โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ยอดออกหุ้นกู้ 4 เดือนแรกไม่สะดุด ‘COVID-19 รอบ3’...เพิ่มขึ้น 38% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน !!!

Wealthy Thai

อัพเดต 14 ก.ค. 2564 เวลา 05.42 น. • เผยแพร่ 14 ก.ค. 2564 เวลา 05.48 น. • สรวิศ อิ่มบำรุง

หลัง “ธนาคารกลางสหรัฐ (FED)” ออกมาส่งสัญญาณคงอัตราดอกเบี้ยต่ำใกล้ 0% ไปอีกประมาณ 2 ปี ในการประชุมรอบล่าสุดนั้น
เข้าเดือนพ.ค.มาได้ไม่นานJanet Yellen” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐ ก็ออกมาส่งสัญญาณว่า FED ควรจะต้องขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆ นี้เพื่อสกัดความร้อนแรงทางเศรษฐกิจ ก่อนจะออกมาเป็นเรื่องโอละพ่อว่าไม่ได้สื่อสารในลักษณะนั้น เพราะท้ายสุด FED ควรจะมีอิสระในการดำเนินนโยบายการเงินด้วยตัวเองอยู่แล้ว
เป็นเอา “จบข่าว” ที่ทำให้ตลาดสับสนและปั่นป่วนไปพอสมควรแม้จะเพียงช่วงข้ามวันก็ตาม
วันนี้ ทีมงาน ‘Wealthythai’ จะพามาอัพเดทข้อมูลใน “ตลาดตราสารหนี้ไทย” ในช่วง 4 เดือนแรกที่ผ่านมากัน

คาด “ดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐ” ขึ้นยาก…เพราะทั่วโลกยังต้องใช้ดอกเบี้ยต่ำกู้เศรษฐกิจ

ท่าทีของ “ธนาคารกลางสหรัฐ (FED)” เองที่ส่งสัญญาณคงดอกเบี้ยต่ำ ตลอดจนมุมมองของเหล่าบลจ.ส่วนใหญ่ก็ไปในทิศทางเดียวกันว่ายังไม่น่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายได้ในส่วนของสหรัฐ แม้ว่าเศรษฐกิจจะมีการฟื้นตัว การกลับมาของเงินเฟ้อ แต่เป็นสิ่งที่ FED เห็นอยู่แล้วและต้องการให้เกิดขึ้น
เช่นเดียวกับ “อริยา ติรณะประกิจ” รองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) ที่มองว่า แม้เศรษฐกิจสหรัฐจะมีการเติบโตที่ดี การกลับมาของเงินเฟ้ออาจเป็นเหตุผลให้มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายได้ แต่ถ้ามองโดยบริบทโดยรอบทั่วโลกในปัจจุบันประเทศส่วนใหญ่ยังคงใช้นโยบายดอกเบี้ยต่ำเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากพิษ COVID-19 อยู่ ดังนั้นการจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐเองก็คงไม่ง่าย แต่ในส่วนของ ‘อัตราดอกเบี้ยระยะยาว (US10Y)’ มีการปรับขึ้นมาแล้วจากความต้องการใช้เงินจำนวนมหาศาลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ ซึ่งการปรับขึ้นในครั้งหลังนี้ก็ค่อยเป็นค่อยไปไม่ได้กระชากขึ้นเร็วจนกระทบตลาดเหมือนช่วงที่ผ่านมา

(อริยา ติรณะประกิจ)

“ตั้งแต่ต้นปีมาถึงสิ้นเม.ย.พันธบัตร 10 ปีสหรัฐ (US10Y) ปรับขึ้นมาประมาณ 0.71% ในขณะที่พันธบัตร 10 ปีไทย (TH10Y) ปรับขึ้นมา 0.54% ล้อไปกับการปรับขึ้นของสหรัฐ ส่วนเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยมีความชันลดลงในเดือนเม.ย.21 โดยรุ่นอายุคงเหลือน้อยกว่า 5 ปี ปรับขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่รุ่นอายุคงเหลือมากกว่า 5 ปีปรับตัวลดลง”

