โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

“CT Calcium score” ตรวจหินปูนหลอดเลือด ประเมินความเสี่ยง! “โรคหัวใจ”

สยามรัฐ

อัพเดต 20 ต.ค. 2562 เวลา 23.50 น. • เผยแพร่ 20 ต.ค. 2562 เวลา 23.50 น. • สยามรัฐออนไลน์
“CT Calcium score” ตรวจหินปูนหลอดเลือด ประเมินความเสี่ยง! “โรคหัวใจ”

ปัจจุบันโรคหลอดเลือดหัวใจตีบและตันเฉียบพลันเป็นการเจ็บป่วยที่สำคัญของคนไทย โดยที่มีอัตราการเจ็บป่วยและอัตราการเสียชีวิตที่เกิดจากโรคนี้มากขึ้น

อาการที่สำคัญที่เกิดขึ้นคือ เจ็บหน้าอกและเหนื่อย ไม่สามารถออกกำลัง หรือปฏิบัติภารกิจทางกายได้ ซึ่งมักจะเกิดจากหลอดเลือดที่ตีบ และการเสียชีวิตก็มักจะเกิดมาจากมีภาวะการตายเฉียบพลันของกล้ามเนื้อหัวใจ เกิดจากหลอดเลือดที่อุดตันโดยไม่มีอาการเตือนมาก่อน

พญ.พิชชญา บุญดี แพทย์ด้านอายุรศาสตร์โรคหัวใจ โรงพยาบาลพระรามเก้า กล่าวว่า การตีบของหลอดเลือด หรือการตันของหลอดเลือดนั้น มักเกิดจากการสะสมของไขมันในผนังหลอดเลือดอย่างค่อยเป็นค่อยไป เป็นภาวะเสื่อม (Degenerative Change) อย่างหนึ่งของร่างกาย โดยไขมันในผนังหลอดเลือดนี้ จะมีแคลเซียมหรือหินปูนสะสมร่วมไปด้วย จนทำให้หลอดเลือดมีลักษณะแข็ง

การตรวจวัดหินปูนหรือแคลเซียมที่เกาะอยู่กับหลอดเลือดหัวใจก็เปรียบเสมือนการตรวจวัดการเกาะหรือสะสมของไขมันในผนังหลอดเลือดนั่นเอง

ในปัจจุบันมีวิธีการตรวจเพื่อประเมินโอกาสที่จะเกิดปัญหาจากโรคหลอดเลือดหัวใจหลายอย่างด้วยกันอาทิเช่น การตรวจระดับไขมันในเลือด การวัดความดันโลหิต การเดินสายพาน (Exercise StressTest) เป็นต้น

การตรวจแคลเซียมหลอดเลือดหัวใจ (CoronaryCalcium Detection) ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งซึ่งมีหลักฐานการศึกษาวิจัยรองรับมากมายว่าระดับหรือค่าที่ตรวจพบได้ สามารถทำนายโอกาสที่จะเกิดการเจ็บป่วยจากโรคหลอดเลือดหัวใจได้ชัดเจน

CT Coronary Calcium Score สามารถตรวจวัดระดับแคลเซียมที่ผนังหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ และสามารถตรวจวัดได้ก่อนมีอาการของโรคหัวใจนานหลายปี ค่าที่วัดได้จาก CT Coronary Calcium Scoreนี้ จะนำไปใช้เพื่อการบอกโอกาสการเกิดหลอดเลือดหัวใจตีบในอนาคตได้

นอกจากนี้ ผู้ที่มีโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง หรือสูบบุหรี่ ก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันมากขึ้นหลายเท่าตัว จึงควรได้รับการตรวจเพื่อที่จะนำข้อมูลไปประกอบการคำนวณอัตราเสี่ยง และมาตรการตรวจรักษา ป้องกัน ที่เหมาะสมกับบุคคลได้

สำหรับผู้ที่ควรตรวจ CT calcium score คือ ผู้ป่วยทั่วไปที่อายุมากกว่า 45 ปีขึ้นไป ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงระดับปานกลางของการเกิดโรคหัวใจ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน และผู้ป่วยโรคไตวาย เป็นต้น

ทั้งนี้ หากทุกคนให้ความใส่ใจดูแลร่างกายและหัวใจให้แข็งแรงอยู่เสมอ ด้วยการรับประทานอาหารที่ประโยชน์ ไขมันต่ำ หวานน้อย เค็มน้อย และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เข้ารับการตรวจเช็คสุขภาพร่างกายทุกปี ก็จะเป็นการช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจตีบและตันเฉียบพลันได้

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0