่งห้องขนาดนี้สามารถนำแผ่นกั้นระหว่างห้องออก กลายเป็นห้อง 2S ได้, M (0.8x1.6 ม.) และ L (1.2x1.4 ม.) รวมถึงมีห้องรวมสำหรับน้องหมาที่ไม่ชอบอยู่ในกรง ซึ่งห้องแบบนี้น้องหมาที่จะอยู่ได้จะต้องเป็นน้องหมาที่เป็นมิตร สามารถอยู่รวมกับน้องหมาตัวอื่นได้ โดยห้องทั้งหมดจะมีทั้งแบบค้างคืน และแบบรายวัน

สำหรับน้องแมวที่นี่ก็มี “Kofuku Cat Hotel” โรงแรมสำหรับน้องแมวเช่นกัน ซึ่งคำว่า “Kofuku” (โคฟูกุ) ในภาษาญี่ปุ่น หมายถึง “ความสุข” ภายในมีการตกแต่งในสไตล์ญี่ปุ่น เพื่อให้ได้มู้ดแอนด์โทนที่ดูอบอุ่น ให้น้องแมวรู้สึกผ่อนคลายเหมือนอยู่บ้าน มีอุณหภูมิที่เย็นสบาย ด้วยเครื่องปรับอากาศตลอด 24 ชั่วโมง โดยน้องแมวที่จะเข้าพัก จะต้องมีสมุดประจำตัวที่มีรายการจดบันทึกประวัติส่วนตัว และบันทึกการฉีดวัคซีนมาด้วยทุกครั้ง

โดยมีห้องทั้งหมด 19 ห้อง แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ ห้องแคปซูล อยู่ได้ 1 ตัว, ห้องดีลักซ์ อยู่ได้สูงสุด 3 ตัว, ห้องสวีท อยู่ได้สูงสุด 6 ตัว และห้องเพ้นท์เฮ้าส์ อยู่ได้สูงสุด 8 ตัว ซึ่งทุกห้องในโรงแรมหมาและโรงแรมแมวจะมีกล้องวงจรปิดเพื่อให้เจ้าของได้ดูน้องหมาน้องแมวขณะนำมาฝากได้

รวมถึงที่นี่ยังมี “HATO Pet Wellness Center” ศูนย์ยกระดับคุณภาพชีวิตสัตว์เลี้ยงครบวงจร ซึ่งเป็นคลินิกสัตว์เลี้ยงแห่งแรกในไทยที่ให้คำปรึกษาเเละดูเเลสัตว์เลี้ยงแบบองค์รวม โดยมีสัตว์เเพทย์ดูเเลทุกขั้นตอน มีบริการอาบน้ำตัดขนโดยช่างตัดขนสุนัขเเละแมวประสบการณ์ 15 ปี มีสปาสำหรับสัตว์เลี้ยง โดยใช้ผลิตภัณฑ์ organic และเวชภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ

และมี “Moggie Doggie Pet Shop” ที่มาพร้อมกับสโลแกน “Everyday is Happy” เป็นร้านจำหน่ายสินค้าพรีเมี่ยมสำหรับน้องหมา-น้องแมว อาทิ อาหาร ขนม ของเล่น เสื้อผ้า และมีสินค้ามีความแปลกใหม่จาก Local Designer ที่มีลักษณะเฉพาะตัวเพื่อสุนัขและแมวที่ปัจจุบันเปรียบเสมือนคนในครอบครัว

นอกจากนี้ที่ชั้นสองของโครงการยังมีการจัดแสดงงานศิลปะจากกลุ่มศิลปินผู้รักสัตว์ที่ได้ถ่ายทอดผลงานออกมาในรูปแบบของการสร้างงานศิลปะที่หลากหลาย อาทิ จิตรกรรม ประติมากรรมนูนต่ำ ภาพพิมพ์ เป็นรูปสัตว์เลี้ยงในลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สื่อถึงบุคลิก ขี้อ้อน บ้าพลัง หรือหน้าตาตลก และพฤติกรรมที่ชวนหัวเราะอยู่ด้วยแล้วอารมณ์ดี โดยนิทรรศการนี้จะเปิดให้ชมความน่ารักจนถึงเดือนมิถุนายนเลยทีเดียว และจะมีการหมุนเวียนเป็นนิทรรศการอื่น

ส่วนที่สองของโครงการคือ “Tea Factory and More” ร้านอาหารและเครื่องดื่มที่สามารถพาน้องหมาและน้องแมวเข้าไปนั่งทานอาหารด้วยกันได้ โดยเป็นร้านอาหารที่มีกลิ่นอายของโรงงานชาที่ศรีลังกา ผสมผสานการใช้เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์เครื่องใช้แบบยุโรป มีเมนูซุป สลัด พาสต้า เบอร์เกอร์ สไตล์โฮมเมดด้วยวัตถุดิบที่เลือกสรรอย่างมีคุณภาพ ในส่วนของเครื่องดื่มเน้นชาเป็นหลัก โดยคัดสรรและนำเข้าชาที่หากยากจาก 8 ประเทศ มีรสชาติอร่อยและมีบุคลิกเฉพาะตัว

และในส่วนสุดท้ายที่เตรียมจะเปิดให้บริการเพิ่มเติมในช่วงกลางปีนี้ จะเป็นส่วนของ “Dogkery Cafe” คาเฟ่สำหรับน้องหมาโดยเฉพาะที่มีบริการขนมและอาหารเพื่อสุขภาพ รวมทั้ง Fitness และ Beauty Clinic ซึ่งจะยิ่งตอกย้ำให้ “TRAIL and TAIL” กลายเป็นคอมมูนิตี้ที่เติมเต็มความสุขให้กับคนเมืองและคู่ซี้สี่ขาได้ทุกวันอย่างแท้จริง

************************************

โครงการ “TRAIL and TAIL Pet-Friendly Community” ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 39 เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00 - 19.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 09-9352-2564 หรือที่ Facebook: www.facebook.com/trailandtailbkk

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0