4 เดือนแรก “เงินต่างชาติ” ไหลเข้าสุทธิ 30,423 ล้านบาท

ส่วนเงินลงทุนของต่างชาติช่วง 4 เดือนแรกนั้น มีเงินไหลเข้าสุทธิ 30,423 ล้านบาท โดยเพิ่งไหลกลับเข้ามาในช่วงเดือนมี.ค. และเม.ย. จำนวน 5,086 ล้านบาท และ 30,176 ล้านบาท ตามลำดับ ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติถือครองตราสารหนี้ไทยรวม 883,523 ล้านบาท

“ในวันที่ 5 พ.ค. ที่ผ่านมาก็ยังมีเงินไหลเข้าสุทธิอยู่ 1,821 ล้านบาท แต่เงินทุนต่างชาติเป็นอะไรที่คาดการณ์ได้ยาก ปัจจุบันปัจจัยต่างประเทศเป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนเม็ดเงินส่วนนี้ และที่ไหลเข้าไทยมาเชื่อว่าเป็นอานิสงส์จากการที่ต่างชาติโยกเงินเข้ามาในตลาดเกิดใหม่เอเชีย ก็มีบางส่วนที่ไหลเข้ามาในไทยด้วย แต่ถ้ามองในแง่พื้นฐานเศรษฐกิจของไทยเองนั้นก็ยังแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านด้วย ตรงนี้ก็อาจจะมีส่วนด้วยเช่นกัน”

COVID-19 ระลอก3”…ไม่กระทบการออกหุ้นกู้ในตลาดแรก-คาดทั้งปีตามเป้า 7.0 – 7.5 แสนล้านบาท        

COVID-19” ระบาดระลอก 3 ในครั้งนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบกับการออกหุ้นกู้เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในการระบาดระลอกแรกแต่ประการใด ทั้งนี้พบว่าในช่วง 4 เดือนแรก มีมูลค่าการออกหุ้นกู้ระยะยาว 274,139 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 74,977 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 38% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งส่วนหนึ่งเชื่อว่าผู้ออกเองก็มีประสบการณ์และวางแผนรับมือได้จึงไม่น่ากังวลแต่ประการใด

 

“โดยคาดว่าทั้งปียอดออกหุ้นกู้จะเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ 700,000 – 750,000 ล้านบาท ได้ ในส่วนของดีมานด์ในประเทศยังมีอยู่มากที่จะรองรับซัพพลายตราสารหนี้ในประเทศทั้งภาครัฐและเอกชน ดังนั้นอัตราผลตอบแทนระยะยาวของไทย (TH10Y) ก็คงไม่ได้ปรับตัวขึ้นไปมากเหมือนสหรัฐ”
ในส่วนของผลกระทบจาก ‘COVID-19 ระลอก 3’ก็มีบ้างในกลุ่มผู้ออกที่เคยขอยืดอายุการชำระหนี้ออกไปจากผลกระทบในครั้งก่อน กลุ่มนั้นก็มีการขอยืดเวลาการชำระหนี้ออกไปอีกประมาณ 1 ปี และในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ตรงๆ นั้น ก็อาจกระทบกับอันดับความน่าเชื่อถือของตัวบริษัทได้เช่นกัน แต่ก็เป็นเฉพาะกลุ่มจริงๆ
ในภาพรวมแล้ว “ตลาดตราสารหนี้ไทย” ในช่วง 4 เดือนแรกก็ถือว่ายังอยู่ในภาวะปกติ ไม่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ระลอก 3 แต่ประการใด อีกทั้งยังมีเงินต่างชาติไหลเข้ามาตรงข้ามกับฝั่งตลาดหุ้นไทยที่เงินต่างชาติยังคงไหลออกสุทธิอยู่ หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจอยู่บ้างไม่มากก็น้อย

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0