โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

“BGRIM”ชี้ Perpetual Bond 8 พันล้านคำนึงผลกระทบตามมาตรฐานบัญชีใหม่แล้ว

สยามรัฐ

อัพเดต 20 ต.ค. 2562 เวลา 03.41 น. • เผยแพร่ 20 ต.ค. 2562 เวลา 03.41 น. • สยามรัฐออนไลน์
“BGRIM”ชี้ Perpetual Bond  8  พันล้านคำนึงผลกระทบตามมาตรฐานบัญชีใหม่แล้ว

บี.กริม เพาเวอร์ ผู้ผลิตไฟฟ้าภาคเอกชนชั้นนำของไทย มั่นใจนักลงทุนสนใจจองซื้อหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนที่จะเสนอขายแก่ผู้ลงทุนทั่วไปในระหว่างวันที่ 19-21 พ.ย.นี้ ยันไม่กระทบจากมาตรฐานบัญชีใหม่ ชูจุดแข็งของธุรกิจอุตสาหกรรมผลิตไฟฟ้าที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับภาครัฐระยะยาวและมีรายได้ที่มั่นคง เผยการระดมทุนผ่านตราสารหนี้ในครั้งนี้เพื่อรองรับแผนการเติบโตอย่างมีศักยภาพในอนาคต จากการขยายโรงไฟฟ้าเพิ่มทั้งในไทยและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

นางประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ หรือ BGRIM ผู้ผลิตไฟฟ้าภาคเอกชนชั้นนำของไทย เปิดเผยว่า บริษัทเชื่อว่า หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนของ BGRIM ที่จะออกและเสนอขายมูลค่า 6 พันล้านบาท พร้อมส่วนสำรองเสนอขายอีกไม่เกิน 2 พันล้านบาท รวม 8 พันล้านบาทที่จะเสนอขายให้แก่นักลงทุนทั่วไปในระหว่างวันที่ 19-21 พ.ย.นี้จะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี

ทั้งนี้มีปัจจัยสนับสนุนหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการที่หุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ BBB+ และอันดับความน่าเชื่อถือองค์กรที่ระดับ A แนวโน้ม “คงที่” จากบริษัททริสเรทติ้ง จำกัด ซึ่งเป็นระดับลงทุนได้หรือ Investment Grade การกำหนดผลตอบแทนในช่วง 5 ปีแรกอยู่ที่ 5% ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราผลตอบแทนที่น่าพอใจ และการที่บริษัทอยู่ในอุตสาหกรรมไฟฟ้าที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับภาครัฐระยะยาวและมีรายได้ที่มั่นคง มีโอกาสในการเติบโตในอนาคตอย่างไม่หยุดยั้งจากความต้องการใช้ไฟฟ้าทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศ

ส่วนกรณีที่นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับการใช้มาตรฐานการบัญชีใหม่ TAS 32 ที่ส่งผลกระทบกับบริษัทที่ออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนฯนั้น ขอชี้แจงให้ทราบว่า บริษัทได้คำนึงถึงผลกระทบจากการนำมาตรฐานการบัญชีใหม่มาใช้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯของ BGRIM ที่จะออกและเสนอขายในครั้งนี้ จึงมีข้อกำหนดเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่จะจัดประเภทเป็นทุนทางบัญชีภายใต้มาตรฐานการบัญชีใหม่ได้ทั้งจำนวน

สำหรับ BGRIM เป็นหนึ่งในธุรกิจหลักภายใต้กลุ่ม บี.กริม ซึ่งดำเนินธุรกิจเคียงคู่กับประเทศไทยมายาวนานกว่า 140 ปี และเป็นผู้บุกเบิกการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานหลายด้าน รวมถึงเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายแรกๆของประเทศไทย ภายใต้ BGRIM ซึ่งดำเนินธุรกิจไฟฟ้ามายาวนานกว่า 20 ปี

โดยปัจจุบัน BGRIM มีกำลังการผลิตที่มาจากโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศประมาณ 75% และในต่างประเทศ 25% โดยบริษัทมีเป้าหมายที่จะขยายกำลังการผลิตเป็น 5,000 เมกะวัตต์ภายในปี 2565 จากปัจจุบันที่มีโครงการโรงไฟฟ้าทั้งหมดรวมโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนาทั้งหมด 56 โครงการ กำลังการผลิตรวม 3,245 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทยอยเปิดให้ดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในปี 2568

ขณะเดียวกันนอกจากจะอยู่ในอุตสาหกรรมผลิตไฟฟ้าที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่มีความจำเป็นแล้ว เรายังมีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการโครงการโรงไฟฟ้าประเภทต่างๆมาอย่างต่อเนื่องและยาวนานรวมถึงมีความมั่นคงทางกระแสเงินสดจากการทำสัญญาขายไฟฟ้าระยะยาว 20-25 ปีกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.)การไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) รวมถึงการไฟฟ้าลาว และการไฟฟ้าเวียดนาม และมีสัญญาขายไฟฟ้าและไอน้ำกับโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมชั้นนำในประเทศไทย 6 แห่ง ซึ่งมีอายุสัญญาประมาณ 10-15 ปี

“จากความมั่นคงของธุรกิจและกระแสเงินสด รวมถึงผลตอบแทนของหุ้นกู้ในระดับที่น่าพอใจ จะทำให้นักลงทุนมั่นใจและสนใจที่จะเข้าลงทุนในหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนของบริษัท ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจและเหมาะกับการลงทุนในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ และภาพรวมการลงทุนยังมีความผันผวนจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ”

โดย ณ วันที่ 30 มิ.ย.62 ต้นทุนทางการเงินของบริษัทลดลงมาที่ระดับ 4.5% จากการบริหารจัดการโครงสร้างทางการเงินของบริษัท โดยมีสัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อส่วนของเจ้าของที่ 1.6 เท่าตามงบการเงินรวมของบริษัท โดยหนี้สินสุทธิส่วนมากของบริษัทกว่า 70% เป็นหนี้สินสุทธิระดับโครงการหรือบริษัทย่อยของบริษัท ซึ่งบริษัทเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และมีอำนาจควบคุม จึงมีการรวมทรัพย์สินและหนี้สินของบริษัทย่อยในงบการเงินรวมของบริษัท ซึ่งหนี้สินระดับโครงการเป็นการกู้เงินในรูปแบบของเงินกู้โครงการที่ภาระผูกพันของผู้ถือหุ้นมีจำกัดและหากพิจารณาในระดับของงบการเงินเฉพาะกิจการ บริษัทมีสัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อส่วนของเจ้าของ ณ วันที่ 30 มิ.ย.62 เพียง 0.9 เท่า

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0